Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet เชื่อมโลกเรือนเวลาและศิลปะอย่างสมบูรณ์แบบ

0

มีไม่บ่อยครั้งที่เราจะได้เห็นนาฬิกาของ Hublot มาพร้อมกับสายโลหะ และผลผลิตใหม่อย่าง Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet คือ ความลงตัวที่เกิดจากการทำงานร่วมกันมานานถึง 5 ปีของทั้งคู่จนนำไปสู่การสร้างสรรค์นาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่ที่ผสมผสานงานยอดเยี่ยมในโลกแห่งเรือนเวลาและศิลปะเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนและลงตัว

Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet
Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet

Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet เชื่อมโลกเรือนเวลาและศิลปะอย่างสมบูรณ์แบบ

  • ความโดดเด่นแห่งเรือนเวลาที่เกิดจากความร่วมมือของ Hublot และ Richard Orlinski

  • มีด้วยกัน 4 รุ่นย่อยทั้งหน้าปัดเงิน-ดำบนตัวเรือนและสายแบบไทเทเนียมขัดเงา และแบบประดับเพชร

  • มีราคาอยู่ที่ 537,000 บาทในรุ่นสายไทเทเนียมขัดเงา และ 1,545,000 บาทในรุ่นสายไทเทเนียมขัดเงาประดับเพชร

- Advertisement -

มีความน่าสนใจอยู่ 3 เรื่องสำหรับนาฬิกาเรือนใหม่ของ Hublot (อูโบลท์) ที่ใช้ชื่อว่า Classic Fusion Orlinski Bracelet (คลาสสิค ฟิวชั่น ออร์ลินสกี เบรซเลต) และแน่นอนว่า ครั้งแรกที่แฟนๆ ได้เห็นต่างชื่นชมกับความกล้า (อีกครั้ง) ของ Hublot ที่พลิกแนวทางในการสร้างสรรค์นาฬิกาด้วยรูปทรงแบบที่เราคุ้นเคยกันมานาน มาสู่ผลงานที่มีความโดดเด่นที่ไม่ใช่เฉพาะแค่สาย แต่รวมถึงทุกรายละเอียดที่อยู่บนตัวนาฬิการุ่นนี้กันเลยทีเดียว

ที่เกริ่นในตอนแรกถึงความน่าสนใจของนาฬิกาเรือนนี้ เราคงต้องบอกอย่างนี้ อย่างแรกคือ การที่ Hublot ร่วมมือกับ Richard Orlinski (ริชาร์ด ออร์ลินสกี) มาอย่างยาวนานถึง 5 ปี แต่ตามปกติแล้วผลงานจากการ Collaboration กับศิลปินชื่อดังต่างๆ กับ Hublot มักจะออกมาในรูปแบบของนาฬิกาสปอร์ตเรือนโตๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่และน่าสนใจ รวมถึงการสร้างสรรค์เพื่อให้เป็นนาฬิกาที่อยู่ในคอลเล็กชั่นหลักของแบรนด์ และไม่ใช่แค่การผลิตเพื่อเป็นรุ่นพิเศษเหมือนกับที่ผ่านๆ มา

Hublot และ Orlinshi ร่วมงานกันมาตั้งแต่ปี 2017 และถือเป็นศิลปินที่อยู่ในกลุ่ม Hublot Loves Art ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือ ศิลปินที่เปรียบเสมือนกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ในอีกสาขาของ Hublot โดยผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็มีทั้ง Shepard Fairey (เชพเพิร์ด แฟรี่), Maxime Pleascia-Buchi (แม็กซิม เพลสเซีย-บุชชี), Marc Ferrero (มาร์ค เฟอร์เรโร) และ Takashi Murakami (ทาคาชิ มุราคามิ) เป็นต้น

การสะท้อนถึงความเป็นคอลเล็กชั่นหลักของตัวนาฬิกาคือ มีการผลิตออกมาถึง 4 รุ่นย่อยให้เลือกสัมผัสตามความต้องการของลูกค้า นั่นคือ

  • 550.NS.2200.NS.ORL22 ตัวเรือนและสายไทเทเนียม หน้าปัดผลิตจากเซรามิกสีขาว

  • 550.NS.1800.NS.ORL22 ตัวเรือนและสายไทเทเนียม หน้าปัดผลิตจากเซรามิกสีดำ

  • 550.NS.2200.NS.3804.ORL22 ตัวเรือนไทเทเนียม หน้าปัดผลิตจากเซรามิกสีขาว สายไทเทเนียมประดับด้วยเพชร Brilliant Cut สีขาวจำนวน 486 เม็ด

  • 550.NS.1800.NS.3804.ORL22 ตัวเรือนไทเทเนียม หน้าปัดผลิตจากเซรามิกสีดำ สายไทเทเนียมประดับด้วยเพชร Brilliant Cut สีขาวจำนวน 486 เม็ด

ซึ่งตรงนี้จะต่างจากการเป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ส่วนใหญ่จะมีการผลิตในจำนวนจำกัด หรือ Limited Edition

‘หลังจากเรานำเสนอผลลัพธ์แห่งความร่วมมือครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน ค่อนข้างยากที่จะจินตนาการถึงผลลัพธ์แห่งการสร้างสรรค์ของ Richard จะกลายมาเป็นคอลเลกชันโดดเด่นของเรือนเวลา HUBLOT และด้วยชัยชนะสูงสุดทางด้านเทคนิคจากการทำงานร่วมกัน เราจึงสามารถพัฒนาสายนาฬิกาโลหะแบบผสานนี้ขึ้นได้สำเร็จ และได้ขยายขอบเขตแห่งศิลปะของ Richard รายล้อมสู่รอบข้อมือด้วยมิติใหม่เช่นในวันนี้’ Ricardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป) CEO ของ Hublot กล่าว

ประการที่ 2 ที่ผ่านมาบุคลิกแห่งการสร้างสรรค์ที่สะท้อนตัวตนของ Orlinski ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่บนตัวเรือนหรือไม่ก็หน้าปัดเป็นหลัก แต่ต้องบอกว่าสำหรับ Classic Fusion Orlinski Bracelet ศิลปินจากฝรั่งเศสคนนี้ได้ร่วมมือกับ Hublot ในการสร้างสรรค์ความงามของตัวนาฬิกาตั้งแต่หน้าปัดไปจนถึงตัวสายโลหะ เพราะตามปกติแล้ว นาฬิกาของแบรนด์นี้มักจะเลือกใช้สายยาง หรือไม่ก็หนังเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของตัวนาฬิกามากกว่า

เหมือนกับผลงานของ Orlinski ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นหรือนาฬิกาที่ทำร่วมกับ Hublot ตัวตนและความเป็น Orlinski ถูกสื่อออกมาอย่างโดดเด่นในทุกรายละเอียดของตัวนาฬิกา เราจะได้เห็นหน้าปัดแบบเซรามิกที่มีการปัดเงาและประกอบด้วยเส้นสายที่ทำให้ดูมีมิติอย่างชัดเจนขึ้น สวยงามสะดุดตาอย่างไม่น่าเชื่อ และเส้นสายแบบเดียวกันนี้ถูกนำมาใช้กับรายละเอียดที่อยู่บนตัวเรือนแบบไทเทเนียมขัดเงา และสายโลหะของตัวนาฬิกาจนทำให้ ‘ความเป็น Orlinski’ บนนาฬิกาเรือนนี้มีให้สัมผัสอย่างชัดเจน

ประการสุดท้าย นาฬิการุ่นนี้ถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า Hublot ยังไม่ลืมนาฬิกาแบบสายที่เป็น Bracelet ที่ผลิตจากโลหะ หรือเซรามิก ซึ่งแม้ว่านาฬิกาส่วนใหญ่ในช่วงหลังๆ มักจะเน้นความสปอร์ตด้วยสายยางหรือไม่ก็สายหนังเป็นหลักก็ตาม โดย Classic Fusion Orlinski Bracelet ได้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานที่ลงตัวเพื่อทำให้นาฬิกาที่มีขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตรรุ่นนี้เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาเรือนเวลาที่คลาสสิคแต่มีสไตล์เฉพาะตัว

Classic Fusion Orlinski Bracelet มาในสายสร้อยข้อมือโลหะผสานรูปแบบใหม่ โดยช่างนาฬิกาทุกคนต่างตระหนักดีว่านับเป็นความท้าทายอย่างมากในการออกแบบสายสร้อยข้อมือประเภทนี้ ที่ต้องมั่นใจว่าสายสร้อยข้อมือนี้จะสามารถผสานทั้งเชิงจักรกลและความสวยงามได้อย่างสมบูรณ์แบบกับตัวเรือนนาฬิกา ทั้งยังต้องมอบความสะดวกสบายในการสวมใส่ที่ประยุกต์ได้กับทุกๆ ขนาดของข้อมือ

ทีมวิศวกรของ Hublot  ได้แสดงออกถึงความเชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคทั้งหมดในการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีเหลี่ยมมุมรวมถึงขอบขัดเงาและเหลี่ยมด้านต่างๆ ที่นิยามถึงบุคลิกอันมีเอกลักษณ์เฉพาะของรูปลักษณ์ตัวเรือน ขอบด้านข้าง เม็ดมะยม และสายสร้อยข้อมือโลหะ ได้เป็นอย่างดี พร้อมถ่ายทอดไว้ด้วยสถาปัตยกรรมอันประณีต ผ่านการขัดขอบลบมุมและเหลี่ยมด้านจากวัสดุไทเทเนียมที่มีองค์ประกอบถึง 83 ส่วน

ความสวยงามที่มาจากการทำงานร่วมกันของ Hublot และ Orlinski ได้ถูกผสมผสานให้เข้ากับการขับเคลื่อนของกลไกอัตโนมัติในรหัส HUB1100 ได้อย่างลงตัว โดยกลไกชุดนี้ขับเคลื่อนด้วยความถี่ในระดับ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4Hz จึงทำให้เข็มวินาทีสามารถกวาดตามวงรอบของหน้าปัดได้อย่างต่อเนื่องและราบเรียบ พร้อมกำลังสำรอง 42 ชั่วโมง

นอกจากนั้นในรุ่น Alternative Pave ยังมีการประดับเพชรแบบ Brilliant Cut สีขาวตามจุดต่างๆ ของตัวนาฬิการวมแล้วมากถึง 652 เม็ด ประกอบไปด้วยบนตัวเรือน 112 เม็ด ขอบตัวเรือน 54 เม็ด และสาย 486 เม็ด จึงทำให้ตัวนาฬิกามีความสะดุดตาและโดดเด่นด้วยการส่งประกายยามเมื่อเล่นกับแสง

                โดยรุ่นธรรมดาจะมีราคาอยู่ที่ 537,000 บาท และรุ่น Alternative Pave ที่มาพร้อมการประดับเพชรจะอยู่ที่ 1,545,000 บาท

ข้อมูลทางเทคนิค : Hublot Classic Fusion Orlinski Bracelet

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 40 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 11.10 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน : ไทเทเนียมขัดเงา
  • กระจก : Sapphire
  • กลไก : อัตโนมัติ รหัส HUB1100
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง : 42 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 50 เมตร