นาฬิกา 6 รุ่นจาก ลองจิ้นส์ ที่เป็นดาวเด่นในงาน Siam Paragon Watch Expo 2020 เรามาทำความรู้จักกันว่าแต่ละรุ่นมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
6 นาฬิกาเด่นจาก Longines ในงาน Siam Paragon Watch Expo 2020
ในงานนาฬิกาที่จัดขึ้นในชื่อ Siam Paragon Watch Expo 2020 แบรนด์ ลองจิ้นส์ นำนาฬิกามาจัดแสดงมากมายหลายรุ่น แต่ที่สวยสะดุดตาและถือเป็นรุ่นใหม่ที่อยู่ในความสนใจของบรรดาแฟนๆ นั้นมีอยู่ 6 รุ่น และในวันนี้เรามาทำความรู้จักกัน และถ้าใครที่สนใจตอนนี้ยังมีเวลา เพราะงานนี้จัดขึ้นจนถึงวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ ใครอยู่ใกล้เดินทางไปได้เลยเพื่อร่วมสัมผัสตำนานอมตะและมนต์เสน่ห์ของนาฬิกา ลองจิ้นส์ ณ บริเวณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน
1. Longines Spirit
ราคา 78,000 บาท
“สืบทอดจิตวิญญาณนักบุกเบิก” (Longines Spirit Lives On) คอลเลกชั่น Longines Spirit ใหม่ล่าสุดจากLonginesในปี 2020 ได้รับการรังสรรค์ขึ้นตามขนบธรรมเนียมดั้งเดิมเฉกเช่นเรือนเวลาของเหล่านักบุกเบิกทางอากาศ ทางบกและทางน้ำผู้โด่งดังในอดีต
ทั้งนักบินและนักสำรวจระดับตำนานไม่ว่าจะเป็น Amelia Earhart (นักบินหญิงคนแรกของโลกที่บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในปี 1932), Paul-Emile Victor (ผู้บุกเบิกธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์ในปี 1936), Elinor Smith (นักบินหญิงที่มีอายุน้อยที่สุด ผู้ทำลายสถิติการบินในระยะทาง 32,576 ฟุต ในปี 1931) และ Howard Hughes (นักบินที่ทำลายสถิติการบินรอบโลก โดยใช้เครื่อง Siderograph ของLonginesในปี 1938)
ต่างก็มอบความไว้วางใจให้เรือนเวลาของแบรนด์นาฬิกาทรายติดปีกนี้เป็นเพื่อนคู่ใจเคียงข้างตลอดการผจญภัยอันเหลือเชื่อมากมาย และในวันนี้ Longinesจึงปรารถนาจะสืบทอดจิตวิญญาณนักบุกเบิกของพวกเขาผ่านเรือนเวลาคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดที่เปรียบเสมือนการสดุดีแด่สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษผู้หาญกล้าแห่งประวัติศาสตร์
โดยทุกๆ โมเดลในคอลเลกชั่น ลองจิ้นส์ สปิริต นี้สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ส่งผลให้กลไกนาฬิกามีความแม่นยำถึงขีดสุด ภายในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงาขนาด 40 มม. บรรจุกลไกไขลานอัตโนมัติพิเศษที่ได้รับการรับรองระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC (Caliber L888.4) พร้อม Silicon Hairspring ที่สามารถป้องกัน magnetic shock ของนาฬิกาให้มีความแม่นยำสูงสุด
ตัวเรือนทรง staircase จากยุค 40 มาพร้อมกระจกหน้าปัดคริสตัลแซปไฟร์ทรงโดม ทำหน้าที่ป้องกันหน้าปัดสีดำแมตต์ ตกแต่งตัวเลขอารบิกและเข็มนาฬิกาสีเงินทรง Baton เคลือบสาร Super-LumiNova®, หน้าปัดแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา, เม็ดมะยมขนาด oversize, ตกแต่งมาร์คเกอร์รูปเพชร 12 เม็ดระหว่าง flange และ hour circle และเข็มวินาทีตกแต่งปลายสีแดงอันเป็นองค์ประกอบที่หยิบมาจากยุคแรกเริ่มของการบิน, ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาประดับดาว 5 ดวง สื่อถึง best movement หรือกลไกที่ล้ำเลิศที่สุดเท่าที่ ลองจิ้นส์ เคยมีมา เพิ่มความสง่างามด้วยสายรัดข้อมือหนังสีน้ำตาลเข้มที่เข้ากับตัวเรือนขัดเงาและด้านได้อย่างลงตัว มีกำลังลานสำรอง 64 ชม.
2. The Longines Heritage Classic Chronograph 1946
ราคา 111,200 บาท
ลองจิ้นส์ พาย้อนกลับสู่ยุค 40 กับ Heritage Classic Chronograph 1946 ภายในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 40 มม. บรรจุกลไกอัตโนมัติ L895.5 และเพื่อเป็นการรักษาดีไซน์ดั้งเดิมของนาฬิกาที่มอบแรงบันดาลใจให้กับนาฬิกาเรือนนี้ หน้าปัดนาฬิกาจึงเป็นสีเงินโอพาลีน ทรงโดมที่เสริมด้วยหน้าปัดย่อยสองวง นั่นคือหน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาที และหน้าปัดย่อยวินาที ตกแต่งด้วยเลขอารบิกฟอนต์ “dolphin” ตัวเอียง นอกจากนี้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา คำว่า ลองจิ้นส์ ยังใช้ฟอนต์ในสไตล์แอนทีคที่ให้ความรู้สึกย้อนยุคแต่ดูสวยงามเข้ากับหน้าปัด มาพร้อมกระจกหน้าปัดแซฟไฟร์กันแสงสะท้อนและรอยขีดข่วน สายนาฬิกาเป็นหนังสีดำกึ่งด้านที่มีผิวสัมผัสอ่อนนุ่มในสไตล์วินเทจ
3. Longines Flagship Heritage
ราคา 58,900 บาท
ลองจิ้นส์ นำเสนอโมเดลใหม่ในคอลเลกชั่น Flagship ที่มาพร้อมหน้าปัดสีดำ และงานดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์จากยุค 1950 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรือนเวลาหายากของยุคนั้น สู่นาฬิกาที่มีความเรียบง่ายและความสวยงามแบบคลาสสิกไร้กาลเวลา ผสมผสานความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิคและความหรูหราสไตล์วินเทจ ภายในตัวเรือนสตีลขนาด 38.50 มม. บรรจุกลไกไขลานอัตโนมัติ L615 มาพร้อมสายหนังอัลลิเกเตอร์สีดำเพิ่มความเรียบหรูสง่างาม
4. The Longines Heritage Military 1938
ราคา 89,700 บาท
ลองจิ้นส์ พาคุณย้อนเวลาไปสู่อดีตกับ Heritage Military 1938 (Caliber L507) ด้วยแรงบันดาลใจจากนาฬิกาทหารจากยุคสมัยระหว่างก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 รุ่นนี้ผสมผสานดีไซน์คลาสสิกไร้กาลเวลา กับตัวเรือนสตีลขนาด 43 มม. ที่มาพร้อมกลไกไขลาน และเพื่อเป็นการสดุดีแด่ปีที่เรือนเวลาในอดีต นาฬิการุ่นนี้จึงได้ผลิตออกมาโดยมีหมายเลขรุ่นและจำนวนผลิตเป็นตัวเลข “1938” นั่นเอง
ภายใต้กระจกหน้าปัดแซปไฟร์ทรงโดมที่ช่วยกันแสงสะท้อน หน้าปัดของ รุ่น Heritage Military 1938 มาพร้อมสีดำแมตต์เรียบๆ ที่ทำให้อ่านเวลาได้อย่างง่ายดาย และแสดงหน้าปัดย่อยแสดงวินาที ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา เข็มนาฬิกาทรง baton เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®
สำหรับสายนาฬิกาของ Heritage Military 1938 สามารถเลือกสายหนังสีชาร์โคลเกรย์ และสายหนังนาโตสีคอนยัก พร้อมอุปกรณ์การเปลี่ยนสายที่มาพร้อมกันในกล่อง Heritage มีกำลังลานสำรอง 46 ชม.
5. HydroConquest Green Boutique Edition
ราคา 87,800 บาท
ลองจิ้นส์ นำเสนอ HydroConquest โมเดลใหม่ในเฉดสีเขียวกากีที่มาพร้อมกับขอบตัวเรือน
เซรามิกที่เข้าคู่กันกับสีของหน้าปัด เพอร์เฟ็กต์สำหรับผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาสไตล์สปอร์ตอันมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร HydroConquest Green Boutique Edition มาพร้อมสีเขียวสว่างและหน้าปัดและขอบตัวเรือนเซรามิกสีเขียวลายทางแนวตั้ง ภายในตัวเรือนขนาด 41 มม. บรรจุกลไก L888.5 ที่ออกแบบมาเพื่อLonginesโดยเฉพาะ และมีซิลิคอนบาลานซ์สปริง โดยสายรัดข้อมือมีให้เลือก 2 แบบคือ สายสแตนเลสสตีลพร้อมตัวล็อคแบบพับสองชั้นเพื่อความปลอดภัยและการปรับขยายสำหรับการดำน้ำ และสายรับเบอร์สีเขียวพร้อมตัวล็อคสองชั้นเพื่อความปลอดภัยและกลไกปุ่มกดอัตโนมัติ ที่มาพร้อมอุปกรณ์การเปลี่ยนสายยางใน Premium Box Set
6. The Longines Master Collection
ราคา 117,400 บาท
ลองจิ้นส์ Master Moonphase เป็นส่วนหนึ่งของ Master Collection ที่เปิดตัวในปี 2005 และได้กลายมาเป็นคอลเลกชั่นหลักประจำแบรนด์ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความสง่างามอันเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ และช่วยสั่งสมชื่อเสียงให้ ลองจิ้นส์ โด่งดังไปทั่วโลก โดยโมเดล L2.673.4.78.3 นี้มีความพิเศษที่ฟังก์ชั่นโครโนกราฟ ทั้งยังแสดงข้างขึ้นข้างแรมพร้อมหน้าปัดวงทดเวลา 12 ชั่วโมงที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และหน้าปัดวงทดเวลา 30 นาทีพร้อมแสดงวันและเดือนที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา มีเข็มบอกวันที่รอบตัวเรือน และแสดงตัวเลข 24 ชม ในวงหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกาภายในตัวเรือนสแตนเลสสตีลทรงกลมขนาด 40 มม. บรรจุกลไกไขลานอัตโนมัติที่แกว่งด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และมีกำลังลานสำรองสูงสุด 54 ชั่วโมง มาพร้อยมหน้าปัดสีเงินบาร์ลีย์คอร์นตกแต่งตัวเลขอารบิกสี ส่วนสายรัดข้อมือเป็นสายหนังอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาล เข้ากับหน้าปัดอย่างลงตัว พร้อมตัวล็อคแบบพับเพื่อความปลอดภัยสามชั้น
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/