อีกทั้งที่ Tudor นำวัสดุอย่าง Yellow Gold 18K กลับมาใช้กับนาฬิการุ่น Black Bay 58 โดยคราวนี้มาในแบบ Full Gold บนตัวเรือนและสายผลิตจาก Yellow Gold 18K แบบขัดซาติน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ MT5400 มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมงซึ่งมีความเที่ยงตรงในแบบ Chronometer
Tudor Black Bay 58 Full Gold อร่ามทั้งข้อมือด้วยทอง 18K
-
อีกทางเลือกแห่งวัสดุที่ Tudor นำเสนอผ่านตัวเรือน 39 มิลลิเมตรของ Black Bay 58
-
มาในแบบ Full Gold โดยทั้งตัวเรือน ฝาหลัง เม็ดมะยมและสายผลิตจาก Yellow Gold 18K แบบขัดซาติน
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ MT5400 มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง
หลังจากที่มีการเปิดตัวรุ่น Tudor Black Bay 58 18K ออกมาพร้อมกับสายหนัง เรียกว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก เพราะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เจอกับวัสดุที่มีค่าบนนาฬิการุ่น Black Bay สักเท่าไร ดังนั้น ในปีนี้ Tudor จึงเอาใจสายทองแบบเต็มที่ด้วยเวอร์ชัน Tudor Black Bay 58 Full Gold อร่ามทั้งตัวเรือนและสายด้วยการใช้ทองคำ 18K ในการผลิต บนพื้นฐานของรุ่น 58 ที่มาพร้อมกับตัวเรือนไซส์ 39 มิลลิเมตร
Tudor Black Bay 58 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 เพื่อเป็นอีกทางเลือกของ Black Bay ในตัวเรือนไซส์เล็กลงมาอยู่ที่ 39 มิลลิเมตร ถือเป็นเวอร์ชันที่มีความหลากหลายของวัสดุที่ใช้ในการผลิตตัวเรือนมากที่สุดรุ่นหนึ่งของแบรนด์เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากรุ่นสตีลแล้ว พวกเขายังมีทางเลือกของทั้ง Silver 925 หรือเงิน ตามด้วยทองที่เคยเปิดตัวออกมาแล้วในรหัส Ref. M79018V-0001 กับตัวเรือน Yellow Gold แต่สายหนัง และตามด้วย Ref. M79018V-0006 ในแบบ Full Gold ในแบบตัวเรือนและสายผลิตจาก Yellow Gold
ในรุ่นนี้ไม่ได้เน้นความแวววาวของพื้นผิววัสดุอย่างทอง Yellow Gold แต่เลือกที่จะทำให้มีลักษณ์ที่เป็นผิวด้านด้วยการขัดลายแบบซาติน จนทำให้สีสันมีความคล้ายกับบรอนซ์อย่างมาก ในแง่ของขนาดตัวเรือนนั้นไม่ได้แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร พร้อมความหนา 12.7 มิลลิเมตร
และฝาหลังแบบใสทำให้สามารถมองเห็นรายละเอียดของชิ้นส่วนกลไกที่อยู่ด้านใน โดยอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนและหน้าปัดมากับพื้นเขียวแบบ Gold Green ซึ่งตัวหน้าปัดเป็นแบบทรงโค้ง หรือ Domed และพื้นผิวเป้นแบบด้าน เสริมความเด่นด้วยหลักชั่วโมง และชุดเข็ม ซึ่งผลิตจากทองคำ Yellow Gold เช่นเดียวกับเม็ดมะยม
ในรุ่นนี้มากับสายที่ผลิตจากทองคำและเป็นแบบ 3 แถว ที่ขาดไม่ได้คือ การติดตั้งบานพับแบบ T-Fit ที่สามารถปรับได้อย่างละเอียดเพื่อให้ตัวนาฬิกามีขนาดสอดรับกับข้อมือผู้สวมใส่ได้มากที่สุด และใช้งานได้อย่างสะดวกที่สุด
ขณะที่กลไกเป็นแบบเดียวกัน คือ รหัส MT5400 มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย COSC เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิคอน และมีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง จึงมั่นใจได้ว่านี่คือ Weekend Watch อีกรุ่นที่เมื่อใส่จนลานเต็ม ถอดวางในคืนวันศุกร์ และไม่ได้สวมใส่ในวันเสาร์และอาทิตย์ ตัวนาฬิกาจะยังทำงานต่อเนื่องจนถึงเช้าวันจันทร์โดยที่ไม่ต้องปรับตั้งเวลาใหม่แต่อย่างใด
ราคาของ Tudor Black Bay 58 Full Gold อยู่ที่ 1,197,400 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.tudorwatch.com/en/watches/black-bay-58/m79018v-0006
รายละเอียดทางเทคนิค : Tudor Black Bay 58 Full Gold อยู่ที่ 1,197,400 บาท
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 39 มม.
- ความหนา : 11.9 มม.
- Lug to Lug : 48 มม.
- วัสดุตัวเรือนและสาย : Yellow Gold 18K
- กระจก : Sapphire ทรงโดม
- กลไก : อัตโนมัติ MT5400 มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง 70 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline