ใครที่ชื่นชอบนาฬิกาในกลุ่ม Microbrand งานนี้มีทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจออกมาแล้ว กับแบรนด์ Venturo ซึ่งเป็นแบรนด์น้อง Gruppo Gamma โดยจะมีจำหน่าย 3 รุ่นธรรมดา และ 1 รุ่น Limited Edition
Venturo Field Watch #1 ผลผลิตสุดสวยจาก Gruppo Gamma
-
แบรนด์น้องของ Gruppo Gamma จากสิงคโปร์
-
เปิดตัวด้วย Filed Watchที่สามารถลุยน้ำได้
-
มีทั้งหมด 3 รุ่นธรรมดากับ 1 รุ่นพิเศษแต่มีราคาเท่ากัน 399 เหรียญสหรัฐ
เชื่อว่าแฟนๆ ที่ชอบนาฬิกา Microbrand ในบ้านเราน่าจะคุ้นเคยกับชื่อของ Gruppo Gamma กันมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะนี่คือแบรนด์นาฬิกาที่ทำโดยกลุ่มคนรักนาฬิกาในสิงคโปร์ และมีการนำเข้ามาเปิดตลาดในบ้านเราอยู่พักหนึ่ง และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยในตอนนี้พวกเขาได้เปิดแบรนด์ลูกออกมาเพื่อรุกตลาดนาฬิกาอีกกลุ่ม โดยใช้ชื่อว่า Venturo พร้อมกับเปิดตัวผลผลิตแรกในชื่อ Field Watch #1
TITLE
สำหรับ Field Watch #1 ต้องบอกเลยว่าดูสวยและลงตัวกับแนวคิดในการผสมผสานของทางแบรนด์ที่นำเอาดีไซน์ของนาฬิกาแบบ Field Watch ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มาปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย และเพิ่มความสามารถในการกันน้ำด้วย โดยตามสเป็กที่มีการระบุมานั้นอยู่ที่ 200 เมตร ซึ่งถือว่ามากกว่า Field Watch ที่อยู่แค่ 30-50 เมตรเท่านั้น
ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร หนา 14.5 มิลลิเมตร และผลิตจากสแตนเลสสตีลที่มการขัดแต่งตัวเรือนและ Bezel ในแบบเงาสลับด้านอย่างลงตัว ฝาหลังเป็นแบบขันเกลียวเช่นเดียวกับเม็ดมะยม และใช้กระจก Sapphire แบบ Double-Domed ที่เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
ในช่วงแรกที่เปิดตัวออกมาจะมี 3 รุ่นธรรมดาซึ่งมีมากับหน้าปัดแบบแซนวิช แต่เฉพาะหน้าปัดดำและน้ำเงินเท่านั้นที่จะเคลือบสารเรืองแสง Swiss SuperLuminova ที่หลักชั่วโมงและเข็มต่างๆ ซึ่งรุ่นหน้าดำจะใช้สารแบบ C3 พรายน้ำเขียว ส่วนรุ่นหน้าฟ้าจะเป็นแบบ BGW9 พรายน้ำสีฟ้า ขณะที่หน้าปัดสีขาวครีมจะเป็นแบบเรืองแสงทั้งหน้าปัด ซึ่งก็ดูสวยไปอีกแบบ
นอกจากนั้น จะมีการผลิต Limited Edition ออกมาเพียง 88 เรือนสำหรับกลุ่มคนรักนาฬิกาในสิงคโปร์ หรือ Singapore Watch Appreciation Group (SWAG) กับหน้าปัดสีกากีแบบพรายน้ำทั้งแผ่นหรือ Full-Lume ตัวเรือนรมเข้มด้วยสี Gun Metallic ไม่มีช่องวันที่ หรือ Date ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาบนหน้าปัด แต่จะมีการสกรีนตำแหน่งที่ตั้งของประเทศสิงคโปร์ในตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ทั้ง Longtitute และ Latitude เอาไว้ เป็นลูกเล่นที่ถือว่าเพิ่มความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี ขณะที่ปลายเข็มวินาทีเลยจากพรายน้ำก็จะแตกต่างจากรุ่นหน้าขาวครีม เพราะมีการเคลือบสีแดง และฝาหลังมีการสลัก เรือนที่ผลิตจากจำนวน 88 เรือนเอาไว้
ในส่วนของกลไกเป็นอัตโนมัติของ Seiko ในรหัส NH35A หมดเห่วงในเรื่องการดูแลรักษาและความทนทาน รวมถึงความเที่ยงตรง เพราะเป็นพื้นฐานเดียวกับ 4R35 และสามารถสำรองพลังงานได้ 41 ชั่วโมง โดยในรุ่นปกติจะให้สายผ้าใบขนาด 125/75 หรือ 130/80 มาให้ แต่สามารถจ่ายเพิ่มเพื่อเปลี่ยนเป็นสายหนังหรือสายยางแบบ Tropical ไซส์ 125/75 ได้ด้วยการเพิ่มเงินอีก 10 และ 20 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 320 และ 640 บาทตามลำดับ
Gruppo Gamma เป็นแบรนด์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013 และผลิตนาฬิกาในแบบ Microbrand ออกมาขาย ส่วน Venturo ถือเป็นแบรนด์น้องของ Gruppo Gamma ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกที่แตกต่างสำหรับเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบนาฬิกาด้วยทางเลือกที่น่าสนใจทั้งในแง่คุณภาพและการออกแบบที่สวยสะดุดตา โดยคุณภาพในการผลิต การจัดส่ง หรือการบริหารหลังการขายจะเป็นทีมเดียวกับของ Gruppo Gamma
สำหรับราคาถูกตั้งเอาไว้ที่ 399 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 12,800 บาทเท่ากันทั้ง 4 รุ่น ใครที่สนใจก็เข้าไปลุยกันได้เลยที่ https://www.venturowatches.com
ข้อมูลทางเทคนิค Venturo Field Watch #1
ตัวเรือน
ผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L
กระจก Sapphire แบบ Double-Domed ที่เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
เส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร
หนา 14.5 มิลลิเมตร
ความกว้างขาสาย 22 มิลลิเมตร
เม็ดมะยมขันเกลียว
ฝาหลังขันเกลียว
กันน้ำ 200 เมตร
กลไก
Seiko Instruments รหัส NH35A
อัตโนมัติ โรเตอร์เหวี่ยงขึ้นลาน 2 ทิศทาง
ความถี่ในการเดิน 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
สำรองพลังงาน 41 ชั่วโมง
หน้าปัด
2 ชั้นแบบ Sandwich dial
พรายน้ำ Swiss SuperLumiNova® ที่หลักชั่วโมง (หน้าดำและหน้าน้ำเงิน)
พรายน้ำทั้งหน้าปัด Swiss SuperLumiNova® dial (หน้าขาวครีม)
มาร์คพรายน้ำบนเข็ม Swiss SuperLumiNova®
สาย
สายติดนาฬิกา Rolled canvas strap, ความยาว 125/75mm หรือ 130/80mm
จ่ายเพิ่ม 10 เหรียญสหรัฐสำหรับสาย Premium leather strap ความยาว125/75mm
จ่ายเพิ่ม 20 เหรียญสหรัฐสำหรับสาย Tropic rubber strap ความยาว 125/75mm
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/
