Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin ขับเคลื่อนเวลาด้วยกลไกใหม่

0

ผลผลิตใหม่ที่เปิดตัวออกมาในช่วงเวลาที่สำคัญของ Audemars Piguet กับโฉมใหม่ของ Royal Oak “Jumbo” Extra-thin ที่มาพร้อมกับกลไกใหม่

- Advertisement -

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin ขับเคลื่อนเวลาด้วยกลไกใหม่

  • การปรับปรุงครั้งใหม่ของ Royal Oak “Jumbo” Extra-thin ที่ยังคงความคลาสสิคบนตัวเรือน 39 มิลลิเมตร

  • มาพร้อมกันถึง 4 วัสดุตัวเรือนและสาย คือ สแตนเลสสตีล แพลทตินัม พิงค์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ 18K

  • กลไกใหม่ในรหัส Calibre 7121 ที่สำรองกำลังงานได้ถึง 55 ชั่วโมง

หนึ่งในการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการก่อกำเนิดของนาฬิกา Royal Oak ทาง Audemars Piguet ได้เปิดตัวผลผลิตใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงและถือเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่สุดร่วมร่วมสมัยของนาฬิการุ่น Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin (รอยัล โอ๊ค “จัมโบ้” เอ็กซ์ตร้า-ธิน) ขนาดหน้าปัด 39 มิลลิเมตร (โมเดล 16202) ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 7121 พร้อม 4 รุ่นย่อยจาก 4 วัสดุมีบทบาทสำคัญในการทำให้คอลเลกชั่น Royal Oak กลายเป็นนาฬิกาไอคอนิคในปัจจุบัน

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin
Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

สำหรับวัสดุที่มีให้เลือกสำหรับแฟนๆ ของ AP นั้นก็มีทั้งสแตนเลสสตีล แพลทตินัม พิงค์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ 18K โดยเรือนเวลาทั้ง 4 นี้มาพร้อมโรเตอร์ “50 years” Oscillating weight ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับวาระครบรอบ 50 ปีในเฉดสีที่แมตช์กับตัวเรือนแต่ละโมเดล

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

สิ่งที่น่าสนใจคือ การสร้างสรรค์ผลงานบนตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตรของ Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin ที่ยังคงความคลาสสิคจากผลงานดั้งเดิมของ Gerald Genta ที่นำขอบตัวเรือนทรง 8 เหลี่ยมมาใช้จนทำให้ดีไซน์นี้กลายเป็นเอกลักษณ์ของ Royal Oak

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin
Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin
Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

ในรุ่นตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลส สตีลได้รับการขัดลายซาตินและการขัดเหลี่ยมมุมด้วยมือ โดดเด่นด้วยหน้าปัดลาย Petite Tapisserie (เปอตีต์ ทาพิสเซอรี) อันเป็นเอกลักษณ์ในเฉดสีน้ำเงินเข้ม Bleu Nuit, Nuage 50 หรือที่เรียกว่าสี “Night blue, Cloud 50” ที่ต้องใช้ความชำนาญอย่างมาก

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin
Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

ในรุ่นตัวเรือนและสายที่ผลิตจากพิงค์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ 18K ที่มาพร้อมหน้าปัดลาย Petite Tapisserie เฉดสีสโมคแบบใหม่ รุ่นพิ้งค์โกลด์ 18K โดดเด่นด้วยเฉดสีเทาสโมคเกรย์ (Smoked grey) ในขณะที่ตัวเรือนเยลโล่วโกลด์ 18K นำเสนอหน้าปัดด้วยโทนสีทองสโมคที่ผลิตด้วยกรรมวิธีกัลวานิค บาธ และเพิ่มสโมคเอฟเฟกต์ด้วยการพ่นสารเคลือบสีอย่างพิถีพิถันลงบนบริเวณขอบรอบนอกของหน้าปัด อีกทั้งลายทาพิสเซอรียังส่องประกายด้วยเอฟเฟกต์มัวเร (Moiré)

นาฬิกา Royal Oak ที่ผลิตด้วยทองคำทั้งเรือนเปิดตัวครั้งแรกในปี 1977 ซึ่งเป็นคอลเลกชั่นนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี (โมเดล 8638) ที่ผลิตขึ้นตามความต้องการของตลาดในยุคนั้น และในอีกไม่กี่เดือนต่อมาก็มีการเปิดตัว Royal Oak “Jumbo”  (โมเดล 5402BA) และนาฬิกา Royal Oak ขนาด 35 มิลลิเมตรที่ได้ชื่อเล่นว่า “Royal Oak III” (โมเดล 4100BA) ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยเยลโล่วโกลด์เช่นกัน

