Seiko เฉลิมฉลองโอกาสพิเศษครบ 140 ปีของการก่อตั้งบริษัทด้วยการนำเสนอความสวยงามของย่าน Ginza ในกรุงโตเกียวมาสะท้อนผ่านหน้าปัดและเข็มวินาที โดยจะมีการผลิตออกมาทั้งหมด 4 รุ่นย่อยสำหรับตลาดญี่ปุ่น และ 2 รุ่นย่อยสำหรับตลาดโลก
Seiko 140th Anniversary Limited Edition 4 รุ่นใหม่บนความงามของย่าน Ginza
-
นำความงดงามของย่าน Ginza มาสะท้อนผ่านหน้าปัดและเข็มวินาทีของนาฬิการุ่นนี้
-
เวอร์ชันพิเศษฉลอง 140 ปีของการก่อตั้ง Seiko มีจำหน่ายในญี่ปุ่น 4 รุ่นและตลาดโลก 2 รุ่น
-
เริ่มทำตลาดในเดือนตุลาคม 2021 นี้
ด้วยเหตุที่ Ginza คือ ย่านที่มีความสำคัญสำหรับ Seiko เช่นเดียวกับเป็นย่านที่ก่อให้เกิดวัฒนธรรมรูปแบบต่างๆ ที่ถูกผสมผสานจากฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกในญี่ปุ่น ทำให้ Ginza มักจะถูกนำมาใช้เป็นจุดสำหรับสร้างคอลเล็กชั่นในแบบ Limited Edition ของ Seiko อยู่เป็นประจำ เช่นเดียวกับในครั้งนี้อย่างรุ่น Seiko 140th Anniversary Limited Edition ที่จะมีด้วยกัน 4 รุ่นย่อยสำหรับตลาดญี่ปุ่น แต่จะมี 2 รุ่นที่ถูกวางจำหน่ายในตลาดทั่วโลก
อย่างที่เกริ่นตั้งแต่ต้น Ginza คือ จุดที่ Kintaro Hattori ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Seiko ได้เปิดร้านซ่อมนาฬิกาแห่งแรกของเขาด้วยวัยเพียง 21 ปีในปี 1881 ก่อนที่จะวิวัฒน์จนกลายมาเป็นแบรนด์ Seiko ในปัจจุบัน ซึ่งที่นี่ในตอนนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ตั้ง Flagship Store ที่ใหญ่ที่สุดของ Seiko ในห้าง Wako แล้ว ยังมี Seiko Museum เช่นเดียวกับ Seiko Clock ขนาดใหญ่ที่อยู่บนอาคารของ Wako อีกด้วย
นอกจากนั้น Ginza ยังเป็นย่านที่ถือว่าเป็นจุดบรรจบของวัฒนธรรมจากตะวันตกที่หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่มีการผสมผสานของรูปแบบที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับความเจริญและความทันสมัยที่ถูกหล่อหลอมให้กลายมาเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงไนท์คลับระดับสูงที่เป็นแหล่งบันเทิงในยามค่ำคืน ซึ่ง Seiko 140th Anniversary Limited Edition ได้นำสิ่งเล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างเช่นลวดลายของบล็อกปูถนนที่เป็นทรงลูกบาศก์ และสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างสีเขียวอ่อน ได้รับความนิยมในหมู่เกอิชาที่ในเวลาต่อมาได้ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเฉพาะอย่าง Komparu มาใช้ในการสร้างสรรค์หน้าปัด และเข็มวินาที
นาฬิกา Seiko 140thn Anniversary Limited Edition ในครั้งนี้จะมีจำหน่าย 4 รุ่นย่อยสำหรับตลาดญี่ปุ่น โดยใช้พื้นฐานของรุ่น Alpinist Presage Astron และ Lukia ในขณะที่ตลาดนอกญี่ปุ่นจะมีขายด้วยกัน 2 รุ่นคือ Alpinist และ Presage
ทุกเรือนจะมาพร้อมกับสีสันของหน้าปัดซึ่งออกโทนสีฟ้าอ่อน และถูกออกแบบลวดลายของพื้นหน้าปัดที่เรียกว่า Cobblestones ที่ถูกนำมาใช้ในการปูถนนในแถบ Ginza ขณะที่สีเขียวอ่อน หรือ Komparu นั้นมาจากชื่อถนนในย่าน Ginza ซึ่งเป็นย่านความบันเทิงในยามค่ำคืนและสีฟ้าที่มาพร้อมกับสีเขียวอ่อนถูกใช้เป็นครั้งแรกในช่วงกลางสมัยเมจิ (1868-1912) และต่อมาเป็นสีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเกอิชาก่อนที่จะได้รับความนิยมในวงกว้างในเวลาต่อมา ซึ่งสีนี้ถูกตั้งชื่อตามชื่อถนน และถูกนำมาใช้ในการตกแต่งบนนาฬิกาชุดนี้
สำหรับนาฬิกาในเซ็ตนี้จะประกอบด้วย
- Alpinist ที่จะจำหน่ายในรหัส SBDC151 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SPB259 สำหรับตลาดนอกญี่ปุ่น มาพร้อมตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตร หนา 12.9 มิลลิเมตร ใช้กระจก Sapphire และขับเคลื่อนด้วยกลไก 6R35 ที่มีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง ผลิต 3,500 เรือน และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 82,000 เยน
 |
 |
 |
 |
 |
- Presage ที่จะจำหน่ายในรหัส SARY207 สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ SSA445 สำหรับตลาดนอกญี่ปุ่น มาพร้อมตัวเรือนขนาด 40.8 มิลลิเมตร หนา 12.8 มิลลิเมตร ใช้กระจก Hardlex แบบยกขอบสูง หรือ Box-Shape และขับเคลื่อนด้วยกลไก 4R39 ที่มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นแสดงช่วงเวลากลางวัน/กลางคืน และบนหน้าปัดเป็นแบบ Open Heart ที่เผยให้เห็นการเคลื่อนไหวของจักรเอสเคปเมนท์ ผลิต 4,000 เรือนและ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 82,000 เยน
 |
 |
 |
 |
 |
- Astron จำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่นด้วยรหัส SBXY023 มีขนาดตัวเรือน 41.3 มิลลิเมตร พร้อมกลไกในรหัส 8B63 สามารถปรับเวลาจากสัญญาณของ GPS และมีหน้าปัดย่อยในตำแหน่ง 6 นาฬิกาสำหรับแสดงเวลาที่ 2 ในรูปแบบการเดินแบบ 24 ชั่วโมงหรือ 1 รอบต่อวัน นาฬิกาจะผลิตเพียง 300 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 110,000 เยน
 |
 |
 |
- Lukia จำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่นด้วยรหัส SSQV098 สำหรับสุภาพสตรี เด่นด้วยหน้าปัดในแบบ Mother of Pearl โทนสีฟ้าอ่อน และมีลาย Cobblestones จางๆ บนพื้นหน้าปัด และประดับด้วยเพชรบนหลักชั่วโมง ตัวนาฬิกามีขนาด 28 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ในรหัส 1B35 ซึ่งสามารถปรับความเที่ยงตรงของเวลาตามคลื่นสัญญาณวิทยุ และชาร์จกระแสไฟฟ้าผ่านแสงอาทิตย์ การผลิตมีเพียง 300 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 110,000 เยน
 |
 |
 |
ทั้งหมดจะเริ่มจำหน่ายในช่วงเดือนตุลาคม 2021 นี้ ใครที่เล็งๆ เอาไว้ ก็เตรียมเก็บเงินรอเอาไว้ได้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
