Captain Cook Chronograph กลับมาพร้อมกับความสดใหม่ทั้งการใช้วัสดุในการผลิตตัวเรือนและสายซึ่งเป็นแบบ High-Tech Ceramic ส่วนกลไกอัตโนมัติแม้ว่าจะยังเป็นรหัสเดิม Calibre R801 แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของฟังก์ชั่นจับเวลาโดยเป็นแบบจับเวลา 3 วง พร้อมกำลังสำรองสูงสุด 59 ชั่วโมง

Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Chronograph จัดเต็มเรื่องเซรามิกพร้อมกลไกจับเวลา 3 วง
-
ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่กับตัวเรือนและสายแบบ High-Tech Ceramic
-
มีจำหน่ายช่วยแรก 2 รุ่นย่อย หน้าปัดเขียว และหน้าปัดดำแบบทูโทน
-
กลไกอัตโนมัติแม้ว่าจะยังเป็นรหัสเดิม Calibre R801 แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของฟังก์ชั่นจับเวลา
Rado เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับคอลเล็กชั่น Captain Cook Chronograph โดยนอกจากจะมีการเปลี่ยนวัสดุใหม่จากเดิมที่เป็นสตีลมาสู่ High-Tech Ceramic แบบทั้งเรือนและสายแล้ว ยังมีการเปลี่ยนกลไกขับเคลื่อนในนาฬิการุ่นนี้ แม้ว่าจะเป็นรหัส Calibre R801 แต่ก็เป็นแบบจับเวลา 3 วงไม่ใช่แบบ 2 วงเหมือนกับรุ่นเดิม โดย Captain Cook High-Tech Ceramic Chronograph ในช่วงแรกจะมีจำหน่ายออกสู่ตลาด 2 รุ่นด้วยกัน

ก่อนหน้านี้ Captain Cook มีเวอร์ชัน Chronograph ทำตลาดอยู่ก่อนแล้วโดยเปิดตัวในปี 2022 เพื่อเสริมทางเลือกให้กับรุ่น 3 เข็ม โดยตัวเรือนที่ทำตลาดจะมีทั้งแบบสตีล สตีลเคลือบ PVD และบรอนซ์ แต่ก็มีการนำวัสดุอย่าง High-Tech Ceramic เข้าเสริมในบางจุดของตัวเรือน ซึ่งจะต่างจากเวอร์ชันใหม่ที่เป็นแบบ Full High-Tech Ceramic ด้วยการนำวัสดุประเภทนี้มาใช้ในการผลิตทั้งตัวเรือนและสาย
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Chronograph ใหม่เปิดตัวออกสู่ตลาดด้วยกัน 2 รุ่นบนตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตร คือ
- Ref.R32189313 ตัวเรือนผลิตจาก Plasma High-Tech Ceramic ซึ่งเกิดจากกระบวนการพลิกโฉมที่เข้มข้น เซรามิกสีขาวจะโดนแก๊สที่อุณหภูมิ 20,000 องศาเซลเซียส ซึ่งจากโครงสร้างโมเลกุลจะเปลี่ยนแปลงไปท่ามกลางอุณหภูมิสูงจัดเช่นนี้ ทำให้เกิดเป็นพื้นผิวเมทัลลิกที่ไม่เหมือนใคร โดยไม่ต้องมีอนุภาคของโลหะแม้แต่อนุภาคเดียว ซึ่งถือเป็นผลงานที่ต้องใช้ทักษะด้านวัสดุศาสตร์บริสุทธิ์ ผลที่ได้คือ การมีพื้นผิวแบบด้านสำหรับตัวเรือน ส่วนสายตรงข้อกลางจะมีการขัดเงาเพื่อสร้างมิติของพื้นผิวที่แตกต่าง รุ่นนี้มากับอินเสิร์ตบนขอบตัวเรือนแบบเซรามิกสีเขียวด้าน และหน้าปัดแบบ Sunray มีพื้นผิวสีเขียวที่สามารถเล่นแสงได้อย่างสวยงาม
- Ref.R32190153 ตัวเรือนผลิตจาก High-Tech Ceramic มีพื้นผิวแบบด้านสำหรับตัวเรือน ส่วนสายตรงข้อกลางจะมีการจัดเงาเพื่อสร้างมิติของพื้นผิวที่แตกต่าง โดยขอบตัวเรือนด้านข้าง ปุ่มกดจับเวลาและเม็ดมะยม (ซึ่งผลิตจากสเตนเลสสตีล) ได้รับการเคลือบ PVD สีทองโทน Rose Gold หน้าปัดสีดำตัดอย่างลงตัวด้วยการเคลือบ PVD สี Rose Gold บนหลักชั่วโมงและเข็ม
![]() |
![]() |
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติแบบจับเวลาในรหัส Calibre R801 ซึ่งเป็นรหัสเดียวกับรุ่นที่แล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ในรุ่นใหม่นี้มากับการจับเวลาแบบ 3 วง สามารถจับเวลาได้สูงสุด 12 ชั่วโมง โดยจะมีวงจับเวลาในตำแหน่ง 9 นาฬิกาสำหรับ 30 นาที และ 6 นาฬิกาสำหรับ 12 ชั่วโมง ส่วนวงย่อยในตำแหน่ง 3 นาฬิกาเป็นการแสดงเวลาในส่วนวินาทีของการบอกเวลา ส่วนกำลังสำรองยังเท่าเดิมกับรุ่นจับเวลา 2 วงซึ่งจับเวลาสูงสุด 30 นาที คือ 59 ชั่วโมง
![]() |
![]() |
เช่นเดียวกับรุ่นที่แล้ว กลไกนี้ใช้แฮร์สปริง Nivachron™ ที่ป้องกันสนามแม่เหล็กได้และผ่านการทดสอบในห้าตำแหน่งเพื่อรับรองว่าจะบอกเวลาได้อย่างแม่นยำ พร้อมการขัดและสลักลายอย่างสวยงามตามชิ้นส่วนต่างๆ ของกลไก ซึ่งคุณสามารถมองผ่านทางฝาหลังแบบใสได้ ส่วนตัวนาฬิกามีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Chronograph มีราคาในเมืองไทยอยู่ที่ 222,600 บาทสำหรับรุ่นหน้าปัดสีเขียว และ 224,700 บาทสำหรับรุ่นตัวเรือนแบบทูโทน ดำ-ทอง
รายละเอียดทางเทคนิค : Rado Captain Cook High-Tech Ceramic Chronograph
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
- ความหนา: 16.8 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 49.8 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน: High-Tech Ceramic
- กระจก: Sapphire ทรง Box-Shaped เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก: อัตโนมัติ รหัส R801 แบบจับเวลา 3 วง
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง: 59 ชั่วโมง
- การกันน้ำ :300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline



















![Ulysse Nardin FREAK [S ENAMEL] เมื่อนวัตกรรมพบกับงานเอนาเมล Ulysse Nardin FREAK [S ENAMEL]](https://www.ana-digi.com/wp-content/uploads/2025/10/Ulysse-NardinFreakSEnamel-opn-218x150.jpg)








