Audemars Piguet Royal Oak Turquoise Dial หน้าปัดเทอร์ควอยซ์บนตัวเรือนทอง 18k

Audemars Piguet  เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Royal Oak Selfwinding รังสรรค์ด้วยทองคำพร้อมหน้าปัดเทอร์ควอยซ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นอัญมณีล้ำค่าซึ่งหาได้ยากและมาพร้อมกับความหมายเชิงบวก มาพร้อมกับตัวเรือนทองคำ 18k ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 37 มิลลิเมตร

Audemars Piguet Royal Oak Turquoise Dial หน้าปัดเทอร์ควอยซ์บนตัวเรือนทอง 18k

• เป็นครั้งแรกนับจากปี 2018 ที่ Audemars Piguet ผลิตหน้าปัดที่มาจากแร่ธรรมชาติ

• จับคู่กับตัวเรือนขนาด 37 มิลลิเมตรที่ผลิตจากทองคำ 18 กะรัต

• ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 5900 ที่มีกำลังสำรอง 60 ชั่วโมง

- Advertisement -

Audemars Piguet  (โอเดอมาร์ ปิเกต์) เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของนาฬิการุ่น Royal Oak Selfwinding ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรที่รังสรรค์ขึ้นด้วยทองคำ 18 กะรัตทั้งเรือน พร้อมหน้าปัดที่ดูโดดเด่นสะดุดตาด้วยเทอร์ควอยซ์ธรรมชาติ

การผสมผสานวัสดุที่ล้ำค่านี้ทำให้นาฬิกามีความโดดเด่นเปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เทอร์ควอยซ์ซึ่งถูกใช้ในการสร้างสรรค์เครื่องประดับมากว่า 3,000 ปี เป็นหินที่หาได้ยากและเปี่ยมไปด้วยความหมายเชิงบวก การคัดสรรมาใช้ในคอลเลกชัน Royal Oak จึงนับว่ามีความกลมกลืนและเข้ากันอย่างเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

แม้ว่าหน้าปัดแร่หรือหินมีค่าจะมีให้เห็นบนนาฬิกาพกพามาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่การใช้หน้าปัดหินที่มีความบอบบางนี้เพิ่งจะเริ่มแพร่หลายในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นาฬิกาข้อมือที่มีขนาดหน้าปัดเล็กลง Audemars Piguet  สร้างสรรค์นาฬิกาหน้าปัดหินในช่วงปลายทศวรรษ 1960 จนถึงทศวรรษ 1990 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของการฟื้นฟูการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบนาฬิกาข้อมือ จึงเป็นที่มาให้นาฬิกาข้อมือถูกประดับประดาด้วยสีสันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีของพลอยตาเสือ ไพฑูรย์ อะวนทูรีน โกเมน มุก โอปอล ทับทิม อเมทิสต์ และแจสเปอร์

Royal Oak Selfwinding มีขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตร มาพร้อมหน้าปัดเทอร์ควอยซ์ที่โดดเด่น โดยจะมีการนำเทอร์ควอยซ์มาตัดเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นจึงนำมาขัดแบบพ่นทรายและขัดเงา ก่อนนำไปรวมเข้ากับตัวเรือนทองเหลืองชุบทองด้านนอก แผ่นหน้าปัดหนาเพียง 0.75 มิลลิเมตร และแต่ละหน้าปัดจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเนื่องจากหินทุกชิ้นมีองค์ประกอบ เนื้อสัมผัส และสีตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนกัน จึงใช้วิธีตัดเฉือนและเก็บรายละเอียดสุดท้ายที่แตกต่างกัน

เทอร์ควอยซ์ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศเม็กซิโกได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถันเพื่อนำมาประดับบนหน้าปัดนาฬิการุ่นใหม่เรือนนี้ โดยหน้าปัดของนาฬิกาแต่ละเรือนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากลวดลายสีเข้มที่แตกต่างกันออกไปตามธรรมชาติ

โดยเทอร์ควอยซ์ถือเป็นอัญมณีล้ำค่าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถูกใช้ในอารยธรรมอียิปต์และจีนมาอย่างยาวนานกว่า 3,000 ปี และยังเป็นหนึ่งในอัญมณีที่ต้องการมากที่สุดในอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ เพราะสีสันที่สดใสและประวัติศาสต์อันยาวนาน นอกจากนี้ เทอร์ควอยซ์ยังมาพร้อมความหมายเชิงบวกในระดับจิตวิญญาณ ทั้งเชื่อว่าส่งผลดีในเรื่องสุขภาพ ความโชคดี และการคุ้มครองอีกด้วย

นาฬิการุ่น Royal Oak ขนาดหน้าปัด 37 มิลลิเมตรเรือนนี้ถือเป็นรุ่นแรกที่ถูกผลิตขึ้นด้วยทองคำนับตั้งแต่ปี 2018 ตัวเรือน ขอบตัวเรือน และสายนาฬิกามาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะของโอเดอมาร์ ปิเกต์ โดยเฉพาะในเรื่องของการเก็บรายละเอียดการตกแต่งด้วยมือที่มีทั้งการขัดเงาและการขัดแบบซาตินโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่  Le Brassau

ตัวเรือนทองคำขับเน้นหน้าปัดเทอร์ควอยซ์ธรรมชาติทำให้สีแลดูคมเข้มราวกับมหาสมุทร เฉดสีฟ้าตัดกับเข็มนาฬิกาและเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงสีทองเคลือบด้วยสารเรืองแสง ช่วยให้การอ่านเวลาชัดเจนในที่มืด เทอร์ควอยซ์ยังถูกประดับด้วยสัญลักษณ์ Audemars Piguet ขัดเงาสีทอง ซึ่งถูกนำมาติดอยู่บนหน้าปัดด้วยฐานรองขนาดเล็กที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้พอดีกับความหนาของหิน พื้นหลังของหน้าต่างแสดงวันที่ใช้สีเฉดเดียวกันกับเทอร์ควอยซ์สร้างกลมกลืนน่ามอง

Royal Oak Selfwinding รุ่นใหม่นี้มีสะท้อนดีไซน์ของนาฬิกา Royal Oak ในวาระฉลองครบรอบ 50 ปี เน้นย้ำการออกแบบที่ตอบรับกับสรีระพร้อมรายละเอียดที่โดดเด่นสะดุดสายตา โดยการขัดลบมุมใหญ่ขึ้น การใช้ข้อต่อชิ้นแรกของสายนาฬิการูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูบนสายนาฬิกาที่เพรียวขึ้น จึงลดความหนาของสายลงอย่างเห็นได้ชัด ตลอดจนฝาหลังประดับ Sapphire ที่ผสานรวมเข้ากับส่วนกลางของตัวเรือนมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ขับเคลื่อนด้วยคาลิเบอร์ 5900 ที่มีกลไกอัตโนมัติในการนับชั่วโมง นาที วินาที และบอกวันที่ซึ่ง Audemars Piguet ได้พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2022 ตัวคาลิเบอร์มีความหนาเพียง 3.9 มิลลิเมตร มีความถี่ของ balance wheel ที่ 4Hz และสามารถสำรองพลังงานได้ยาวนาน 60 ชั่วโมง สามารถมองเห็นกลไกต่าง ๆ ได้ผ่านฝาหลังประดับแซฟไฟร์ที่จะเผยให้เห็น oscillating weight พิ้งค์โกลด์ 22 กะรัต ตลอดจนรายละเอียดของเทคนิคการตกแต่งอย่างประณีตบนชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น การขัดเงาที่มุมต่าง ๆ การขัดแบบซาตินในแนวตั้ง การใช้เทคนิคการตกแต่ง “โกตส์ เดอ เฌอแนฟ” (Côtes de Genève)  เทคนิค “เซอร์คิวลาร์ เกรนิง” และการขัดเงาลบมุม

นาฬิกาจะเริ่มทำตลาดในเดือนเมษายนนี้ และมีราคาอยู่ที่ 62,000 ฟรังก์สวิสส์

 รายละเอียดทางเทคนิค : Audemars Piguet Royal Oak Selfwinding Turqouise Dial

• รหัสรุ่น : Ref.15550BA.OO.1356BA.01
• เส้นผ่านศูนย์กลาง : 37 มิลลิเมตร
• ความหนา : 8.9 มิลลิเมตร
• วัสดุตัวเรือน : ทองคำ 18 กะรัต
• กระจก : Sapphire ด้านหน้า/หลัง
• หน้าปัด : หน้าปัดเทอร์ควอยซ์ธรรมชาติ เครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาทองคำ 18 กะรัตเรืองแสง
• สายนาฬิกา : สายนาฬิกาทองคำ 18 กะรัต พร้อมหัวเข็มขัดล็อกสายนาฬิกาเอกลักษณ์เฉพาะของ Audemars Piguet
• กลไก : อัตโนมัติ คาลิเบอร์ 5900
• จำนวนชิ้นส่วน : 186
• จำนวนอัญมณี : 29
• ความถี่ : 4 Hz (28,800 ครั้ง/ชั่วโมง)
• กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
• การกันน้ำ : 50 เมตร

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline