คอลเล็กชั่น MRG-B2100 ของ Casio G-SHOCK เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยรุ่น MRG-B2100R-2AJR มากับสายรับเบอร์ Durasoft พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมึกสีน้ำเงินที่ใช้ในการวาดภาพ โดยคงความสวยงามและความโดดเด่นของตัวเรือนไทเทเนียมพร้อมขอบตัวเรือน COBARION
Casio G-SHOCK MRG-B2100R-2AJR หน้าปัดสีน้ำเงินสุดสวยพร้อมสาย Durasoft
-
รุ่นที่ 3 จากคอลเล็กชั่น MRG-B2100
-
ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมพร้อมขอบตัวเรือน COBARION แต่มากับสายรับเบอร์ Durasoft
-
หน้าปัดสีน้ำเงินได้รับแรงบันดาลใจจากหมึกสีน้ำเงินที่ใช้ในการวาดภาพ
หลังจากที่ในปีที่แล้วเปิดตัว MRG-B2100 ออกสู่ตลาดด้วยการยึดดีไซน์แห่งความคลาสสิคของ 2100 ซีรีส์ ที่ผสมผสานกับงานช่างฝึมือของชาวญี่ปุ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อนที่จะตามด้วยรุ่น MRG-B2100D-1 ในเวลาต่อมา ในตอนนี้ Casio G-SHOCK เปิดตัวทางเลือกที่ 3 ของนาฬิกาซีรีส์ด้วยรุ่น Casio G-SHOCK MRG-B2100R-2AJR บนความงดงามของหน้าปัด และการขัดแต่งตัวเรือน แต่ให้ความสบายในการสวมใส่ด้วยสายยาง
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
MR-G ถือเป็นซีรีส์สูงสุดของ Casio G-SHOCK ซึ่งในช่วงปี 2022 ทางแบรนด์ได้นำชื่อมาใช้ด้วยการผสมผสานกับตัวเรือนอันสุดคลาสสิคที่เป็น Iconic ของ G-SHOCK พร้อมการชูจุดเด่นในเรื่องของวัสดุศาสตร์ ความละเอียดในการผลิตชิ้นส่วน และที่สำคัญคือ การขัดแต่งตัวเรือนที่จะสอดรับกับเรื่องราวหรือสตอรี่ที่มีความเชื่อมโยงกับงานศิลป์หรืองานฝีมือที่เป็นมรดกตกทอดของชาวญี่ปุ่น
MRG-B2100 เปิดตัวเมื่อกลางปี 2024 โดยชูดจุดเด่นตามคอนเซ็ปต์ของ MR-G และได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันโดยใช้วัสดุโลหะที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันในซีรีส์ 2100 ของ G-SHOCK รูปทรงที่ซับซ้อนของขอบตัวเรือนประกอบด้วย 27 ชิ้นส่วน ซึ่งช่วยให้แต่ละส่วนได้รับการขัดเงาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ส่งผลให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงขึ้น ขอบตัวเรือนด้านบนทำจาก “COBARION” ซึ่งว่ากันว่ามีความแข็งกว่าไททาเนียมบริสุทธิ์ประมาณ 4 เท่า และมีความเงางามเท่ากับแพลตตินัม
ขณะที่ตัวสายซึ่งใน 2 รุ่นก่อนหน้านั้น ผลิตจาก DAT55G ซึ่งเป็นโลหะผสมไทเทเนียมที่มีความแข็งประมาณสามเท่าของไทเทเนียมบริสุทธิ์ แต่สำหรับ MRG-B2100R-2AJR จะมากับสายรับเบอร์แบบ Durasoft ที่มีลวดลายสวยงาม และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการสวมใส่ และมาพร้อมกับบานพับสายแบบ 3 ทบ
แน่นอนว่าหน้าปัดยังได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โครงสร้างและลวดลายมาจากงานฝีมือชั้นสูงของเทคนิคการต่อไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า คิกุมิ พื้นผิวหน้าปัดได้รับการออกแบบให้เป็นลอนคลื่นพร้อมช่องเปิดเล็ก ๆ ที่ซับซ้อน เพื่อสร้างลวดลายเรขาคณิตที่สื่อถึงโลกทัศน์ของงานโครงตาข่าย Kumiko (เป็นเทคนิคของญี่ปุ่นในการประกอบชิ้นไม้ให้เป็นลวดลายเรขาคณิตโดยไม่ต้องใช้ตะปูยึด) ได้อย่างสวยงาม ลวดลายนี้ไม่เพียงแต่เป็นดีไซน์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ช่องเล็ก ๆ ที่ประณีตเหล่านี้ยังช่วยให้แสงผ่านเข้าไปเพียงพอเพื่อผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย แต่ส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ สีบนหน้าปัด ซึ่งเป็นสีน้ำเงินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหมึกสีน้ำเงินที่ใช้ในการวาดภาพด้วยหมึกและการประดิษฐ์ตัวอักษร หน้าปัดตกแต่งด้วยกระบวนการเคลือบไอสีน้ำเงินเพื่อให้เข้ากับเข็มวินาทีสีทอง
สำหรับโมดุลเป็นรหัส 5718 สามรถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและผ่านทาง Bluetooth แบบกินไฟต่ำ และเชื่อมต่อได้ในรัศมี 2 เมตรห่างจากโทรศัพท์มือ ฟังก์ชั่นหลักๆ คือ การจับเวลา ตั้งปลุก โดยทุกอย่างสามารถปรับหรือเซ็ตผ่านทางแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ อีกทั้งยังมีระบบ Tough Solar เพื่อช่วยในการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในตัวเก็บประจุ
MRG-B2100R-2AJR เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นแล้วกับราคา 550,000 เยน
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK MRG-B2100R-2AJR
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 44.4 มิลลิเมตร
- Lug to Lug :49.5 มิลลิเมตร
- ความหนา :13.6 มิลลิเมตร
- กระจก: Sapphire
- กลไก: Module 5718 แสดงผลแบบเข็ม
- พลังงาน:เปลี่ยนพลังแสงอาทิตย์มาเป็นกระแสไฟฟ้า / จับเวลา / เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน
- การกันน้ำ: 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline