Casio เพิ่มคอลเล็กชั่นใหม่ให้กับนาฬิการุ่นพิเศษที่เป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของ G-Shock ด้วยเวอร์ชัน G-Shock 40th Anniversary Recrystallized ซึ่งเป็นการนำสแตนเลสสตีลมาผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Recrystallized โดยจะมีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อยแบ่งเป็นตัวเรือนและสายแบบสตีลจำนวน 2 รุ่นและอีกรุ่นเป็นเรซินที่มาจากพลาสติกชีวมวล
Casio G-Shock 40th Anniversary Recrystallized ความพิเศษกับวัสดุแบบใหม่
-
เปิดตัวรุ่นใหม่กับวัสดุที่ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Recrystallized สำหรับรุ่นตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล
-
มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อยแบ่งเป็นตัวเรือนและสายแบบสตีลจำนวน 2 รุ่นและอีกรุ่นเป็นเรซินที่มาจากพลาสติกชีวมวล
-
การทำตลาดจะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้
Casio ยังฉลองช่วงเวลาพิเศษของการครบรอบ 40 ปีของแบรนด์ G-Shock อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวผลผลิตใหม่ที่เรียกว่า Casio G-Shock 40th Anniversary Recrystallized ซึ่งจะมีทั้งรุ่นที่ใช้วัสดุที่ผ่านกระบวนการนี้ทั้งตัวเรือนและสาย รวมถึงรุ่นที่ใช้เฉพาะฝาหลังเท่านั้น โดยจะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นคือ GMW-B5000PS สีเงิน, GMW-B5000PG สีทอง และ DW-5040PG
จุดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้คือ การนำเสนอวัสดุที่ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Recrystallized หรือสเตนเลสสตีลที่ผ่านกระบวนการเสริมความแข็งชั้นลึกและการตกผลึกซ้ำ ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้ได้ชั้นเนื้อเหล็กแข็งโดยการเติมก๊าซลงในผิวเหล็กจนทำให้วัสดุแข็งตัว แทนที่จะเคลือบผิวเพื่อให้แข็งภายนอก นับเป็นความก้าวหน้าล่าสุดของ Casio กับวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของ G-SHOCK ที่เริ่มต้นก้าวแรกในปี 1983 โดย Casio พัฒนากระบวนการเสริมความแข็งชั้นลึกที่ออกแบบมาเพื่อสเตนเลสสตีลโดยเฉพาะ กระบวนการนี้ทำให้ได้วัสดุที่แข็งกว่าสเตนเลสสตีลทั่วไปประมาณ 3 เท่า
นอกจากนี้ คาสิโอยังได้เพิ่มองค์ประกอบการออกแบบลงในสเตนเลสสตีลด้วยการผ่านกรรมวิธีทางความร้อนและตกผลึกซ้ำ (recrystallized) ทำให้เกิดรูปแบบผลึกบนเนื้อด้าน เศษโลหะเนื้อละเอียดกระจายอยู่ทั่วพื้นผิวทำให้ได้รูปลักษณ์ที่ดูสมบุกสมบัน แต่ละองค์ประกอบจะมีลายเนื้อวัสดุเป็นรูปผลึกไม่ซ้ำกัน ทำให้นาฬิกามีรูปแบบ สี และความวาวแตกต่างกันไปในแต่ละเรือน
สำหรับรุ่น GMW-B5000PS และ GMW-B5000PG ทำขึ้นโดยต่อยอดมาจากดีไซน์รุ่นโลหะล้วน GMW-B5000D ซึ่งก็เป็นรุ่นที่ลอกแบบมาจากนาฬิกา G-SHOCK ระดับตำนานรุ่นแรกสุดอย่าง DW-5000C นาฬิกาพิเศษฉลองครบรอบ 40 ปีทั้งสองรุ่นนี้ทำจากสเตนเลสสตีลเนื้อแข็งพิเศษสำหรับส่วนประกอบภายนอก เช่น กรอบหน้าปัดและสายนาฬิกา ซึ่ง 2 รุ่นนี้จะมีการใช้โมดุลในรหัส 3539 ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทางบลูทูธ
ส่วนรุ่น DW-5040PG แม้ว่าจะมีการใช้ตัวเรือนและสายที่ผลิตจากเรซินแต่ที่ฝาหลังก็ใช้สแตนเลสสตีลที่ผ่านกระบวนการนี้ ขณะที่บนหน้าปัดของตัวนาฬิกามีการสลักคำว่า “PROJECT TEAM ‘Tough’” ซึ่งเป็นชื่อทีมงานผู้พัฒนานาฬิกา G-SHOCK รุ่นแรกสุด โดยนาฬิการุ่นนี้จะเลียนแบบดีไซน์ G-SHOCK รุ่นออริจินัล และใช้กระบวนการเสริมความแข็งชั้นลึกกับฝาหลัง, หัวสายนาฬิกา, ห่วงรัดสายนาฬิกา และองค์ประกอบโลหะอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวกรอบหน้าปัดและสายนาฬิกายังทำจากพลาสติกชีวมวลอีกด้วย ส่วนรุ่นนี้ใช้โมดุลธรรมดาที่มีรหัส 3421
นาฬิกาทั้งหมดจะเริ่มวางขายและทำตลาดในญี่ปุ่นเดือนเมษายนนี้ โดยราคาอยู่ที่ 38,500 เยนสำหรับรุ่น DW-5040PG ตามด้วย 121,000 เยนเท่ากันสำหรับรุ่น GMW-B5000PS และ GMW-B5000PG
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline