Alpina Startimer Pilot Heritage Manufacture ย้อนยุคด้วยกลไก Bumper Movement

ผลผลิตใหม่จาก Alpina ที่นำความรุ่งเรืองในด้านไอเดียของการพัฒนากลไกที่เรียกว่า Bumper Movement กลับมาอีกครั้ง โดยจะติดตั้งกลไกรุ่น AL-709 ลงบนนาฬิกาใหม่ที่มีชื่อว่า Alpina Startimer Pilot Heritage Manufacture

Alpina Startimer Pilot Heritage Manufacture ย้อนยุคด้วยกลไก Bumper Movement

• นาฬิกาผลิตจำกัดรุ่นใหม่ของ Alpina ที่มาพร้อมกลไกแบบใหม่ที่เรียกว่า Bumper Movement

• ตัวกลไกจะมีโรเตอร์ซึ่งเหวี่ยงเพียง 330 องศาในการขึ้นลาน และมีกำลังสำรองสูงสุด 38 ชั่วโมง

• การผลิตมี 2 สีคือ สตีลและสีทองแบบ Gold Plate โดยมีการผลิตรุ่นละ 188 เรือนเท่านั้น

Alpina พาคุณย้อนยุคด้วยนาฬิกาสุดพิเศษที่ได้รับการสร้างสรรค์ด้วยแนวคิดร่วมสมัยในการสะท้อนถึงความสำเร็จในอดีตของแบรนด์ที่ก่อตั้งครั้งแรกในปี 1883 พร้อมกับได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีหัวคิดก้าวหน้าและพยายามนำเสนอนวัตกรรมที่น่าสนใจอยู่เสมอ ซึ่งทั้งหมดได้ถูกสะท้อนผ่านนาฬิการุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Startimer Pilot Heritage Manufacture ที่จะมาพร้อมกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับแนวคิดในการขึ้นลานที่เรียกว่า Bumper Movement

อย่างที่เราทราบกันดีว่า การขึ้นลานเพื่อสร้างกำลังสำรองในกระปุกลานนั้นเป็นหน้าที่ของการขยับแขนหรือข้อมือที่จะทำให้โรเตอร์มีการหมุนและส่งพลังงานนั้นไปที่กระปุกลาน โดยการหมุนจะมีทั้งแบบ 2 ทิศทาง หรือทิศทางเดียวในแบบ 360 องศาขึ้นอยู่กับการออกแบบ แต่ทว่าในอดีต ประมาณทศวรรษที่ 1950 Alpina และนาฬิกาบางแบรนด์มีแนวคิดที่แตกต่างออกไป และพวกเขาได้คิดวิธีขึ้นลานที่ต่างออกไปซึ่งเรียกว่า Bumper Movement

การทำงานของระบบนี้คือ แทนที่โรเตอร์จะเหวี่ยงและหมุน 360 องศาเหมือนกลไกทั่วไป โรเตอร์ของกลไกนี้จะเหวี่ยงเพียง 120 องศาและจะมีชุดสปริงวางอยู่ที่ทั้ง 2 ฝั่งในการดันโรเตอร์ให้หมุนไปมา ซึ่งข้อดีคือ ลดการหมุนต่อรอบเพื่อให้ได้กำลังลานในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน และทำให้การขึ้นลานใช้เวลาน้อยลง เพราะทุกครั้งที่มีการขยับตัวโรเตอร์จะถูกดีดกลับไปมาไม่ต้องหมุนจนครบรอบ

Alpina ได้นำแนวคิดนี้กลับมาใช้อีกครั้งกับกลไกใหม่ของตัวเองที่มีรหัส AL-709 ซึ่งติดตั้งอยู่ใน Alpina Startimer Pilot Heritage Manufacture รุ่นใหม่ โดยกลไกนี้มีหลักการในการหมุนของโรเตอร์ตามแบบฉบับ Bumpr Movement แต่แทนที่จะหมุนแค่ 120 องศาในกลไกใหม่จะหมุนเพิ่มขึ้นเป็น 330 องศา ส่วนสปริงที่ทำหน้าที่ในการดันโรเตอร์ให้กลับไปมานั้นจะถูกเปลี่ยนเป็นชิ้นส่วนแบบใหม่ที่มีลักษณะแบนคล้ายใบมีดเพื่อควบคุมการเหวี่ยงของโรเตอร์

กลไกนี้จะถูกวางอยู่ในตัวเรือนทรงเหลี่ยมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร โดยจะมีให้เลือก 2 หน้าปัดซึ่งมีการออกแบบฟอนต์และการใช้สีที่ออกแนววินเทจ และตัวเรือนจะมีทั้งแบบสตีลและแบบ Gold Plate ตัวเรือนสีทอง โดยทั้ง 2 รุ่นจะมากับสายหนัง

ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,850 เหรียญสหรัฐสำหรับรุ่นสตีล และ 2,950 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับรุ่น Gold Plate โดยการผลิตจะมีเพียงสีละ 188 เรือนเท่านั้น

ข้อมูลทางเทคนิค: Alpina Startimer Pilot Heritage Manufacture

• เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
• ความหนา : 13.25 มิลลิเมตร
• กระจก : Sapphire
• กลไก : AL-709 แบบอัตโนมัติ Bumper Movement
• ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
• กำลังสำรอง : 38 ชั่วโมง
• การกันน้ำ : 100 เมตร
• จำนวนผลิต : สีละ 188 เรือน

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/