Tudor Ranger สืบทอดความทรหดเพื่อนักผจญภัยยุคใหม่

0

นาฬิกาอีกรุ่นของ Tudor ที่เกิดมาเพื่อรองรับกับการผจญภัยอันสุดโหด และในวาระของการครบรอบ 70 ปีของการสำรวจขั้วโลกเหนือตรงพื้นที่ในแถบกรีนแลนด์ที่นาฬิกา Tudor ได้เข้าไปมีส่วนร่วม ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Ranger รุ่นใหม่ออกมาแล้ว

- Advertisement -

Tudor Ranger

Tudor Ranger สืบทอดความทรหดเพื่อนักผจญภัยยุคใหม่

  • การกลับมาของคอลเล็กชั่น Ranger นาฬิกาที่ผ่านการทดสอบสุดโหดมาแล้วในปี 1952

  • รุ่นใหม่มากับตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร และมีสายให้เลือก 3 แบบ

  • ราคาอยู่ที่ 97,000-108,100 บาท

หลังจากที่ปล่อยทีเซอร์ด้วยการนับถอยหลังรอเวลาเปิดตัวพร้อมกับการคาดเดาต่างๆ นานาจากแฟนๆ ในที่สุด Tudor ก็คลายข้อสงสัย และนาฬิกาใหม่ที่ถูกเปิดตัวออกมาก็ใม่ใช่รุ่นไหน แต่เป็นการฉลองครบรอบ 70 ปีของการสำรวจขั้วโลกเหนือตรงพื้นที่ในแถบกรีนแลนด์ และเป็นการนำนาฬิการุ่น Ranger กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์แฟนๆ ไม่น้อย เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Tudor มุ่งเน้นในการทำตลาดเฉพาะรุ่น Black Bay มานาน จนแฟนๆ แทบจะลืมคอลเล็กชั่นอื่นกันไปเลย

ในวันที่ 8 กรกฎาคม 1952 ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่กลายเป็นประวัติศาสตร์สำหรับ Tudor ในเวลาต่อมา เมื่อคณะสำรวจและวิจัยภาคสนามจำนวน 25 คนได้มุ่งหน้าออกจาก Deptford เพื่อทำการสำรวจพื้นที่ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความหฤโหดของทวีปอาร์กติกเพื่อสำรวจ British North Greenland Expedition (BNGE) ที่ถือว่าเป็นพื้นที่สำหรับพิสูจน์ความกล้าหาญของนักผจญภัยในยุคศตวรรษที่ 20 ตลอด 2 ปีทั้งนักวิทยาศาสตร์ คณะแพทย์ และทหารต้องเผชิญหน้ากับอุณหภูมิที่สุดโหดซึ่งติดลบถึง 87 องศาสฟาเรนไฮต์ของพื้นที่ในแถบกรีนแลนด์ เพื่อทำการวิจัยในด้านอุตุนิยมวิทยา ธรณีวิทยา และเรื่องแผ่นดินไหว

ในปีเดียวกันกับที่คณะวิจัยชุดนี้ออกเดินทาง Tudor ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Oyster Prince Ref.7808 ออกมา ซึ่งถือเป็นนาฬิกาที่ใช้กลไกอัตโนมัติและมีความสามารถในการกันน้ำรุ่นแรกของบริษัท และพวกเขาได้ส่งนาฬิกาจำนวน 30 เรือนไปให้กับคณะวิจัยชุดนี้เพื่อทำการวิจัยบนพื้นที่ BNGE พร้อมกับออกโฆษณาที่มีข้อความว่า ‘ชายผู้กล้าหายเหล่านี้สวมนาฬิกา Tudor Oyster Prince (และ) มีศรัทธาแน่วแน่ในความสามารถของพวกเขาที่จะยืนหยัดและเผชิญหน้ากับอันตรายอันใหญ่หลวงที่รออยู่ข้างหน้า’

the courageous men who wear these Tudor Oyster Princes [and] have unerring faith in their ability to withstand these tremendous hazards.” ไม่มีใครรู้หรอกว่าสิ่งที่คณะสำรวจเหล่านี้เจอจะโหดร้ายขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ นาฬิกาของ Tudor ได้ถูกนำไปทดสอบในสภาพการใช้งานจริง และสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นองค์ความรู้ที่ถูกถ่ายทอดมายังนาฬิการุ่นหลังๆ ของพวกเขา และหนึ่งในนั้นคือ คอลเล็กชั่น Ranger ซึ่งถือเป็นนาฬิกาสำหรับนักผจญภัย

