Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar ความสมบูรณ์แบบเรือนเวลา Grand Complication

0

Patek Philippe เปิดตัว นาฬิการุ่นใหม่ Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar Ref. 5373P-001 เรือนเวลาเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับคนถนัดซ้าย และผู้ซึ่งหลงใหลในผลงานอันหายาก  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบความซับซ้อนแห่งกลไกที่อยู่บนพื้นฐานของความประณีตของเรือนเวลาระดับสูง

- Advertisement -

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar ความสมบูรณ์แบบเรือนเวลา Grand Complication

  • ความโดดเด่นของเรือนเวลาที่ได้รับการสร้างสรรค์เพื่อตอบรับกับความต้องการที่เหนือระดับ

  • กลไก CHR 27-525 PS Q มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนและเหนือระดับในการใช้งาน

  • เป็นงานออกแบบที่สร้างสรรค์จากเรือนเวลาที่เปิดตัวในปี 1927

นาฬิการะดับ Grand complications รุ่นใหม่จาก Patek Philippe (ปาเต็ก ฟิลลิปป์) ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีความถนัดซ้ายพร้อมกับการผสมผสานฟังก์ชั่นต่างๆ มากมายเพื่อให้ตอบรับกับผู้ที่ชื่นชอบเรือนเวลาระดับสูงที่เพียบพร้อมด้วยความประณีตและความสมบูรณ์แบบของฟังก์ชั่น ซึ่ง Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar มาพร้อมกับความเหนือระดับของโลกแห่งเรือนเวลา

ในปี ค.ศ. 2005 Patek Philippe ได้ยกระดับองค์ความรู้ในสาขาแห่งการจับวัดค่าช่วงเวลาสั้นๆ โดยการเปิดตัวผลงานริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ ที่โรงงานการผลิตแห่งนี้ได้พัฒนาไว้ภายในซีรีส์อันสมบูรณ์ของกลไกจักรกล Chronograph ทั้งที่มาพร้อมด้วยและไม่มีฟังก์ชันเสริมเพิ่มเติมใดๆ โดยทั้งหมดของผลงานเหล่านี้ล้วนออกแบบและผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเอง กับสัญญาณเริ่มต้นที่ถูกมอบไว้โดยกลไกจักรกลไขลานด้วยมือ คาลิเบอร์ CHR 27-525 PS ซึ่งนับเป็นกลไกจักรกลโครโนกราฟสปลิท-เซคกันด์ (split-seconds chronograph) ควบคุมโดยคอลัมน์วีล (column-wheel-controlled) ที่บางที่สุดในโลก

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendarPatek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

ขณะที่คาลิเบอร์ CHR 27-525 PS Q ซึ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2010 (ด้วยฐานกลไกเดียวกัน แต่เสริมด้วยโมดูลปฏิทินบางสูงสุด) นั้นยังคงมีความหนาเพียง 7.3 มม. และนับเป็นกลไกจักรกลโครโนกราฟสปลิท-เซคกันด์ ที่มาพร้อมด้วยปฏิทินถาวร (perpetual calendar) บางที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาโดยโรงงานแห่งนี้ จากนั้น

นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 คาลิเบอร์อันแสนพิเศษนี้ก็ได้รับการรังสรรค์ขึ้นในจำนวนไม่มาก และคงไว้ด้วยความเคารพในประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกา โดยมอบการขับเคลื่อนภายในนาฬิกาตัวเรือนแพลทินัม คู่ด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินตกแต่งแบบกระจายแสง (blue sunburst) (Ref. 5372P-001) หรือหน้าปัดชุบทองสีกุหลาบ พร้อมทั้งงานตกแต่งขัดด้านแบบซาตินแนวตั้ง (vertical satin finish) (Ref. 5372P-010)

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

นาฬิกาเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานที่ผลิตขึ้นเฉพาะหนึ่งเดียวและเรือนเดียว และจำหน่ายโดย Patek Philippe ในปี ค.ศ. 1927 ซึ่งเป็นผลงานนาฬิกาโครโนกราฟสปลิท-เซคกันด์รูปทรงเหลี่ยมมนหรือคุชชัน (cushion-shaped) ที่ทำขึ้นตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (กลไก No. 198 012) โดยในวันนี้

โรงงานการผลิตได้เปลี่ยน Ref. 5372 มาสู่เวอร์ชันใหม่สำหรับคนถนัดซ้าย พร้อมทั้งการเปิดตัวครั้งแรกอย่างแท้จริงในประวัติศาสตร์ ณ ปัจจุบันของเมซงแห่งเจนีวานี้ กับรุ่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Ref. 5373P-001 ซึ่งผสมผสานไว้ด้วยจักรกลโครโนกราฟ สปลิท-เซคกันด์ เข้ากับหนึ่งในฟังก์ชันอันประณีตละเอียดอ่อนสูงสุด อย่างปฏิทินถาวร อันเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความซับซ้อนระดับแกรนด์คอมพลิเคชันของ Patek Philippe

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar
Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

การแสดงและองค์ประกอบการทำงานซึ่งกลับด้าน

ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38.3 มม. ตัวเรือนแพลทินัมนี้มีขนาดเดียวกันกับ Ref. 5372 แต่เม็ดมะยมของรุ่นนี้ (ด้วยจักรกลโครโนกราฟผสานแบบปุ่มกดเดี่ยว (integrated chronograph monopusher)) จะติดตั้งอยู่ ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา รวมถึงปุ่มกดของสปลิท-เซคกันด์ ที่ครองตำแหน่งซึ่งไม่เหมือนทั่วไป คือ ณ ตำแหน่ง 8 นาฬิกา โดยยังคงรักษาไว้ด้วยความสง่างามอันเหนือกาลเวลา

พร้อมทั้งขอบตัวเรือนโค้งเว้าลงและขัดเงา ที่สร้างสรรค์เป็นดั่งการส่งผ่านความโค้งมนอย่างสมบูรณ์แบบไปสู่ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์โค้งนูนเล็กน้อย ขณะที่ขอบด้านข้างของตัวเรือนได้รับการตกแต่งด้วยงานขัดด้านแบบซาติน (satin-finished) และเว้าลงเช่นกัน ส่วนหูตัวเรือนคงความโค้งอันละเอียดอ่อนที่หลอมรวมเข้ากับบาร์เชื่อมสายได้อย่างไร้ที่ติ

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar
Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

การแสดงต่างๆ (ทั้งหน้าปัดย่อย และช่องหน้าต่าง) ของหน้าปัดกลางนั้นถูกปรับหมุนไปประมาณ 180 องศา โดยประกอบด้วยการแสดงวันที่แบบอนาล็อก ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา รวมถึงหน้าปัดย่อยแสดงวินาที ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา, แสดงข้างขึ้น-ข้างแรม (moon phases) ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยจับเวลาโครโนกราฟ 60 นาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา

เสริมด้วยการแสดงอื่นๆ ผ่านทางช่องหน้าต่าง ทั้งการแสดงวันของสัปดาห์ และเดือน เช่นเดียวกับวงจรของปีอธิกสุรทิน (leap year cycle) ณ ตำแหน่ง 10.30 นาฬิกา ขณะที่การแสดงกลางวัน/กลางคืน (day/night indicator) จัดวางไว้ ณ ตำแหน่ง 1.30 นาฬิกา

นอกจากนี้ Patek Philippe ยังได้ปรับโฉมอันดึงดูดใจขึ้นใหม่ด้วยความสวยงามของหน้าปัด โดยถ่ายทอดความโดดเด่นอันลุ่มลึกผ่านเฉดสีชาร์โคล (charcoal-colored) และการตกแต่งขัดด้านแบบซาตินแนวตั้ง (vertical satin-finish) พร้อมทั้งเสริมมิติอย่างแยบยลโดยการไล่เฉดสีดำสู่รอบนอกของหน้าปัด รวมถึงตกแต่งบนหน้าปัดย่อยสีดำสนิทด้วยลวดลายก้นหอย (snailed) ส่วนการแสดงเวลานั้นยังคงใช้ตัวเลขอารบิคแบบนำมาติดบนหน้าปัด และเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีทรงดอฟีน (Dauphine) ตกแต่งแบบเหลี่ยมด้านทำจากไวท์โกลด์

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

สำหรับการแสดงข้างขึ้น-ข้างแรมนั้นยังคงความแม่นยำสูง โดยคลาดเคลื่อนจากวงจรดวงจันทร์จริงเพียงหนึ่งวันในทุกๆ 122 ปีเท่านั้น พร้อมทั้งมอบความสามารถในการอ่านค่าได้อย่างชัดเจนและแม่นยำสูง ที่ได้มาจากเข็มจับเวลาโครโนกราฟสามเข็มบนศูนย์กลาง ทั้งเข็มจับเวลาโครโนกราฟ และเข็มสปลิท-เซคกันด์ เช่นเดียวกับเข็มจับเวลา 60 นาทีบนหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา

โดยทั้งหมดตกแต่งด้วยการเคลือบเงาสีแดง ส่วนการสั่งการและควบคุมจักรกลโครโนกราฟทั้งสามฟังก์ชัน (Start (เริ่มต้น), Stop (หยุด) และ Reset (รีเซ็ต)) นั้นสามารถเลือกได้โดยปุ่มกดแบบโมโนพุชเชอร์ (monopusher) หรือปุ่มกดเดี่ยวที่ติดตั้งภายในเม็ดมะยม ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และสำหรับการหยุดการจับเวลาในช่วง (lap times) ต่างๆ ด้วยเข็มสปลิท-เซคกันด์ (เข็มรัตตราปองต์ (rattrapante)) นั้นดำเนินการได้ด้วยปุ่มกดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ณ ตำแหน่ง 8 นาฬิกา

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar
Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

ฝาหลังแบบโปร่งใสด้วยกระจกแซฟไฟร์ (สามารถถอดเปลี่ยนเป็นฝาหลังแบบทึบทำจากแพลทินัมซึ่งส่งมอบมาพร้อมกับนาฬิกาได้) เผยให้เห็นสถาปัตยกรรมอันแสนอัศจรรย์ของกลไก คาลิเบอร์ CHR 27-525 PS Q พร้อมด้วยคอลัมน์วีล (column wheels) สองตัว ที่ประทับด้วยแคป (caps) ขัดเงาสองตัวในสไตล์ต้นตำรับของ Patek Philippe รวมถึงสะพานจักรตกแต่งด้วยลายแถบเจนีวา (Geneva striping) ผ่านการขัดลบมุมและขัดขอบเงาอย่างประณีตพิถีพิถัน

อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญนั้นยังรวมไปถึงความสง่างามของรูปแบบชิ้นส่วนและสะพานจักรสไตล์ เอต ลา’แองเชียนน์ (à l’ancienne) ด้วยมุมแหลมคมต่างๆ ด้านใน ที่ล้วนรังสรรค์ความสมบูรณ์เช่นนี้ได้ด้วยเพียงมือเท่านั้น ทั้งยังต้องอาศัยทักษะ ความเชี่ยวชาญอย่างมาก เช่นเดียวกับประสบการณ์นานนับหลายปี

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar
Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

ภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ตและเปี่ยมด้วยทัศนคติอันทันสมัยที่ถ่ายทอดผ่านหน้าปัดนั้น ยังต่อยอดมาสู่ความโดดเด่นของสไตล์แห่งสายหนังวัวสีดำ พร้อมลวดลายผ้าแบบนูน และงานเดินตะเข็บสายด้วยสีแดงตัดกัน รวมถึงมอบความปลอดภัยโดยตัวล็อกสายแบบบานพับทำจากแพลทินัม

เฉกเช่นเดียวกับนาฬิกาแพลทินัมทุกๆ เรือนของ Patek Philippe ที่ใน Ref. 5373P-001 ใหม่นี้ยังคงมาพร้อมความพิเศษและทรงเกียรติของการประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร (brilliant-cut) ไว้บนแถบตัวเรือน และข้อยกเว้นสำหรับเรือนเวลาคนถนัดซ้ายนี้ ที่ได้ย้ายตำแหน่งการประดับเพชรมายัง ณ 12 นาฬิกา แทน นับจากนี้ไป นาฬิการุ่นนี้จะยังคงเป็นผลงานเพียงรุ่นเดียวที่มีอยู่ซึ่งติดตั้งด้วยกลไก คาลิเบอร์ CHR 27-525 PS Q ที่ก่อนหน้านี้มีให้เลือกภายในรุ่น Ref. 5372P-001 และ 5372P-010 แต่ทั้งสองรุ่นได้หยุดการผลิตจากคอลเลกชันนี้ไปแล้ว

Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

รุ่นบรรพบุรุษอันโด่งดัง

รังสรรค์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1925 – 1926 ตามคำสั่งซื้อสำหรับลูกค้าผู้ซึ่งถนัดซ้าย และจำหน่ายไปในปี ค.ศ. 1927 โดยนาฬิกาโครโนกราฟ สปลิท-เซคกันด์รุ่นนี้มาพร้อมกับตัวเรือนแบบคุชชันทำจากเยลโลโกลด์ 18 กะรัต (34 x 34 มม.) และกลไก No. 198’012 (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 lignes) โดดเด่นด้วยการจัดวางไม่เหมือนทั่วไปขององค์ประกอบการใช้งานและการแสดงค่าเวลา ขณะที่ตัวเรือนและกลไกยังถูกหมุนไป 180 องศา พร้อมทั้งติดตั้งปุ่มกดโครโนกราฟที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา แทนที่จะเป็น 3 นาฬิกา รวมถึงปุ่มกดของสปลิท-เซคกันด์ ณ ตำแหน่ง 8 นาฬิกา แทนที่จะเป็น 2 นาฬิกา

ส่วนหน้าปัดสีเงิน บรรจุด้วยตัวเลขทรงเบรเกต์ (Breguet) สีดำนั้นได้รับการปรับโฉมไปตามการจัดวางตำแหน่งใหม่ของหน้าปัดย่อยจับเวลาโครโนกราฟ 30 นาที จากตำแหน่ง 3 เป็น 9 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยแสดงวินาที จากตำแหน่ง 9 เป็น 3 นาฬิกา รูปทรงซึ่งไม่เหมือนทั่วไปของเข็มจับเวลาโครโนกราฟ รวมถึงเข็มสปลิท-เซคกันด์ยังมาพร้อมด้วยตุ้มถ่วงบนปลายด้านหนึ่งที่มอบความโดดเด่นให้กับเรือนเวลานี้เช่นเดียวกัน

รายละเอียดทางเทคนิค : Patek Philippe Split-Seconds Monopusher Chronograph with perpetual calendar

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 38.3 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 12.93 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 20 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน: แพลทินัม 950
  • หน้าปัด: ทำจากทอง 18 กะรัต, สีชาร์โคล พร้อมทั้งไล่เฉดสีดำ, ตกแต่งด้วยการขัดด้านแบบซาตินแนวตั้ง
  • ตัวเลขทรง Breguet แบบนำมาติดบนหน้าปัด ทำจากไวท์โกลด์ 18 กะรัต
  • เข็มชั่วโมงและนาทีทรง Dauphine แบบเหลี่ยมด้าน ทำจากไวท์โกลด์ 18 กะรัต
  • เข็มโครโนกราฟ และเข็มสปลิท-เซคกันด์ ทรงลูกศรทำจาก Pfinodal, เคลือบแล็กเกอร์สีแดง, ตุ้มถ่วงบนด้านหนึ่งของเข็ม
  • หน้าปัดย่อยต่างๆ ในสีดำสนิท ตกแต่งด้วยลวดลายก้นหอย:
  • หน้าปัดย่อยแสดงวินาที ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา: เข็มชี้ทรงบาตอง (baton) ทำจากไวท์โกลด์, เคลือบแล็กเกอร์สีขาว
  • เข็มจับเวลาโครโนกราฟ 60 นาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา, เข็มชี้ทรงบาตองทำจากไวท์โกลด์, เคลือบแล็กเกอร์สีแดง
  • เข็มวันที่ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา: เข็มชี้ทรงบาตองทำจากไวท์โกลด์, เคลือบแล็กเกอร์สีขาว
  • สาย: สายหนังวัวสีดำ ตกแต่งลวดลายผ้าแบบนูน และเดินตะเข็บด้วยสีแดงตัดกัน, ตัวล็อกสายแบบบานพับแพลทินัม
  • กลไก:  คาลิเบอร์ CHR 27-525 PS Q กลไกจักรกลไขลานด้วยมือ, โครโนกราฟสปลิท-เซคกันด์ พร้อมด้วยคอลัมน์วีล, เข็มโครโนกราฟและเข็มสปลิท-เซคกันด์, หน้าปัดย่อยจับเวลาโครโนกราฟ 60 นาที, และหน้าปัดย่อยแสดงวินาที, ปฏิทินถาวร พร้อมด้วยการแสดงวัน, เดือน, วงจรปีอธิกสุรทิน และแสดงกลางวัน/กลางคืน ภายในช่องหน้าต่าง, แสดงวันที่แบบอนาล็อก, แสดงข้างขึ้น-ข้างแรม
  • พลังงานสำรอง: อย่างน้อย 38 ชั่วโมง – สูงสุด 48 ชั่วโมง (โดยการไม่เชื่อมต่อกับโครโนกราฟ)
  • ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง (3 เฮิรตซ์)
  • การกันน้ำ : 30 เมตร (3 บาร์)