Tudor นำความสดใสของสีน้ำเงินที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์กลับมาสู่คอลเล็กชั่น Black Bay Chrono กับรุ่น‘Blue’ Boutique Edition บนตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมสายแบบ 5-Link และกลไกอัตโนมัติแบบจับเวลา Chronograph โดยจะมีจำหน่ายเฉพาะบูติกของ Tudor ที่ได้รับการคัดเลือกเท่านั้น

Tudor Black Bay Chrono Blue Boutique Edition พลังสีน้ำเงินสัมผัสได้ที่บูติก
-
เวอร์ชันใหม่ของ Black Bay Chrono กับหน้าปัดสีน้ำเงินสุดสวย
-
ใช้พื้นฐานเดียวกับรุ่นปกติ แต่มากับสายแบบ 5-Link
-
มีจำหน่ายเฉพาะบูติกที่ได้รับการคัดเลือกเท่านั้น ส่วนราคาอยู่ที่ 211,500 บาท
Tudor เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับคอลเล็กชั่น Black Bay Chrono ด้วยหน้าปัดสีใหม่ แต่ที่สำคัญคือ การนำสายแบบ 5 แถว หรือ 5-Link มาใช้เพื่อเป็นอีกทางเลือกนอกเหนือจากสายสตีลแบบ 3 แถว สายผ้าแจ็คการ์ด และสายหนัง โดยรุ่นใหม่นี้จะมากับชื่อ Tudor Black Bay Chrono ‘Blue’ Boutique Edition ซึ่งจะจำหน่ายผ่านเฉพาะบูติกของ Tudor ที่ได้รับเลือก
![]() |
![]() |
ตั้งแต่เปิดตัว Oysterdate ซึ่งเป็นนาฬิกาจับเวลาเรือนแรกในปี 1970 TUDOR ได้ผลิตนาฬิกาที่มีความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับโลกของกีฬามอเตอร์สปอร์ตมาโดยตลอด ขณะที่ในโลกของการดำน้ำ Tudor ก็ได้พัฒนานาฬิกาสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพมาโดยตลอดนับจากปี 1954 Black Bay Chrono จึงเป็นการผสมผสานประเพณีเหล่านี้เข้าด้วยกันในนาฬิกาจับเวลาสำหรับนักเล่นกีฬาโดยเฉพาะ โดยมีตัวนับย่อยที่ตัดกันและกลไกอัตโนมัติแบบ Manufacture Calibre ประสิทธิภาพสูง พร้อมคอลัมน์วีลและคลัตช์แนวตั้ง
![]() |
![]() |
สำหรับ Tudor Black Bay Chrono ‘Blue’ Boutique Edition ถอดแบบมาจาก Black Bay Chrono รุ่นปกติ โดยหน้าปัดทรงโดมใช้พื้นหลักเป็นสีนำเงิน เช่นเดียวกับอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนก็ยังเป็นสีเดียวกัน และยังเป็นแบบอะลูมิเนียมเหมือนเดิม ขณะที่พื้นหน้าปัดของวงจับเวลาย่อยจะมากับสีเงิน ตัดกันอย่างสวยงามและลงตัว
เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับรุ่นนี้ จึงมีหน้าปัดแบบเฉพาะของรุ่นพิเศษนี้ที่นำเอาประเพณีอันยาวนานของ Tudor มาใช้ในการผสมผสานหน้าปัดสีน้ำเงินในทุกสายของคอลเลกชั่น ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา แบรนด์ได้ริเริ่มเฉดสีน้ำเงินหลายเฉดในการออกแบบหลายแบบ โดยยังคงรักษารูปแบบสีน้ำเงินหลายแบบไว้ในแค็ตตาล็อกรุ่นต่อๆ มา ซึ่งทำให้มีแนวคิดเรื่อง “Tudor Blue” ขึ้นมา ซึ่งไม่ได้หมายถึงสีใดสีหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เน้นย้ำถึงความคงอยู่ของสีในสุนทรียศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Tudor
สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือนาฬิกา 2 รุ่นที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Black Bay Chrono “Blue” ได้แก่ นาฬิกาสำหรับดำน้ำ เช่น รุ่น “Snowflake” TUDOR Submariner สีน้ำเงินอันโด่งดัง และนาฬิกาโครโนกราฟ โดยมีรุ่น “Montecarlo” Oysterdate Chronograph สีน้ำเงินซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักสะสม โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นสัญลักษณ์ของการผลิตของ Tudor ในยุค 70
![]() |
![]() |
ปัจจุบัน นาฬิการุ่นต่อยอดทางจิตวิญญาณของทั้งสองรุ่นได้รับการตกแต่งด้วยสี “Tudor Blue” ซึ่งสืบสานประเพณีดั้งเดิม และมีจำหน่ายเฉพาะที่บูติก Tudor ทั่วโลกเท่านั้น
สำหรับรุ่นนี้ นอกจากหน้าปัดแล้ว อีกสิ่งที่ถือว่าพิเศษและแตกต่างจากเดิม คือ สาย โดยจริงๆ แล้วสายแบบ 5 แถวถูกนำมาใช้กับรุ่นดำน้ำแบบ 3 เข็มของ Black Bay มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนที่จะนำมาใช้กับรุ่น Chrono ในเวอร์ชันหน้าปัดสีชมพูเมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ขณะที่รุ่นปกติสายแบบนี้ยังไม่มีวางจำหน่าย
ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ถือว่าเป็นการบอกนัยๆ ว่า Tudor น่าจะนำสาย 5-Link เสริมเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับรุ่นปกติในเร็วๆ นี้ และตัวสายมาพร้อมกับบานพับที่มีระบบ T-Fit สามารถปรับความแน่นหรือหลวมสำหรับสายเมื่ออยู่บนข้อมือได้อย่างสะดวกด้วยตัวปรับละเอียด

การขับเคลื่อนยังเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติในรหัส MT5813 ซึ่งเป็น Manufacture Calibre หรือกลไกที่ถูกพัฒนาและผลิตโดยแบรนด์ และเป็นกลไกจับเวลาที่อยู่ใน Tudor Black Bay Chrono ทุกรุ่น จับเวลาได้สูงสุด 45 นาที มีความเที่ยงตรงในระดับ -2 ถึง +4 วินาทีต่อวัน และผ่านมาตรฐานความเที่ยงตรงระดับ Chronometer ของ COSC โดยมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 70 ชั่วโมง และมีความสามารถในการกันน้ำ 200 เมตร
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับราคาจำหน่ายของ Tudor Black Bay Chrono ‘Blue’ Boutique Edition Ref. M79360B-0002 อยู่ที่ 211,500 บาท โดยจะจำหน่ายผ่านทางบูติกที่ได้รับเลือกเท่านั้น
รายละเอียดทางเทคนิค : Tudor Black Bay Chrono Blue Boutique Edition
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 41 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.4 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire ทรงโดม
- กลไก : อัตโนมัติ MT5813 แบบจับเวลา
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 70 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline