Seiko เปิดตัวนาฬิกา 2 รุ่นใหม่ที่สร้างสรรค์จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่างช่วงเวลาของการเกิดพายุ และหลังจากเกิดพายุ และถูกนำเสนอผ่านทางนาฬิกาสุดพิเศษรุ่น Seiko Prospex Cloud Phenomenon Thailand Limited Edition ซึ่งจะมีการผลิตออกสู่ตลาดรุ่นละ 1,500 เรือนเท่านั้น
Seiko Prospex Cloud Phenomenon Thailand Limited Edition ปรากฏารณ์ธรรมชาติบนตัวเรือน Monster
Seiko Thailand นำเสนอปรากฏการณ์แห่งธรรมชาติที่มีความสวยงามมาสะท้อนผ่านเรือนเวลารุ่นดังของพวกเขาอย่าง Monster กับคอลเล็กชั่นใหม่ที่มีการผลิตจำกัดเพื่อตลาดเมืองไทย นั่นคือ Seiko Prospex Cloud Phenomenon Thailand Limited Edition ซึ่งจะมีการผลิตออกสู่ตลาดรุ่นละ 1,500 เรือนเท่านั้น
นาฬิกาทั้ง 2 เรือนถูกสร้างสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Storm (พายุ) and Sun Shine (แสงแดด) ภายใต้ตัวเรือนยอดฮิตที่แฟนๆ ทั่วโลกขนานนามว่า Monster “มอนสเตอร์” โดยสองเรือนเวลาพิเศษนี้ได้เกิดจากการรวบรวมแรงบันดาลใจของปรากฏการณ์จากธรรมชาติที่เกิดขึ้นและพบเจอได้บ่อยครั้งบนท้องฟ้าผ่านปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของก้อนเมฆจากพายุ และยามที่ท้องฟ้าสดใสหลังพายุผ่านไปนั่นเอง
- SRPK51K หรือ Storm มากับตัวเรือนสีดำสนิท BLACK IP ที่นำแรงบันดาลใจจากความมืดมิดของท้องฟ้าในช่วงที่พายุพัดโหมกระหน่ำ พื้นหน้าปัดถูกสรรสร้างด้วยเทคนิคพิเศษจนเกิดพื้นผิวคล้ายก้อนเมฆที่กำลังก่อตัว จนเกิดเป็นพายุที่ดุดัน แข็งแกร่ง และทรงพลัง เสริมความโดดเด่นให้กับหน้าปัดด้วยขอบหน้าปัดแสดงสเกลนาทีแบบทูโทน ขาว – ฟ้าโดยนาทีที่ 1 – 25 เลือกใช้เป็นสีฟ้าตัดกับตัวเรือน ฝาหลังและเม็ดมะยมมากับสีทอง Rose Gold มีราคา 26,800 บาท
- SRPK53K หรือ Sunshine เรือนเวลาที่ถ่ายทอดช่วงเวลาหลังความมืดดำของพายุที่ผ่านไป และมองเห็นก้อนเมฆบนท้องฟ้าเปลี่ยนไปเป็นความสดใสโดยสิ้นเชิงหลังอาทิตย์สาดส่อง โดยความโดดเด่นอยู่ที่หน้าปัดสีฟ้าที่ถูกรังสรรค์อย่างมีมิติเหมือนกับปุยเมฆละมุน ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอันสดใส ละม้ายคล้ายกับภาพวาดสีน้ำมัน งานศิลป์ที่ถูกสร้างสรรค์อย่างประณีตตั้งใจจนกลายเป็นอาร์ตพีซที่งดงามน่าหลงใหล มากับเม็ดมะยมและฝาหลังสีทอง มีราคา 24,800 บาท
เติมสีสันที่ขอบหน้าปัดด้านในสีขาว-ส้ม และเพิ่มดีกรีความสดชื่นด้วยขอบตัวเรือนแบบทูโทนสีไวโอเล็ต และน้ำเงิน ประกอบกับสีของชุดเข็มทั้งสามที่แตกต่างกันโดยเข็มชั่วโมงสีทอง เข็มนาทีใช้สีน้ำเงินเข้ม และเข็มวินาทีเป็นสีเขียว เรียกได้ว่าเป็นอีกปรากฏการณ์เมื่อแสงตกกระทบละอองน้ำบนท้องฟ้าจะเกิดสีสันต่างๆ สะท้อนตามากมายอย่างสวยงาม พร้อมหน้าต่างย่อยบอกวัน และวันที่ ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เคลือบสารเรืองแสงลูมิไบร์ทที่เข็มนาที เข็มชั่วโมง ปลายเข็มวินาที และอินเด็กซ์ ปิดท้ายด้วยความโดดเด่นให้ครบองค์ประกอบแลดูสวยสง่าด้วยเม็ดมะยม และฝาหลังสีเยลโล่โกลด์
ทั้ง 2 รุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไก 4R36 และใช้กระจก Hardlex แบบมีเลนส์นูนตรงช่อง Day/Date และมีการผลิตรุ่นละ 1,500 เรือน โดยมาพร้อมกล่องดีไซน์พิเศษแบบเดียวกัน โดยด้านนอกออกแบบเป็นสีดำของบรรยากาศยามพายุโหมกระหน่ำ และเมื่อเปิดกล่องจะเจอ 3D POP UP DIE CUT รูปก้อนเมฆสีฟ้าสดใสของท้องฟ้าหลังพายุและข้อความสร้างแรงบันดาลใจ “After the dark rainy sky, comes a beautiful sun shining day” ซึ่งมีความหมายว่า “ท้องฟ้าหลังพายุฝนอันมืดมิดย่อมสดใสสวยงามเสมอ”
Seiko Prospex Cloud Phenomenon Thailand Limited Edition มีการผลิตออกมารุ่นละ 1,500 เรือน และเริ่มวางจำหน่ายแล้วงาน Central International Watch Fair 2023 ในวันที่ 10 ตุลาคม 2023 เป็นต้นไป ณ บูธนาฬิกา Seiko ชั้น 3 เซ็นทรัลชิดลม
เปิดจำหน่ายทุกช่องทางพร้อมกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ไซโก บูติก เซ็นทรัลแกรนด์ พระราม 9 และ เคาท์เตอร์ไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ,ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และ Seiko Boutique Online: www.seikoboutiquethailand.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888
รายละเอียดทางเทคนิค : Seiko Prospex Cloud Phenomenon Thailand Limited Edition
- คาลิเบอร์ 4R36 (ความถี่ 21,600 : 6 beats)
- ระบบออโตเมติก และการขึ้นลานผ่านเม็ดมะยม
- ความคลาดเคลื่อน +45 ถึง -35 วินาทีต่อวัน
- การสำรองพลังงาน 41 ชั่วโมง
- ตัวเรือนสเตนเลสสตีล (SRPK51K เคลือบ Black IP Coating)
- กระจกฮาร์ดเล็กซ์
- หน้าปัด สีดำ (Strom) สีฟ้า (Sunshine)
- ลูมิไบรท์ เข็มวินาที เข็มนาที เข็มชั่วโมง และอินเด็กซ์
- สายสแตนเลสสตีล (SRPK51K เคลือบ Black IP Coating)
- กันน้ำ 200 เมตร
- ขนาด ความหนา : 13.4 มม. ตัวเรือน : 42.4 มม. ความยาว : 49.4 มม.
- เม็ดมะยม และฝาหลัง ขันเกลียว (SRPK51K สีโรสโกลด์ และ SRPK53K สีเยลโล่โกลด์)
- แสดงวันและวันที่ ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
- หน้าปัดปั๊มลาย (Pressed Dial)
- จำหน่ายเฉพาะประเทศไทย รุ่นละ 1,500 เรือน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline