การเปิดตัวของ AquisPro 4000m ทำให้ความอยากในการครอบครองนาฬิกาดำน้ำตัวเทพกลับมาอีกครั้ง และบอกเลยว่านี่คือ นาฬิกาดำน้ำที่ถือว่าเป็นที่สุดของ Oris ณ ตอนนี้ ด้วยความสามารถในการกันน้ำถึง 4,000 เมตร และมาพร้อมกับกลไก Calibre 400 ที่สามารถสำรองกำลังงานได้ถึง 5 วัน
Oris AquisPro 4000m ดำน้ำตัวเทพที่ไม่ควรพลาด
-
นาฬิกาใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในงาน Genva Watch Days 2023
-
รวบรวมที่สุดของ Oris เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งการกันน้ำ 4,000 เมตร และกลไก Calibre 400
-
มากับตัวเรือน 49.5 มิลลิเมตร และมีราคาจำหน่ายในเมืองไทย 222,900 บาท
จริงๆ ผมรับทราบเรื่องและภาพของนาฬิการุ่นหนึ่งที่ถูกนำเสนอในงาน Watches and Wonders 2023 แต่ไม่สามารถพูดถึงหรือนำเสนอภาพออกมาได้เพราะว่ามีการ Embargo เอาไว้ ซึ่งหลังจากที่ได้เห็นหน้าตา และส่องสเป็กที่อยู่บนหน้าปัดนั้น ผมบอกเลยว่า ไม่พลาดนาฬิกาเรือนนี้อย่างแน่นอน เพราะ Oris AquisPro 4000m ถือเป็นที่สุดแห่งนาฬิกาดำน้ำเท่าที่ Oris เคยผลิตออกมาสู่ตลาดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์นับจากปี 1904 เลยก็ว่าได้
ความอยาก และอารมณ์ที่พลุ่มพล่านระดับนี้ ชวนให้ตัวเองนึกถึงวันเก่าๆ ที่เคยมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์นี้ นั่นคือ ปี 2009 เมื่อพวกเขาเปิดตัว Pro Diver ออกสู่ตลาดทั้งรุ่น 3 เข็ม และ Chronograph โดยในตอนนั้น ผมจับชื่อของนาฬิกาเรือนนี้เข้าสู่ Wish List ของตัวเองทันทีหลังจากที่ได้เห้นหน้าตา และได้มาครอบครองในที่สุด ซึ่ง AquisPro 4000m ทำให้ผมอยู่ในอารมณ์เดียวกัน
 |
 |
ถ้าไม่นับการทำ Soft Launch ที่ Watches and Wonders 2023 คงต้องบอกว่า Oris AquisPro 4000m เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในงาน Geneva Watch Days 2023 เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และทันทีที่ข่าวและภาพหลุดออกมา สิ่งที่ผมสามารถสัมผัสได้จากบรรดากลุ่มคนรัก Oris ทั่วโลก คือ ความชื่นชมพร้อมกับบอกว่า Oris ในแบบที่พวกเขาคุ้นเคยกำลังกลับมาแล้ว
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปในช่วงรอยต่อของทศวรรษที่ 2000 กับ 2010 ซึ่งถ้าคุณมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ จะรู้สึกได้เลยว่า สโลแกนที่ว่า ‘Real Watches For real People’ ของ Oris คือ สิ่งที่เหมือนกับฝังใจและแป็นภาพจำของแบรนด์ที่อยู่ในหัวของลูกค้ายุคนั้น เพราะในช่วงนั้น Oris ปล่อยนาฬิกาในลักษณะ Tool Watch ออกมามากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มดำน้ำที่พวกเขาจับมือกับ Carlos Coste นักกีฬาแบบ Free Diving ชื่อดัง รวมถึงนาฬิกาอย่าง Altimeter, Depth Guage และ Pro Diver ซึ่งถือเป็นตัวเทพของแต่ละคอลเล็กชั่นเลย
 |
 |
ดังนั้น ในปี 2023 เมื่อมีการเปิดตัวของ Pro Pilot Altimeter รุ่นใหม่พร้อมกับตัว AquisPro 4000m ออกมาในปีเดียวกันจึงเหมือนกับเรื่องวันวานที่ชื่นใจได้กลับมาแล้ว หลังจากที่เราไม่เคยได้เห็นนาฬิกาแบบ Tool Watch แบบเทพๆ จาก Oris มานาน
จริงๆ แล้ว AquisPro เป็นไลน์อัพใหม่ที่ถูกส่งเข้ามาทำตลาดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยในตอนนั้นใช้ชื่อว่า AquisPro Date ที่มีความสามารถในการกันน้ำ 1,000 เมตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ธรรมดาไปแล้วสำหรับ Oris โดยเป็นการนำนาฬิกาดำน้ำเจ๋งๆ มาจับคู่กับกลไก In-House อย่าง Calibre 400
ส่วนในรุ่นใหม่ ตอนแรกที่ได้เห็นภาพแบบยังไม่มีข้อมูลติดมือมาด้วย ผมคิดว่า Oris คงไม่เล่นง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนแค่สีหน้าปัดหรือสายเพียงอย่างเดียว น่าจะต้องมีอะไรมากกว่านั้น แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากที่เอานิ้วโป้งและนิ้วชี้ขวาถ่างภาพออกมาเพื่อซูมดูบนหน้าปัด จึงได้เจอกับคำว่า 4000m…เท่านั้นแหละถึงกับกรี๊ดแตกกันเลยทีเดียว
อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะคิดว่าผมออกจะเพี้ยนๆ เพราะน้ำก็ไม่ดำ ทำอาชีพหรืองานอดิเรกก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องใต้น้ำเลยแล้วจะไปอินกับนาฬิกาดำน้ำลึกๆ กันทำไม ?
ก็จริงนะครับ แต่ผมชอบเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในการที่ทำให้พวกเขาสร้างนาฬิกาเรือนนี้ขึ้นมาได้มากกว่า ต้องใช้ความรู้หรือการทำ R&D นานขนาดไหนถึงผลิตให้เป็นจริงเพื่อทำตลาดในเชิงพาณิชย์ได้ในที่สุด เหมือนกับคุณซื้อ Ferrari รุ่นเทพๆ ที่แล่นเร็ว 400 Km/h สักคัน ก็ไม่จำเป็นต้องขับเร็วหรือขับไปให้ถึงระดับนั้น แต่ขอให้ได้ครอบครองความเป็นที่สุดของไลน์อัพนั้นๆ เท่านั้น…ถือว่าก็เพียงพอแล้ว
กับนาฬิการุ่นนี้ ผมก็เชื่อว่า Oris ไม่ได้หวังว่าจะสร้างยอดขายที่เป็นกอบเป็นกำจากยอดขาย แค่เพียงอยากจะบอกว่า ‘ไม่ใช่มีแค่ไม่กี่แบรนด์ในตลาดที่ทำนาฬิกาดำน้ำลึกๆ ได้ ถ้าอยากจะทำ พวกเขาก็ทำได้เหมือนกัน’
โอเค…จริงอยู่ที่ตัวเลข 4,000 เมตร อาจจะไม่ใช่ตัวเลขที่ลึกที่สุดเท่าที่นาฬิกาดำน้ำมีวางขายในตลาด แต่ก็เป็นนาฬิกาที่อัดแน่นด้วยอะไรหลายอย่างที่เป็นนวัตกรรมอันเหนือชั้น
ณ ตอนนี้ คงต้องบอกว่า AquisPro 4000m คือ ที่สุดของนาฬิกาสายดำน้ำของ Oris ไม่ใช่เพราะมันมีความสามารถในการกันน้ำระดับ 4,000 เมตร ซึ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ในการผลิตนาฬิกาดำน้ำเท่านั้น แต่ยังมาทั้งนวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ Oris เช่น ระบบ RSS หรือ Rotation Safety System ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ปี 2009 และระบบสายยางแบบปรับระดับได้โดยไม่ต้องตัดสายเหมือนเมื่อก่อน รวมถึงกลไก Calibre400 ที่เป็น In-House ของแบรนด์ มีกำลังสำรอง 5 วันพร้อมกับความทนทานสนามแม่เหล็ก ความเที่ยงในระดับเดียวกับ Chronometer และความทนทานในการใช้งานที่มีการรับประกันถึง 10 ปี ซึ่งในนาฬิกาดำน้ำในความลึกระดับนี้ยังไม่มีสเปกที่น่าสนใจเท่านี้เลย มีแค่ตัวเลขของการกันน้ำเท่านั้นที่เหนือกว่า
หลังจากบิลด์อารมณ์ด้วยเรื่องความสามารถและสเป็กของตัวนาฬิกากันไปแล้ว คราวนี้มาถึงคำถามสำคัญ เราต้องมีข้อมือขนาดไหนถึงใส่ AquisPro 4000m ได้สวย ?
ผมขอแบ่งการอธิบายเป็น 2 ส่วนโดยใช้เรื่องของกายภาพ และความรู้สึกเป็นตัวชี้วัด
ในเรื่องของกายภาพนั้น ผมเชื่อว่าข้อสงสัยนี้มาจากการได้เห็นตัวเลข 49.5 มิลลิเมตรที่เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งถ้าคุณคุ้นเคยกับนาฬิกา Aquis มาก่อน เรื่องนี้จะไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวลเลย เพราะนาฬิกาAquisPro 4000m ได้รับดีไซน์ที่อ้างอิงจาก Aquis ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ถูกออกแบบขาสายให้งุ้มลงจนแทบจะไม่ทำให้ Lug to Lug ยาวยื่นออกมามาก เรียกว่าโอกาสที่ใส่แล้วกาง เกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากมาก ขนาด Pro Diver Chronograph ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 51 มิลลิเมตร ผมยังใส่ได้เลย ขนาด AquisPro 4000m จึงไม่ใช่ปัญหา
ดังนั้น ถ้ามองแค่เรื่องของ 2 ปัจจัยคือ เส้นผ่านศูนย์กลางและ Lug to Lug แล้ว ผมว่าข้อมือราวๆ 6.5 นิ้วขึ้นไปน่าจะสอบผ่านสำหรับใครที่อยากสอยนาฬิกาเรือนนี้ แต่ขอแนะนำให้ไปลองดูก่อน ส่วนข้อมือ 7 นิ้วของผมบอกเลยว่าผ่านสบายๆ
แต่ปัญหาต่อมาสำหรับคนบางคน คือ เรื่องความหนา ตรงนี้เป็นเรื่องของความรู้สึกละ เพราะตัวเลข 23.4 มิลลิเมตรนั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับคนปกติที่อาจจะสวมนาฬิกาที่มีความหนาเพียงแค่ 12-13 มิลลิเมตร แต่สำหรับผมที่คุ้นเคยกับนาฬิกาดำน้ำแบบบึกๆ ถึกๆ มาทั้งชีวิต ตรงนี้ไม่ถือว่าเป็นประเด็น แค่หนามาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ Pro Diver Chronograph แล้ว ความหนาของตัวเรือนบวกกับขอบตัวเรือนของทั้ง 2 เรือนถือว่าใกล้เคียงกันมาก แต่ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคือ ความนูนของกระจก และถ้าคุณดูภาพจาก PR ของ Oris แล้ว อาจจะรู้สึกกังวล (ซึ่งผมก็เป็นเช่นกัน) แต่สุดท้ายพอได้ลองแล้ว ตรงนี้ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรเลยด้วยซ้ำ
เรื่องน้ำหนัก เอาเป็นว่า ไม่ใช่ประเด็นเช่นกัน การใช้ตัวเรือนไทเทเนียมบวกกับสายยาง ช่วยลดปัญหาตรงนี้ไปได้เยอะมาก ใส่แล้วไม่ได้รู้สึกว่าเหมือนกับมีภาระอะไรมากดลงบนข้อมือ ผมยังรู้สึกว่าเบากว่า Aquis Depth Gauge รุ่นแรกที่เป็นตัวเรือนสแตนเลสสตีลและผมใช้สายยางเสียอีก
ตัวสายยางของ Oris ถือว่าค่อนข้างลงตัวเลย มีความนุ่ม และกระชับ รวมถึงปรับละเอียดได้ผ่านทั้งตัวสายเอง หรือบนตัวล็อกสาย โดยสายยางรุ่นนี้ให้มาค่อนข้างยาวมาก เพื่อรองรับกับการใช้กับ Wet Suit ของนักดำน้ำ ถ้าไม่ตัดสาย ผมต้องใส่รูสุดท้าย พร้อมกับปรับตัวล็อกบนบานพับไปที่รูในสุดเช่นกันถึงจะใส่แล้วกระชับ แต่ถ้าใครมีขนาดข้อมือเล็กกว่าผม ก็สามารถตัดส่วนปลายของสายที่ต่อเข้ากับบานพับออกได้ เพื่อให้ได้ขนาดที่พอดีกับข้อมือ
อีกสิ่งที่ถือว่า AquisPro 4000m เหนือจากบรรดานาฬิกาดำน้ำลึกที่มีอยู่ในตลาด คือ การใช้กลไก In-House อย่าง Calibre 400 ที่มีกำลังสำรองเยอะมาก ถึง 5 วัน เรียกว่าเป็นสเป็กที่เหนือจากบรรดาพวกนาฬิกาที่มีความสามารถในการกันน้ำเกิน 3,000 เมตรที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาด ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้
และการมาของ Calibre 400 ย่อมหมายถึงค่าตัวที่ขยับขึ้นจากรุ่นทั่วไป ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ราคาเปิดของนาฬิกาเรือนนี้ในบ้านเราจะอยู่ที่ 222,900 บาท ซึ่งตรงนี้อาจจะทำให้ใครหลายคนลังเลใจ และต้องคิดหนัก เพราะถือเป็นการจ่ายให้กับสิ่งที่แทบไม่ได้ใช้ ทำได้แค่เพียงชื่นชม แต่ส่วนตัวผมมองว่ากลับทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความครบเครื่องและสมบูรณ์แบบของการเป็นที่สุดในกลุ่มนาฬิกาดำน้ำของ Oris เลยก็ว่าได้
รายละเอียดทางเทคนิค : Oris AquisPro 4000m
- รหัสรุ่น : Ref. 01 400 7777 7155-Set
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 49.5 มิลลิเมตร
- ความหนา : 23.4 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 55 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : ไทเทเนียม
- วัสดุสาย : รับเบอร์
- กระจก : Sapphire แบบโดมคู่ พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสงที่ด้านใน
- กลไก : อัตโนมัติ Calibre 400
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 120 ชั่วโมง หรือ 5 วัน
- การกันน้ำ : 4,000 เมตร
- ประทับใจ : ความสามารถในการกันน้ำ, รูปทรง และการรวบรวมที่สุดของนวัตกรรมด้านการผลิตนาฬิกาดำน้ำของ Oris
- ไม่ประทับใจ : กล่องที่ติดตัวนาฬิกามาเป็นกล่องสีเทาแบบธรรมดา
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
