Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue สีสันสดใสบนตัวเรือน 37 มิลลิเมตร

0

Tudor เพิ่มทางเลือกใหม่ของสีสันบนหน้าปัดกับรุ่น Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue บนตัวเรือนขนาด 37 มิลลิเมตร พร้อมสาย 5-Link และบัคเคิลที่มีตัวปรับแบบ T-Fit โดยสีสันใหม่บนหน้าปัดที่สะท้อนถึงท้องทะเล แสงอาทิตย์ และชีวิตที่ Slow Life และขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรหัส MT5400 มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ตามมาตรฐานของ COSC

- Advertisement -

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue สีสันสดใสบนตัวเรือน 37 มิลลิเมตร

  • สีสันใหม่บนหน้าปัดที่สะท้อนถึงท้องทะเล แสงอาทิตย์ และชีวิตที่ Slow Life

  • ใช้พื้นฐานของรุ่น Black Bay 54 พร้อมความเปลี่ยนแปลงทั้งบนหน้าปัดและอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือน

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรหัส MT5400 มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ตามมาตรฐานของ COSC

มีเซอร์ไพรส์เล็กๆ รับกลางปีสำหรับ Tudor กับหน้าปัดสีสันสดใสรับช่วงซัมเมอร์ของฝั่งยุโรป ซึ่งถูกนำมาตจับคู่กับนาฬิการุ่นฮ็อตของแบรนด์อย่าง Black Bay และเลือกรุ่น Black Bay 54 ที่มากับตัวเรือนไซส์ 37 มิลลิเมตรเพื่อจับคู่กับหน้าปัดสี Lagoon Blue เรียกว่าใส่ได้ทั้งสุภาพสตรี และสุภาพบุรุษที่มีขนาดข้อมือเล็ก

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

Tudor Black Bay 54 เปิดตัวเมื่อปี 2023 เพื่อเป็นอีกทางเลือกของไซส์จากขนาดที่เล็กลงมาของ Black Bay ซึ่งเมื่อก่อนมีตัวเรือน 41 มิลลิเมตร และรุ่น 39 มิลลิเมตรในชื่อ Black Bay 58 ทำตลาดอยู่ โดยตัวเรือนและชื่อรุ่นเป็นการอ้างอิงมาจากนาฬิการุ่นตลาสสิคในอดีตของแบรนด์ที่เปิดตัวออกมาในปี 1954 นั่นคือ Oyster Prince Submariner Ref.7922 พร้อมการออกแบบที่ได้วางรากฐานให้กับความงดงามซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Tudor และมีตัวเรือน 37 มิลลิเมตร

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

สำหรับสี Lagoon Blue (Ref.MT79000-0001) คือ การสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของสีสันบนพื้นผิวน้ำแห่งท้องทะเล สีสันที่สดใสรับช่วงฤดูร้อนท่ามกลางแสงอาทิตย์ และการใช้ชีวิตแบบ Slow Life แบบชิลล์ๆ โดยถือเป็นครั้งแรกสำหรับ Black Bay รุ่น 3 เข็มที่มากับหน้าปัดโทนสีจัดจ้าน เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งสีชมพูและสี Blue Flamingo เป็นการจับคู่กับ Black bay Chrono

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

ตัวหน้าปัดมีสีฟ้าน้ำทะเลสวยงาม และมีลักษณะพื้นผิวที่มีลาย Texture คล้ายกับการเคลื่อนตัวของผิวน้ำ ขณะที่ตัวหน้าปัดเป็นทรงโดม ทุกอย่างสอดรับกับชุดเข็มทรง Snow Flake อันเป็นเอกลักษณ์ของ Tudor

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

นอกจากนั้น การเลือกรุ่น Black Bay 54 ถือว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัว เพราะด้วยขนาดตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 37 มิลลิเมตร ทำให้ตัวนาฬิกาสามารถรองรับกับความต้องการได้ทั้ง 2 ฝั่ง ตัวเรือนสเตนเลสสตีลมีการขัดเงาอย่างสวยงามเพื่อให้เล่นกับแสงอาทิตย์อีนร้อนแรงของฤดูร้อน และจับคู่กับสายสเตนเลสสตีลแบบ 5-Link พร้อมบานพับที่มีระบบปรับสายแบบ T-Fit ซึ่งสามารถขยับความกว้างของนาฬิกาให้เหมาะสมกับข้อมือด้วยตัวปรับละเอียด เพื่อให้สามารถรัดกระชับกับข้อมือ

Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

ขอบตัวเรือนมาในแบบเงา ดูแล้วแปลกตา และไม่ค่อยพบในนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้ ซึ่งเมื่อมองในบางมุมจะเห็นภาพเป็นเหมือนกับขอบตัวเรือนมีสีเข้มอยู่บนพื้นผิว

การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติ Manufacture ในรหัส MT5400 ที่ผลิตจากโรงงานใน Le Locle ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer ตามมาตรฐานของ COSC และมีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง และการกันน้ำ 200 เมตร

สำหรับ Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue มีราคาในไทยอยู่ที่ 155,600 บาท

รายละเอียดทางเทคนิค ; Tudor Black Bay 54 Lagoon Blue

  • ตัวเรือน :สแตนเลสสตีลขนาด 37 มม. พร้อมผิวสัมผัสแบบขัดเงาและซาติน
  • ความหนา : 11.2 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
  • กระจกคริสตัล :คริสตัลแซฟไฟร์ ทรงโดม
  • กลไก :คาลิเบอร์ MT5400 ที่พัฒนาขึ้นภายในโรงงานของตนเอง (ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจาก COSC)
    กลไกลานอัตโนมัติพร้อมระบบโรเตอร์หมุนได้สองทิศทาง
  • ความเที่ยงตรง :สวิสโครโนมิเตอร์ที่ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการโดย COSC (สถาบันควบคุมความเที่ยงตรงอย่างเป็นทางการจากสวิตเซอร์แลนด์)
  • ความถี่: 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง (4Hz)
  • กำลังสำรอง :ประมาณ 70 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 200 ม. (660 ฟุต)