Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding Flying Tourbillon Flyback Chronograph มีเพียง 100 เรือนเท่านั้น

0
- Advertisement -

Audemars Piguet  เผยโฉม  Royal Oak Offshore Selfwinding Flying Tourbillon Flyback Chronograph เรือนแรก พร้อมหน้าปัดขนาดใหม่ 43 มิลลิเมตร และกลไก Tourbillon แบบ Flyback

Audemars Piguet Royal Oak Offshore

Audemars Piguet  Royal Oak Offshore Selfwinding Flying Tourbillon Flyback Chronograph มีเพียง 100 เรือนเท่านั้น

  • Audemars Piguet Royal Oak Offshore กับ ความพิเศษบนตัวเรือนขนาดใหม่ 43 มิลลิเมตร

  • กลไกได้รับการผสมผสานความโดดเด่นของฟังก์ชั่น Flying Tourbillon และกลไก Flyback Chronograph

  • การผลิตมีเพียง 100 เรือนเท่านั้น

Audemars Piguet  (โอเดอมาร์ ปิเกต์) แบรนด์เครื่องบอกเวลาชั้นสูงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัวเรือนเวลาคอมพลิเคชั่นรุ่นใหม่ในคอลเลกชัน Royal Oak Offshore (รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์) ที่ถูกผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนเท่านั้น โดยนาฬิกาข้อมือเซลฟ์ไวนด์ดิ้งเรือนนี้ได้ผสานทั้งกลไก Flying Tourbillon (ฟลายอิง ตูร์บิญอง) และกลไก Flyback Chronograph (ฟลายแบ็ก โครโนกราฟ) เข้าด้วยกัน พร้อมกับหน้าปัดขนาดใหม่ 43 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นการเบิกทางให้กับการออกแบบในอนาคตของนาฬิกาโมเดล Royal Oak Offshore

แม้ว่านาฬิการุ่นนี้จะคงรายละเอียดดั้งเดิมของ Royal Oak Offshore ไว้อย่างครบถ้วน ทว่าตัวเรือนได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เพื่อมอบสุนทรียะและความสะดวกสบายในการสวมใส่ที่ตอบรับกับสรีระของข้อมือได้อย่างลงตัว หน้าปัดของนาฬิกาเรือนนี้ยังเผยให้เห็นโครงสร้างของกลไกใหม่ที่รังสรรค์ด้วยมืออย่างพิถีพิถัน และเมื่อผนวกกับระบบการถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาแบบใหม่ล่าสุดของ Audemars Piguet เรือนเวลาชั้นสูงเรือนนี้จึงมอบทั้งประสิทธิภาพในการบอกเวลาและความซับซ้อนของเทคนิคกลการผลิตไกไปพร้อมกัน

Audemars Piguet Royal Oak Offshore
Audemars Piguet Royal Oak Offshore

กลไกใหม่แบบสปอร์ตมาพร้อมขนบการสร้างสรรค์แบบดั้งเดิม

นาฬิกา Royal Oak Offshore รุ่นลิมิเต็ดเรือนนี้ได้นำเสนอรูปแบบใหม่ของเรือนเวลาเซลฟ์ไวนด์ดิ้งที่ผสมผสานกลไก Flying Tourbillon และกลไก Flyback Chronograph ที่เปิดตัวครั้งแรกในคอลเลคชั่น
CODE 11.59 by Audemars Piguet (โค้ด 11.59 บาย โอเดอมาร์ส ปิเกต์) ซึ่งฟังก์ชัน Flyback ช่วยให้นาฬิกาเรือนนี้สามารถเริ่มต้นการจับเวลาได้ใหม่โดยไม่ต้องหยุดหรือรีเซ็ต ในขณะที่กลไก Flying Tourbillon ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาช่วยการทำงานของนาฬิกาให้ได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงน้อยที่สุด

หน้าปัดขนาดใหม่มาพร้อมคาลิเบอร์ 2967 นำเสนอดีไซน์ที่สปอร์ตยิ่งขึ้นเพือให้สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน บริดจ์ไทเทเนียมถูกออกแบบใหม่ด้วยการเคลือบพีวีดีสีดำ (PVD Coating) พร้อมการขัดลายซาตินและการขัดเงาลบมุมด้วยมือ ซึ่งเข้ากันกับชุดของฟันเฟืองไทเทเนียมที่นำเสนอผิวสัมผัสที่แตกต่างด้วยเทคนิคการขัดแบบแซนด์บลาสต์ (Sandblasted) และการเคลือบเงาเกิดเป็นดีไซน์แบบทูโทนที่ตัดกันอย่างลงตัวและดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ เหลี่ยมมุมด้านนอกของบริดจ์ยังได้รับการขัดเงาอย่างพิถีพิถันเพื่อลบการเคลือบพีวีดีสร้างรายละเอียดคอนทราสต์กันของสีและผิวสัมผัส อีกทั้งส่วนบริดจ์ยังเผยให้เห็นกลไกการการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนของส่วนประกอบภายในดีไซน์ทูโทนที่สามารถเห็นได้ทั้ง 2 ด้านของตัวเรือน และส่วนของกรอบของหน้าปัดย่อยฟลายอิง ตูร์บิญองยังเผยให้เห็นถึงวงล้อ Balance Wheel สีโรเดียมที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน

นอกเหนือจากการเปิดเผยส่วนหนึ่งของชุดเฟืองแล้ว ฝาหลังแซฟไฟร์ เปิดให้เห็น Oscillating weight ผลิตจากทองคำ 22 กะรัตเคลือบพีวีดีสีดำอีกด้วยด้วยคุณสมบัติในการกักเก็บพลังงานขั้นต่ำ 65 ชั่วโมงเมื่อไม่ได้สวมใส่อยู่บนข้อมือ พร้อมทั้งคุณสมบัติในการกันน้ำลึก 100 เมตร นาฬิการุ่นลิมิเต็ดเรือนนี้จึงเหมาะสำหรับทุกการกิจกรรมที่ท้าทายและผจญภัยในสไตล์สปอร์ต

Audemars Piguet Royal Oak Offshore

ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 43 มิลลิเมตรที่ตอบรับกับสรีระข้อมือของผู้สวมใส่

นาฬิกา Selfwinding Flying Tourbillon Flyback Chronograph เรือนนี้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของการสร้างสรรค์นาฬิการุ่น Royal Oak Offshore บนขนาดหน้าปัด 43 มิลลิเมตร ซึ่งผสานทั้งเอกลักษณ์อันทรงพลังของคอลเลกชันนี้เข้ากับดีไซน์ที่สวมใส่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ตัวเรือนไทเทเนียมมาพร้อมการขัดเหลี่ยมมุมที่โดดเด่นยิ่งขึ้น ส่วนขอบตัวเรือน (Bezel) และกระจกแซฟไฟร์ถูกออกแบบให้มีความโค้งมนเพื่อดีไซน์ที่ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้น

รวมไปถึงเม็ดมะยมแบบสกรูล็อกและปุ่มกดสำหรับฟังก์ชันจับเวลาซึ่งรังสรรค์ขึ้นด้วยเซรามิกสีดำยังถูกออกแบบให้มีความโค้งมนตอบรับกับเฉดสีเข้มและสีเทาของกลไกนาฬิกาได้อย่างลงตัวเพิ่มความน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยการผสมผสานการขัดลายซาตินและการขัดเงาลบมุมด้วยมือบริเวณตัวเรือนและขอบตัวเรือนที่สร้างความแตกต่างที่โดดเด่นสะดุดตา

ฝาหลังไททาเนียมประดับแซฟไฟร์ยังมีการเก็บรายละเอียดส่วนกรอบด้วยการขัดลายซาติน พร้อมสลักคำว่า “Royal Oak Offshore Limited Edition of 100 Pieces” เน้นย้ำถึงความพิเศษของเรือนเวลารุ่นนี้

สุนทรียะความงามแบบงานสถาปัตยกรรม

นาฬิกาเรือนนี้ได้ปรับเปลี่ยนหน้าปัดให้แตกต่างจากแบบดั้งเดิมอย่างที่เคยเป็นมา ด้วยการรังสรรค์โครงสร้างของกลไกอันซับซ้อนที่นำเสนอความงามของหน้าปัดที่แปลกใหม่ ทั้งส่วนของหน้าปัดย่อยโครโนกราฟทั้งสองที่ดีไซน์มาให้โปร่งใสพร้อมกตกแต่งด้วยขอบหน้าปัดสีดำ เผยให้เห็นกลไกเคลื่อนไหวภายในได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ เฉดสีเข้มของกลไกยังช่วยขับเน้นให้เข็มนาฬิกาไวท์โกลด์ 18 กะรัต

และตัวเลขบอกจำนวนนาทีที่ปรากฏอยู่บนขอบตัวเรือนด้านในสีดำยิ่งโดดเด่น เช่นเดียวกับโลโก้อักษรย่อ AP ในสีโรเดียมที่ดูสะดุดตาโดยไม่ต้องใช้ชื่อแบรนด์แบบยาว ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิค Galvanic growth นอกจากนี้การเลือกใช้เข็มโครโนกราฟสีแดงก็ยังช่วยเพิ่มสีสันให้กับหน้าปัดอีกด้วย

Audemars Piguet Royal Oak OffshoreAudemars Piguet Royal Oak Offshore

ความโดดเด่นของสายนาฬิกาที่สามารถถอดเปลี่ยนได้

นาฬิกาเรือนนี้ยังมาพร้อมกับระบบสายนาฬิกาที่สามารถถอดเปลี่ยนได้แบบใหม่ของ Audemars Piguet ที่ใช้กับนาฬิกาคอลเลกชัน Royal Oak Offshore รุ่นล่าสุดโดยเฉพาะ ซึ่งระบบการถอดเปลี่ยนสายนี้เป็นการล็อคสายนาฬิกาเข้ากับสลักและตัวล็อกบนตัวเรือนโดยตรง

ถอดเปลี่ยนสายใหม่นี้เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนสายและหัวเข็มขัดของนาฬิกาเรือนใหม่เรือนนี้ได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ เพียงการกดปุ่มเพื่อปลดล็อคสาย ซึ่งเป็นการใช้ระบบกดสองครั้งเพื่อรักษาความปลอดภัยของนาฬิการเมื่อถูกสวมใส่บนข้อมือ

เรือนเวลาเรือนนี้มาพร้อมสายยางสีดำแบบถอดเปลี่ยนได้ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันพร้อมดีไซน์อันโดดเด่นของลายเส้นที่ลากต่อเนื่องมาจากสลักบริเวณตัวเรื่อนต่อเนื่องมาถึงสายนาฬิกา อีกทั้งยังมาพร้อมสายหนังจระเข้ที่ถูกเย็บเก็บขอบอย่าปราณีตด้วยมือ และเข็มขัดล็อกสายนาฬิกาไทเทเนียมขัดแบบแซนด์บลาสต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเดอมาร์ ปิเกต์ที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ให้ตอบรับกับสรีระข้อมือของผู้สวมใส่

คอลเลกชัน Royal Oak Offshore นี้ยังนำเสนอสายหนังลูกวัวแบบใหม่ที่มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ สีเบจ และสีน้ำตาล ที่มาพร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ โดยในช่วงปลายปีนี้ Audemars Piguet จะเผยโฉมสายนาฬิกายางและสายหนังจระเข้แบบอื่นๆ ให้เลือกเพิ่มเติมอีกด้วย

รายละเอียดด้านเทคนิค

นาฬิกาข้อมือรุ่น Audemars Piguet Royal Oak Offshore Selfwinding Flying Tourbillon Flyback Chronograph ขนาดหน้าปัด 43 มิลลิเมตร

รหัส 26622TI.GG.D002CA.01

> ฟังก์ชั่น 

  • กลไกฟลายอิง ตูร์บิญอง และกลไกฟลายแบ็ก โครโนกราฟ จับเวลาชั่วโมงและนาที

> ตัวเรือน

  • ตัวเรือนและขอบตัวเรือนไทเทเนียมขัดแบบแซนด์บลาสต์ กระจกแซฟไฟร์ ฝาหลังแซฟไฟร์
    ปุ่มกดและเม็ดมะยมแบบสกรูล็อกเซรามิกสีดำ กรอบปุ่มกดและหมุดไทเทเนียมขัดแบบแซนด์บลาสต์
    คุณสมบัติกันน้ำ 100 เมตร

> หน้าปัด

  • ขอบตัวเรือนด้านในและหน้าปัดโครโนกราฟสีดำ เข็มนาฬิกาไวท์โกลด์ 18 กะรัต

> สายนาฬิกา

  • สายยางสีดำที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ พร้อมเข็มขัดล็อกสายนาฬิกาไทเทเนียมขัดแบบแซนด์บลาสต์
  • สายหนังจระเข้สีดำ

รายละเอียดเกี่ยวกับกลไกการทำงาน

กลไกการทำงานออโตเมติก คาลิเบอร์ 2967
เส้นผ่านศูนย์กลาง 33.6 มิลลิเมตร
ความหนา 8.31 มิลลิเมตร
จำนวนอัญมณี 40
จำนวนชิ้นส่วน 526
การันตีการกักเก็บพลังงานขั้นต่ำ 65 ชั่วโมง
ความถี่ของ Balance Wheel 3 Hz (21,600 ครั้ง/ชั่วโมง)