ทั้งนี้วัสดุพิ้งค์โกลด์ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในคอลเลกชันรอยัล โอ๊ค ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 ซึ่งเป็นวัสดุที่พบเห็นได้น้อยในช่วงเวลานั้น และเริ่มใช้ในรุ่น “Jumbo” ในปี 2006 กับโมเดล 15202 ในปัจจุบันทั้งเยลโล่วโกลด์และพิ้งค์โกลด์ได้กลายเป็นวัสดุตัวเรือนที่ใช้ในการผลิตนาฬิกา Royal Oak

Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin
Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

ปิดท้ายที่รุ่นแพลตินัม 950 ที่มาพร้อมความเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะเรือนเวลาโมเดลนี้จะสงวนไว้วางจำหน่ายเฉพาะที่เอพี เฮ้าส์ (AP House) เท่านั้น ด้วยความสง่างามของตัวเรือนและสายนาฬิกาแพลตินัม 950 ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือ พิเศษยิ่งขึ้นด้วยหน้าปัดสีเขียวสโมคกรีนที่มีการไล่เฉดสีแบบซันเบิร์สต์ (Sunburst)

เช่นเดียวกับนาฬิกา Royal Oak รุ่นดั้งเดิมในปี 1972 นาฬิกาคอลเลกชั่นนี้ใช้เครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิการูปทรง Baignoire (เบญนัวร์) หรือทรงวงรีแบบอ่างอาบน้ำแบบดั้งเดิมซึ่งช่วยให้วัสดุเรืองแสงที่เคลือบไว้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยในรุ่นสตีลและแพลทตินั่ม ทั้งหลักชั่วโมงและชุดเข็มจะผลิตจากไวท์โกลด์ ส่วนรุ่น พิงค์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ 18K ก็ผลิตจากวัสดุแบบเดียวกับตัวเรือนเพื่อให้ได้สีสันที่สอดคล้องกัน

ในเรื่องการจัดวางเลย์เอาท์บนหน้าปัดมีการใช้อักษรย่อ AP ถูกจัดวางไว้ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ส่วน “AUDEMARS PIGUET AUTOMATIC” ถูกวางอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์ “SWISS MADE” ซึ่งเข้ามาแทนที่คำว่า “SWISS” ในช่วงกลางทศวรรษ 1980 ถูกจัดวางไว้ที่บริเวณ 6 นาฬิกา เพื่อความสมดุลของหน้าปัด คำว่า SWISS และ MADE ถูกจัดวางไว้คนละด้านของเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมง

นอกจากนั้นนาฬิกา Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อม Oscillating weight พิเศษสำหรับวาระครบรอบ 50 ปีคอลเลกชั่นรอยัล โอ๊คที่รังสรรค์ขึ้นด้วยทองคำ 22 กะรัต พร้อมสัญลักษณ์ “50-years” และสลักโลโก้โอเดอมาร์ ปิเกต์ ซึ่งโทนสีของ Oscillating weight จะแมตช์กับสีของตัวเรือนแต่ละโมเดลซึ่งปกติจะใช้กับนาฬิกาที่มีกลไกซับซ้อนเท่านั้น ทั้งยังตกแต่งด้วยรายละเอียดของการขัดลายซาตินและการขัดเหลี่ยมมุมเช่นเดียวกับรายละเอียดของตัวเรือนด้วย

สำหรับกลไกของ Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin เป็นคาลิเบอร์ 7121 สามารถสำรองกำลังงานได้ 55 ชั่วโมง ด้วยกระปุกลานที่ใหญ่ขึ้นจึงให้พลังงานที่มากกว่า และทำให้บอกเวลาได้อย่างแม่นยำในเวลาที่ยาวนานยิ่งขึ้น และเดินด้วยความถี่ในระดับ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง

ราคาของ Audemars Piguet Royal Oak “Jumbo” Extra-thin ใหม่ไล่เรียงตามนี้

  • รุ่นตัวเรือนและสายแบบสตีล 16202ST.OO.1240ST.01 ราคา 29,700 ฟรังก์สวิสส์

  • รุ่นตัวเรือนและสายแบบพิงค์โกลด์ 16202OR.OO.1240OR.01 ราคา 63,100 ฟรังก์สวิสส์

  • รุ่นตัวเรือนและสายแบบเยลโลว์โกลด์ 16202BA.OO.1240BA.01 ราคา 63,100 ฟรังก์สวิสส์

  • รุ่นตัวเรือนและสายแบบแพลตินัม 950 16202PT.OO.1240PT.01 ราคายังไม่เปิดเผย

รายละเอียดทางเทคนิค : Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Extra-thin

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 39 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 8.1 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือนและสาย : สแตนเลสตีล / แพลตินัม 950 / พิงค์โกลด์ และเยลโลว์โกลด์ 18K
  • กระจก : แซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและหลัง
  • กลไก อัตโนมัติ Self-Winding Calibre 7121
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง : 55 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 50 เมตร