Tudor Ranger

Tudor Ranger Tudor Ranger
Tudor Ranger Tudor Ranger

การทดสอบภาคสนาม

การสำรวจกรีนแลนด์เหนือของอังกฤษเปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการถือกำเนิดของ TUDOR และนาฬิกาเครื่องมือของแบรนด์ อันที่จริงแล้ว นี่เป็นหนึ่งในการทดลองระยะยาวครั้งแรกๆ ภายใต้สภาวะสุดขั้วของการใช้งานจริงที่ทางแบรนด์ได้ดำเนินการ

สมาชิกของทีมนักสำรวจได้คอยตรวจสอบความผันแปรด้านความเที่ยงตรงของนาฬิกา Oyster Prince ของตนเทียบกับสัญญาณบอกชั่วโมงที่ BBC ได้ส่งออกมา และบันทึกข้อมูลเหล่านี้ลงในสมุดโน้ตเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ เมื่อคำนึงถึงอุณหภูมิที่คาดว่าจะต้องประสบ นาฬิกา TUDOR ที่ถูกส่งมาเข้าร่วมโครงการนี้จึงถูกเคลือบเป็นพิเศษด้วยน้ำมัน “อาร์กติก” และมาพร้อมกับตัวขยายความยาวสายเพื่อให้สามารถสวมนาฬิกาทับบนแขนเสื้อคลุมกันลมและหิมะได้ หลังกลับจากกรีนแลนด์แล้ว

หนึ่งในสมาชิกของทีมนักสำรวจได้เขียนจดหมายถึง TUDOR ซึ่งยังคงได้รับการเก็บรักษาไว้ในคลังข้อมูลของแบรนด์ โดยได้บอกเล่าว่านาฬิกาของเขา “รักษาความแม่นยำไว้ได้อย่างน่าทึ่ง” และ “ในบางครั้งก็จำเป็นต้องไขลานด้วยมืออยู่บ้าง”

แนวคิดการทดสอบเช่นนี้ หรือที่เรียกกันว่า “การทดสอบการทำลายล้าง” ที่นำเอานาฬิกาไปประเมินประสิทธิภาพในภาคสนามโดยมืออาชีพภายใต้สภาพแวดล้อมสุดขั้ว ได้ถูกนำไปใช้เป็นธีมของแคมเปญโฆษณาขนาดใหญ่ของ TUDOR ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1952 อีกด้วย การทดสอบดังกล่าวได้ให้แนวทางในการพัฒนานาฬิกาเครื่องมือของแบรนด์หลายต่อหลายรุ่น

แนวคิดเรื่องความทนทานนี้ยังคงเป็นหัวใจหลักแห่งปรัชญาของ TUDOR ดังที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากข้อความที่สื่อสารในตลอดช่วงหลายทศวรรษต่อมา โดยมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพทางเทคนิคภายใต้สภาวะที่ยากลำบากเสมอ แทนที่จะเน้นเรื่องความทรงเกียรติหรือสถานะอันสูงส่ง ตัวอย่างเช่น เมื่อต้นทศวรรษที่ 1970 ในแคตตาล็อกของ TUDOR ได้มีการนำเสนอนาฬิการุ่น Ranger บนข้อมือของช่างตัดไม้ที่ “เลือกนาฬิกาของเขาอย่างพิถีพิถันเช่นเดียวกับการเลือกเลื่อยคู่ใจ”

Tudor Ranger

สำหรับต้นกำเนิดของนาฬิกาในตระกูล Ranger นั้นย้อนกลับไปถึงปี 1929 ซึ่งเป็นปีที่ Hans Wilsdorf ได้จดทะเบียนชื่อ “Ranger” เพียงสามปีหลังจากที่จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “The Tudor” ณ เวลานั้น ชื่อนี้ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อระบุถึงรุ่นนาฬิกาโดยเฉพาะ แต่ใช้เพื่อเสริมแนวคิดของการผจญภัยให้กับนาฬิกาบางรุ่นในคอลเลกชันของ Tudor ความงดงามที่เราจดจำได้ว่าเป็น Ranger ในทุกวันนี้ไม่ได้ปรากฎโฉมจนกระทั่งช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งก็คือตัวเลขอารบิกขนาดใหญ่เคลือบด้วยสารเรืองแสงแบบหนาที่ตำแหน่ง 3 (สำหรับรุ่นที่ไม่มีวันที่), 6, 9 และ 12 นาฬิกา รวมถึงเข็มนาฬิกาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะด้วย

Tudor Ranger Tudor Ranger
Tudor Ranger Tudor Ranger
Tudor Ranger Tudor Ranger

นาฬิกามีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ทั้งแบบที่มีและไม่มีวันที่ มีกลไกลานระบบอัตโนมัติหรือแบบหมุนเอง และรุ่นแรกเริ่มที่มาพร้อมโลโก้ดอกกุหลาบ Tudor ตามด้วยรูปเกราะบนหน้าปัด และนับตั้งแต่ปี 1973 ก็มีนาฬิกา Ranger ในเวอร์ชันที่มาพร้อมสายในตัวภายใต้ชื่อรุ่น “Ranger II”

สำหรับนาฬิกา Ranger รุ่นใหม่นี้เป็นการย้อนรำลึกถึงมาตรฐานด้านความงามที่เป็นรากฐานมาตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหน้าปัดพร้อมตัวเลขอารบิกที่ตำแหน่ง 3, 6, 9 และ 12 นาฬิกา ในขณะที่ผนวกรวมองค์ประกอบทางเทคนิคใหม่ๆ ที่ก้าวล้ำที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คาลิเบอร์ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองประสิทธิภาพสูง และตัวล็อก “T-fit” ของ Tudor ที่มีกลไกปรับสายได้อย่างรวดเร็ว นาฬิกานี้ยังคงสืบสานประเพณีแห่งนาฬิกาเพื่อการสำรวจในคอลเลกชันของ Tudor ที่ถือกำเนิดจากนาฬิกา Oyster Prince ซึ่งสมาชิกของทีมนักสำรวจกรีนแลนด์เหนือของอังกฤษได้นำไปใช้งาน ปรัชญาแห่งเครื่องมือที่ทนทาน ใช้งานได้จริง และในราคาที่จับต้องได้

Tudor Ranger Tudor Ranger
Tudor Ranger Tudor Ranger

นาฬิการุ่น Ranger มาพร้อมกับคาลิเบอร์ MT5402 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง โครงสร้างถูกออกแบบมาเพื่อความทนทาน อายุการใช้งานที่ยืนยาว ความน่าเชื่อถือ และความเที่ยงตรง ด้วยเม็ดถ่วงสมดุลในตัวนาฬิกาซึ่งถูกยึดอยู่กับที่ด้วยแผ่นเชื่อมอันมั่นคงที่มีจุดยึดสองจุด และด้วยสมดุลดังกล่าวพร้อมกับสปริงซิลิคอนเพิ่มสมดุลแบบไร้แม่เหล็ก

คาลิเบอร์ MT5402 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองจึงเป็นโครโนมิเตอร์ที่ผ่านการรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงอย่างเป็นทางการของสวิตเซอร์แลนด์ (COSC) ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นยิ่งกว่ามาตรฐานที่กำหนดโดยสถาบันอิสระแห่งนี้ อันที่จริงแล้ว ทาง COSC อนุญาตให้กลไกนาฬิกามีความผันแปรเฉลี่ยสำหรับอัตราการทำงานในแต่ละวันอยู่ที่ระหว่าง -4 ถึง +6 วินาทีตามเวลาสัมบูรณ์ในแต่ละครั้งที่เคลื่อนไหว แต่ Tudor ยังคงยืนยันที่จะกำหนดความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ไว้ที่ -2 ถึง +4 วินาทีสำหรับนาฬิกาของบริษัทที่ประกอบสมบูรณ์แล้ว

อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นก็คือพลังงานสำรองของคาลิเบอร์ MT5402 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น “ไม่หยุดสุดสัปดาห์” หรือกล่าวคือประมาณ 70 ชั่วโมง จึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถถอดนาฬิกาในคืนวันศุกร์และสวมกลับคืนอีกครั้งตอนเช้าวันจันทร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องไขลานหรือตั้งเวลาใหม่

อีกคุณสมบัติที่โดดเด่นก็คือพลังงานสำรองของคาลิเบอร์ MT5402 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเองนั้น “ไม่หยุดสุดสัปดาห์” หรือกล่าวคือประมาณ 70 ชั่วโมง จึงทำให้ผู้สวมใส่สามารถถอดนาฬิกาในคืนวันศุกร์และสวมกลับคืนอีกครั้งตอนเช้าวันจันทร์ได้โดยไม่จำเป็นต้องไขลานหรือตั้งเวลาใหม่

Tudor RangerTudor RangerTudor RangerTudor Ranger

ส่วนสายนาฬิกาสำหรับรุ่น Ranger ใหม่นั้นมีทั้งสายแจ็คการ์ดสายสีเขียวมะกอกคาดด้วยแถบสีแดงสองเส้นและสีเบจหนึ่งเส้นซึ่งถักทอขึ้นโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ Ranger ยังมีสายนาฬิกาแบบเหล็กกล้าขัดผิวสัมผัสแบบซาตินทั้งเส้น พร้อมตัวล็อก “T-fit” ของ Tudor ที่มากลไกปรับสายได้อย่างรวดเร็ว ระบบที่ใช้งานได้จริงนี้ใช้ง่ายและไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือใดๆ

โดยมีให้เลือก 5 ตำแหน่ง ทำให้ผู้สวมใส่นาฬิกา Tudot รุ่น Ranger สามารถปรับแต่งความยาวสายได้อย่างละเอียดในทันทีตลอดทั้งเส้นตามช่วงระยะการปรับครั้งละ 8 มม.และสุดท้ายคือตัวเลือกสายแบบที่สามซึ่งทำจากยางธรรมชาติและหนังสีดำที่มีผิวสัมผัสคล้ายผ้า พร้อมเย็บตะเข็บด้านบนด้วยด้ายสีเบจและตัวล็อกบานพับ

เปิดตัวและพร้อมทำตลาดแล้ว โดยราคาอยู่ที่ 97,000-108,100 บาท

Tudor Ranger Tudor Ranger

รายละเอียดทางเทคนิค : Tudor Ranger

  • หมายเลขอ้างอิง 79950
  • ตัวเรือน : ตัวเรือนเหล็กกล้าขนาด 39 มม. ผิวสัมผัสแบบซาติน
  • ขอบตัวเรือน : เหล็กกล้าขัดเรียบผิวสัมผัสแบบซาติน
  • เม็ดมะยม : เม็ดมะยมเหล็กกล้าแบบขันเกลียว พร้อมสัญลักษณ์กุหลาบ TUDOR แบบนูน
  • หน้าปัด : ทรงโดมสีดำ
  • กระจกคริสตัล : คริสตัลแซฟไฟร์ ทรงโดม
  • การกันน้ำ : กันน้ำลึกสูงสุดถึง 100 ม. (330 ฟุต)
  • สายนาฬิกา : สายนาฬิกาเหล็กกล้าแบบสามข้อต่อพร้อมตัวล็อกบานพับและสลักนิรภัย TUDOR “T-fit”, สายนาฬิกาไฮบริดที่ทำจากยางและผ้าพร้อมตัวล็อกบานพับและสลักนิรภัยเหล็กกล้า หรือสายนาฬิกาผ้าสีเขียวคาดแถบสีแดงและเบจพร้อมหัวเข็มขัด
  • กลไก : คาลิเบอร์ MT5402 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง กลไกลานอัตโนมัติพร้อมระบบโรเตอร์หมุนได้สองทิศทาง
  • ความเที่ยงตรง : โครโนมิเตอร์ของสวิสที่ผ่านการรับรองโดย COSC (สถาบันควบคุมความเที่ยงตรงอย่างเป็นทางการจากสวิตเซอร์แลนด์)
  • ความถี่: 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง (4Hz)
  • กำลังสำรอง : ประมาณ 70 ชั่วโมง