วัสดุอย่าง Ever-Brilliant Steel เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ปี 2020 แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนำมาใช้ในการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษแบบ Limited Edition ของ Grand Seiko แต่สำหรับครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทางแบรนด์ได้นำมาใช้ในการผลิตตัวเรือนและสายของนาฬิกาในคอลเล็กชั่นปกติ และเปิดตัวผ่านทางรุ่น Grand Seiko SLGH013
Grand Seiko SLGH013 ส่องประกายด้วย Ever-Brilliant Steel
-
ครั้งแรกสำหรับคอลเล็กชั่นปกติของ Grand Seiko ที่มีการนำวัสดุ Ever-Brilliant Steel มาใช้ในการผลิตตัวเรือนและสาย
-
จำหน่ายครั้งแรกกับรุ่น SLGH013 ที่มีขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตร และขับเคลื่อนด้วยดลไก 9SA5
-
ราคาอยู่ที่ 371,700 บาท
ชื่อของ Ever-Brilliant Steel วัสดุที่อยู่บนพื้นฐานของสแตนเลสสตีลแบบใหม่ของ Grand Seiko และ Seiko ที่ถูกนำมาใช้เฉพาะนาฬิการุ่นพิเศษของทั้ง 2 แบรนด์ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กลายมาเป็นวัสดุที่อยู่ในรุ่นปกติแล้ว เมื่อ Grand Seiko ได้นำวัสดุประเภทนี้มาใช้ในการผลิตตัวเรือนและสายของรุ่น Grand Seiko SLGH013 พร้อมการขับเคลื่อนของกลไก 9SA5 แบบ Hi-Beat
Ever-Brilliant Steel เป็นสแตนเลสสตีลแบบพิเศษที่ทาง Seiko พัฒนาขึ้นมาและนำมาใช้กับนาฬิการุ่นต่างๆ เป็นสเตนเลสสตีลที่มีระดับความต้านทานการกัดกร่อนที่สูงกว่าซึ่งทำให้มีความทนทานสูงกว่าชนิดสเตนเลสสตีลที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในนาฬิกายุคปัจจุบัน โดยมีค่า PREN (Pitting Resistance Equivalent Number) หรือค่าความต้านทานการกัดกร่อนที่สูงกว่าเกรดของเหล็กที่ใช้กับนาฬิการะดับสูงโดยส่วนใหญ่ถึง 1.7 เท่า โดย PERN เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในการใช้วัดความต้านทานต่อการกัดกร่อน อีกทั้งยังมีผิวขาวเจิดจ้าที่ช่วยเสริมความงดงามให้กับนาฬิกา
นับจากปี 2020 โดยเริ่มจากนาฬิกา Limited Edition ที่สร้างสรรค์จากนาฬิกาดำน้ำ 3 รุ่นดังที่เปิดตัวในปี 1965, 1968 และ 1975 จากนั้นจึงนำมาใช้กับนาฬิกาของ Grand Seiko ทั้งรุ่น SLGA013 และ SLGH009 ซึ่งเปิดต้นเมื่อต้นปีนี้ และเป็นนาฬิการุ่นผลิตพิเศษสำหรับฉลองครบรอบ 50 ปีในการเปิดตัวรุ่น 44GS ซึ่งเป็นนาฬิกาที่สร้างมาตรฐานของ Grand Seiko ที่เรียกว่า Grand Seiko Style ขึ้นมา ดังนั้นการเปิดตัวกับรุ่น SLGH013 จึงถือเป็นครั้งแรกของ Grand Seiko และ Seiko ที่วัสดุชนิดนี้ถูกนำมาใช้กับนาฬิกาที่เป็นคอลเล็กชั่นปกติของแบรนด์
Ever-Brilliant Steel ที่ใช้ใน Grand Seiko SLGH013 มีทั้งตัวเรือนและสาย โดยตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร ผ่านการขัดเงาด้วยเทคนิค Zaratsu (ซารัตสึ) มอบพื้นผิวที่เรียบเนียนและปราศจากการบิดเบือนของภาพสะท้อนอย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับหน้าปัดสีฟ้าอ่อนสุดนุ่มนวลที่ใช้พื้นผิวลวดลายแปลกตาดุจหิมะที่กำลังเริ่มละลายเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ บนภูเขาอิวาเตะ ซึ่งมียอดเขาสูงตระหง่านถึง 2,038 เมตร ที่ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากสตูดิโอชิสุกุอิชิ ของ Grand Seiko อันเป็นสถานที่ผลิตนาฬิการะบบจักรกลทุกรุ่นทุกแบบของ Grand Seiko โดยสอดประสานรวมเข้าด้วยกันของหน้าปัดที่มีความราบเรียบอย่างสมบูรณ์และแผ่กว้าง ทำให้แสงตกกระทบได้ง่าย จึงสามารถได้ชื่นชมหน้าปัดที่สวยงาม มีชีวิตชีวา สมดังความตั้งใจของดีไซน์เนอร์ที่ต้องการถ่ายทอดความงามของธรรมชาติสู่เรือนเวลาพิเศษเรือนนี้
หลักชั่วโมงและชุดเข็มได้รับการขัดแต่งมาอย่างดี หลักชั่วโมงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกามีความกว้างเป็น 2 เท่าของหลักชั่วโมงชิ้นอื่น ๆ เพื่อให้อ่านค่าเวลาได้ง่ายไม่ว่าจะอ่านจากมุมใด ผลที่ได้ก็คือ หน้าปัดที่เปล่งประกายอย่างระยิบระยับซึ่งยังคงมอบความชัดเจนในระดับสูง เป็นการแสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นของ Grand Seiko ที่จะถูกสืบสานตลอดไป
นาฬิกาเรือนนี้มากับคาลิเบอร์ 9SA5 Automatic Hi-beat 36000 เดินด้วยความถี่ในระดับสูง 5Hz และมอบความแม่นยำในระดับสูงที่และสามารถสำรองพลังงานได้อย่างยาวนานถึง 80 ชั่วโมง
Grand Seiko SLGH013 ที่มากับตัวเรือนและสายซึ่งผลิตจาก Ever-Brilliant Steel เริ่มทำตลาดแล้ว โดยคุณสามารถสั่งได้จาก Online Boutique ของ Grand Seiko ได้ ส่วนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 371,700 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Grand Seiko SLGH013 Ever-Brilliant Steel
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 40 มิลลิเมตร
- ความหนา : 11.7 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 47 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : Ever-Brilliant Steel
- กระจก : Sapphire
- กลไก : อัตโนมัติ 9SA5
- ความถี่ : 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 80 ชั่วโมง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline