Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ปรับปรุงครั้งใหม่อัพเกรดกลไก

0

การขับเคลื่อนครั้งใหม่ของเรือนเวลาในระดับตำนาน และในโอกาสที่ Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona มีอายุครบ 60 ปีในการทำตลาด ทาง Rolex เปิดตัวรุ่นใหม่ที่มีการปรับปรุงในรายละเอียดต่างๆ ทั้งตัวเรือน และงานดีไซน์ของหน้าปัด และที่สำคัญคือ การมากับกลไกใหม่ในรหัส 4131 ที่มีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง

- Advertisement -

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ปรับปรุงครั้งใหม่อัพเกรดกลไก

  • การปรับปรุงครั้งใหม่เพื่อฉลองโอกาสครบรอบ 60 ปีของ Cosmograph Daytona

  • ขนาดตัวเรือน 40 มิลลิเมตรมีวัสดุให้เลือกหลากหลานพร้อมกับหน้าปัดใหม่

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกใหม่ในรหัส 4131 มีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง

ในวาระครบรอบ 60 ปีของนาฬิการุ่นนี้ Rolex มุ่งมั่นที่จะสานต่อตำนานผ่านการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ด้วยเทคนิคที่มีความเที่ยงตรงสูง นับตั้งแต่ตัวเรือนและสายไปจนถึงกลไกการทำงาน การปรับเปลี่ยนและวิวัฒนาการมาหลายต่อหลายครั้งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการทะยานสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันที่ไร้จุดสิ้นสุดด้วย โดย Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona รุ่นใหม่จะมากับรหัส Ref.126500 Series ซึ่งจะมาแทนที่รุ่นเดิม พร้อมความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ซึ่งก็รวมถึงกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

ชื่อของ Daytona ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1963 ในฐานะนาฬิกาจับเวลาที่มีเอกลักษณ์ และได้รับการยอมรับจากนักแข่งด้วยรูปแบบของตัวนาฬิกาที่สวมใส่อย่างสะดวกและมาพร้อมกับขอบตัวเรือนที่มีสเกล Tachymeter ซึ่งสามารถใช้ในการจับความเร็วได้ และนั่นทำให้ 60 ปีที่ชื่อนี้อยู่ในตลาด ตัวนาฬิกาจึงได้รับการยอมรับและอยู่คู่กับสนามแข่งรถทั่วโลกมาโดยตลอด

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

ชื่อของ Cosmograph Daytona แสดงให้เห็นว่าเกี่ยวข้องกับกีฬาแข่งรถ ด้วยคำว่า Daytona ซึ่งสลักด้วยตัวอักษรสีแดงเหนือส่วนแสดงเวลาขนาดเล็กนั้นเป็นชื่อของชายหาดหนึ่งในรัฐฟลอริดาอันเคยเป็นที่จารึกประวัติศาสตร์ความเร็วครั้งแรกของอเมริกามาแล้ว ชายหาด Daytona ที่ตอนนี้กลายเป็นสนามประลองความเร็วชื่อก้องโลกแล้วนั้นถือเป็นแรงบันดาลใจหลักในการสร้างตำนานให้โครโนกราฟชิ้นนี้ แต่กระนั้น Cosmograph Daytona ก็ไม่ได้ผลิตขึ้นมาเพื่อใช้เฉพาะในกีฬาแข่งรถเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสิ่งที่สื่อถึงความตั้งใจของผู้ที่เลือกใช้ชีวิตตามแบบฉบับของตัวเอง

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

ตัวเรือนยังคงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร แต่มีการปรับรูปทรง การขัดเหลี่ยมเงาเพื่อให้ดูสวย มความทันสมัยและสวมใส่สบาย โดยนับตั้งแต่ปี 1965 ปุ่มกดด้านข้างแบบยึดด้วยสกรูค่อยๆ เข้ามาแทนที่การยึดด้วยสกรูของนาฬิการุ่นแรกเริ่ม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันน้ำของตัวเรือนได้เป็นอย่างดี ปุ่มกดด้านข้างแบบยึดด้วยสกรูนี้ยังสามารถใช้กับโครโนกราฟในฟังก์ชันจับเวลา หรือการรีเซ็ตเวลาให้เป็นศูนย์ โดยที่ยังคงความงามที่สอดประสานอย่างกลมกลืนของตัวเรือนรุ่นนี้เอาไว้ ขอบด้านข้างแบบบางของตัวเรือน Oyster ที่ผ่านการเจียระไนอย่างสมบูรณ์แบบยังช่วยการขับเน้นเล่นแสงของตัวเรือนอีกด้วย

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona
Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

สเกลวัดความเร็วถือเป็นส่วนประกอบหลักของนาฬิการุ่น Cosmograph Daytona จับความเร็วได้สูงถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถอ่านได้ผ่านเข็มวินาทีตรงกลาง ความเร็วจะคำนวณโดยใช้เวลาที่ใช้ต่อระยะทางเพียงหนึ่งกิโลเมตร หรือหนึ่งไมล์ โดยสเกลวัดความเร็วได้รับสลักบนขอบหน้าปัดของนาฬิกา Cosmograph ทุกรุ่น นับแต่การเปิดตัวในปี 1963 โดยจะมีทั้งขอบตัวเรือนที่เป็นวัสดุโลหะและขอบตัวเรือนแบบ Cerachrom ที่ผลิตจากเซรามิก

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

สำหรับรุ่นใหม่จะมีจำหน่ายผ่านทางความหลากหลายของวัสดุ ซึ่งก็คือ

  • Ref.126500LN ตัวเรือนผลิตจากสตีล สายสตีล ขอบตัวเรือน Cerachrom หน้าปัดสีขาวขอบดำ และฝาหลังแบบทึบ
  • Ref.126503 ตัวเรือนผลิตจากสตีล ขอบตัวเรือนผลิตจากทองคำ Yellow Gold รวมถึงข้อกลางของสาย หน้าปัดขาว ขอบวงสีทอง เข็มและหลักชั่วโมงผลิตจาก Yellow Gold เช่นเดียวกับเม็ดมะยมและ Pusher ฝาหลังแบบทึบผลิตจากสตีล
  • Ref. 126509 ผลิตจากทองคำขาว
  • Ref.126518LN ตัวเรือนและบานพับสายผลิตจาก Yellow Gold 18K มาพร้อมสาย Oysterflex และพิเศษด้วยสายนาฬิกา Oyster นวัตกรรมระดับสิทธิบัตรโดย Rolex นี้ผสมผสานคุณสมบัติของสายนาฬิกาโลหะทั้งในแง่ของความทนทานเข้ากับความสวมใส่สบายแบบสายอีลาสโตเมอร์ได้เป็นอย่างดี แกนกลางของสายโลหะนวัตกรรมใหม่นี้มาพร้อมกับบานพับสายแบบโค้งมน ยืดหยุ่นไม่เหมือนใครสองชิ้น (ติดตั้งด้านละหนึ่งชิ้น) และหล่อติดกับอีลาสโตเมอร์สีดำสมรรถนะสูง สาย Oysterflex ยังมาพร้อมกับระบบหนุนรองตามแนวนอนด้านใน พร้อมชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock ที่ช่วยป้องกันสายหลุดจากข้อมือ เพื่อความสบายเหนือระดับ นอกจากนี้ยังสามารถปรับสายได้เองด้วยระบบขยายสาย Rolex Glidelock อันชาญฉลาด
  • Ref.126505 ตัวเรือนผลิตจาก Everose gold ซึ่งเป็นอัลลอยที่เกิดจากส่วนผสมระหว่างทองคำบริสุทธิ์ 75 เปอร์เซ็นต์ และเงิน ทองแดง และพาลาเดียมสูตรเฉพาะ
  • Ref.126500LN ตัวเรือนผลิตจากแพลททินัม พร้อมหน้าปัดสีฟ้าไอซ์บลูและสาย Oyster โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom สีน้ำตาล นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยสีฟ้าไอซ์บลูหน้าปัดย่อยลายก้นหอย มาร์คเกอร์ชั่วโมงที่ใช้ตกแต่งและเข็มนาฬิกาทำจากทองคำ พร้อมด้วยหน้าปัดโครมาไลท์ ซึ่งเป็นสารเรืองแสงที่ช่วยให้การอ่านเวลาเป็นไปอย่างสะดวกง่ายดาย ส่วนฝาหลังเป็นแบบใส และเป็นรุ่นที่มีฝาหลังแบบใส
Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona
Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona
Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

แพลทินัมเป็นโลหะล้ำค่าและหายาก โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีเงินที่สว่างบริสุทธิ์และเปล่งประกาย หนึ่งในโลหะที่หนาแน่นที่สุดและหนักที่สุดในโลก แยกความแตกต่างได้จากคุณสมบัติเฉพาะทางด้านเคมีและกายภาพ เช่น การทนทานต่อการกัดกร่อนที่มากเป็นพิเศษ

แต่โลหะนี้ก็ยังเป็นโลหะที่นุ่ม ยืดหยุ่นและมีความเป็นโลหะสูง ส่งผลให้ขั้นตอนการตัดเฉือนด้วยเครื่องจักรและการขัดเงาทำได้ยาก จนต้องอาศัยผู้ที่มีทักษะสูงมากเป็นพิเศษ Rolex ใช้แพลทินัม 950 เสมอ ซึ่งเป็นอัลลอยที่ประกอบด้วยแพลทินัม 950‰ (หนึ่งในหนึ่งพันส่วน) โดยมีช่างเหล็กฝีมือประณีตของ Rolex เป็นผู้หลอมงานภายในเอง โลหะที่ทรงภูมิที่สุดสำหรับนาฬิกาที่ประณีตที่สุด

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

Cosmograph Daytona คือผลงานจากความเชี่ยวชาญของ Rolex ที่โดดเด่น ทั้งยังคงคุณค่าในความเป็นเรือนเวลาที่เที่ยงตรงและน่าเชื่อถือจนไม่ทำให้ใครผิดหวัง เป็นเวลากว่าหลายปีที่วิศวกรของ Rolex ได้ออกแบบและพัฒนาคาลิเบอร์ 4130 จนกลายเป็นคาลิเบอร์ 4131 ในปี 2023 นับแต่วันแรกที่มีการคิดค้นคาลิเบอร์ที่มีอะไหล่เพียง 314 ชิ้นนี้ ได้สร้างชื่อของตัวเองในฐานะกลไกการทำงานที่ทนทานและทรงประสิทธิภาพที่สุดในโลก

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

ในอีกด้านหนึ่งนั้น ก็เป็นผลมาจากสถาปัตยกรรมเรียบง่ายที่สร้างช่องว่างให้กระปุกลานเพื่อเพิ่มพลังงานสำรองให้มากถึง 72 ชั่วโมง ส่วนอีกด้านคือผลพวงจากกลไกคลัตช์แนวดิ่งที่รับประกันถึงการทำงานที่ยาวนานของโครโนกราฟโดยที่ไม่รบกวนกลไกความเที่ยงตรงอื่นๆ ซึ่งนี่คือผลพลอยได้จากการทำงานร่วมกันของชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy และแฮร์สปริง Parachrom ตัวเรือน Oyster ที่ได้รับการปิดผนึกสุญญากาศอย่างสมบูรณ์แบบยังมอบระบบกันน้ำสามชั้นผ่านทางปุ่มกดด้านข้างแบบยึดด้วยสกรูและเม็ดมะยมไขลาน Triplock

Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเช็ครุ่นย่อยของ Cosmograph Daytona เวอร์ชันปี 2023 ได้ ที่นี่

รายละเอียดทางเทคนิค : Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 40 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 11.9 มิลลิเมตร
  • กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
  • กลไก : อัตโนมัติ Chronograph Perpetual รหัส 4131
  • ความเที่ยงตรง : -2/+2 วินาที/วัน หลังจากงานประกอบตัวเรือน
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง : 72 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 100 เมตร
Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona