การอัพเกรดสีสันของนาฬิกาสำหรับนักเดินทางในคอลเล็กชั่น Aqua Terra 150M Worldtimer ที่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2020 โดยคราวนี้มากับ 3 รุ่นย่อย คือ หน้าปัดเขียวตัวเรือนสแตนเลสสตีล 2 รุ่น และหน้าปัดเทาตัวเรือนไทเทเนียม พร้อมความพิเศษของหน้าปัดที่มีลวดลายเป็นลูกโลกสำหรับใช้ในการดูเวลาของนักเดินทาง
OMEGA Seamaster Aqua Terra 150M Worldtimer 2023 เติมทางเลือกใหม่ ตัวเรือนไทเทเนียม
-
อัพเกรดสีสันของนาฬิกาสำหรับนักเดินทางในคอลเล็กชั่น Aqua Terra 150M Worldtimer
-
มีจำหน่าย 3 รุ่นย่อย คือ หน้าปัดเขียวตัวเรือนสแตนเลสสตีล 2 รุ่น และหน้าปัดเทาตัวเรือนไทเทเนียม
-
ราคาในบ้านเราอยู่ระหว่าง 378,000-438,000 บาท
นาฬิกาอีกรุ่นหนึ่งที่ถือว่าสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคอลเล็กชั่น Seamaster Aqua Terra ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอย่าง OMEGA Seamaster Aqua Terra 150M Worldtimer เดินทางมาถึงการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ สำหรับปี 2023 โดยทางแบรนด์ได้เปิดตัวโฉมใหม่ของคอลเล็กชั่นนี้ออกสู่ตลาด โดยมีไฮไลท์เด่นอยู่ที่รุ่นพิเศษที่มาพร้อมกับความเบากับวัสดุอย่างไทเทเนียม
OMEGA เปิดตัวเวอร์ชันสำหรับนักเดินทางในคอลเล็กชั่น Seamaster Aqua Terra เมื่อปี 2020 โดยความน่าสนใจคือ การเพิ่มฟังก์ชั่น Worldtimer ที่มีการสร้างลูกโลกจำลองขึ้นบนกลางหน้าปัดของตัวนาฬิกาด้วยกรรมวิธีพิเศษ ซึ่งในช่วงที่ทำตลาดนั้น นาฬิการุ่นนี้จะมีเพียงทางเลือกของวัสดุแบบเดียวก็คือ สแตนเลสสตีล และมีหน้าปัดสีเดียวคือ น้ำเงิน ก่อนที่จะมีการเพิ่มรุ่นพิเศษด้วยตัวเรือนและสายที่ผลิตจากทองคำ Sedna Gold และหน้าปัดสีขาว
อย่างไรก็ตาม ในปี 2023 OMEGA เสริมทัพกับทางเลือกใหม่ด้วย 3 รุ่นพิเศษนั่นคือ
-
ตัวเรือนสแตนเลสสตีลและหน้าปัดสีเขียว Ref. 220.30.43.22.10.001 ราคา 386,000 บาท
-
ตัวเรือนสตีลสายยางสีเขียว Ref. 220.32.43.22.10.001 ราคา 378,000 บาท
-
ตัวเรือนไทเทเนียมหน้าปัดสีเทาที่ผลิตจากการระเหยด้วยเลเซอร์ทั้งหมด Ref. 220.92.43.22.99.001 ราคา 438,000 บาท
นาฬิกา Seamaster Aqua Terra 150M Worldtimer 2023 มากับตัวเรือนที่มีขนาด 43 มิลลิเมตร มาพร้อมกับวัสดุซึ่งทั้งน้ำหนักเบาและทนทานต่อการกัดกร่อนอย่างไทเทเนียมนี้คือเรือนเวลาที่มีนิยามตัวตนชัดเจน
สำหรับเครื่องบอกเวลาดังกล่าว OMEGA ได้รังสรรค์สีดำและสีเทา รวมถึงสีต่างๆ ด้วยเลเซอร์ บนหน้าปัดจะปราศจากข้อความใดใดยกเว้นเพียงชื่อ LONDON สีแดงเงาซึ่งถูกลงสีด้วยมือ OMEGA เสริมความงามของหน้าปัดด้านด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกสีดำ
รวมถึงชุดเข็มและหลักชั่วโมงสีดำที่บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาวซึ่งจะเรืองแสงสีฟ้าในความมืด เติมเต็มรูปลักษณ์ให้สมบูรณ์แบบด้วยสายนาฬิกายางเสริมความแข็งแรงสีดำที่เย็บด้วยด้ายสีเทาแบบเชื่อมกับตัวเรือน ตกแต่งด้วยข้อสายนาฬิกาไทเทเนียมเกรด 2 ขัดด้านและหัวสายจากวัสดุไทเทเนียมเกรด 2 เช่นเดียวกัน
สำหรับรุ่นสแตนเลสสตีล รุ่นแรกจะมาพร้อมกับสายนาฬิกาและหัวสายแบบปีกผีเสื้อจากวัสดุสแตนเลสสตีล ในขณะที่อีกรุ่นมาพร้อมกับสายนาฬิกายางแบบเชื่อมกับตัวเรือนสีเขียวที่เย็บด้วยด้ายสีเทา เสริมด้วยข้อสายที่ผลิตจากสตีลขัดเงาและหัวสายแบบบานพับขัดเงาสลับด้าน ตัวนาฬิกาถูกติดตั้งด้วยหน้าปัดซันบรัชเคลือบ PVD สีเขียว ล้อมด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกสีเขียวขัดเงาสลับ และเสริมเสน่ห์ให้กับหน้าปัดด้วยชุดเข็มกับหลักชั่วโมงจากทอง Moonshine™ 18K
นอกจากขอบตัวเรือนเซรามิกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน นาฬิกาทั้งสามรุ่นยังมีรายละเอียดแสนพิเศษร่วมกันคือ Worldtimer อันเป็นเอกลักษณ์บนใจกลางของหน้าปัด OMEGA ได้จำลองโลกผ่านมุมมองจากขั้วโลกเหนือ สรรสร้างทวีปและมอบสีสันบนผิวไทเทเนียมเกรด 5 ด้วยกรรมวิธีระเหยด้วยเลเซอร์ แม้เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นด้วยตาเปล่า ทิวทัศน์บนนาฬิกายังเป็นทรงโดมเพื่อเลียนแบบความโค้งของโลก และรายล้อมแผนที่ภูมิศาสตร์ด้วยวงบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมงที่แบ่งออกเป็นกลางวันกับกลางคืนซึ่งบรรจุอยู่ใต้กระจกเฮซาไลท์
บ้านของ OMEGA ที่เมือง Bienne (เบียนน์) ในสวิตเซอร์แลนด์คือหนึ่งในจุดหมายทั่วโลกที่ห้อมล้อมอยู่บนหน้าปัดและขอบด้านนอก สถานที่ทุกแห่งยกเว้นเมืองหลวงของอังกฤษล้วนปรากฏด้วยสีเหลืองทอง ขณะที่ LONDON จะเป็นสีแดงเพื่อตอกย้ำถึงเวลามาตรฐานกรีนิช (Greenwich Mean Time) หรือในปัจจุบันเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการด้วยชื่อเวลาสากลเชิงพิกัด (Universal Time Coordinated หรือ UTC)
สำหรับมร.เรย์โนลด์ เอชลิมานน์ (Raynald Aeschlimann) ประธานและซีอีโอของ OMEGA นาฬิการุ่นใหม่นั้นแสดงถึงนวัตกรรมและแรงบันดาลใจ “ที่ OMEGA เราภาคภูมิใจในจิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิกและนาฬิกาเหล่านี้ก็เหมือนคำเรียกร้องที่ไม่อาจปฏิเสธ ลุย! ออกไปผจญโลกกว้าง!
หน้าปัดคืองานศิลป์ที่มอบสัมผัสแห่งการผจญภัยและทำให้รู้สึกตัวเล็กลง พร้อมด้วยเทคโนโลยีชั้นนำที่คอยทำงานอยู่เบื้องหลังรูปโฉมที่ชวนให้อัศจรรย์ เรือนเวลาเหล่านี้ทั้งงดงาม สวมใส่สนุก ใช้งานได้จริงและควรค่าแก่การสะสม”
ขุมพลังเบื้องหลังของ Seamaster Aqua Terra 150M Worldtimer แต่ละเรือนคือกลไก Co-Axial Master Chronometer Calibre 8938 ที่ได้มาตรฐานสูงสุดด้านความเที่ยงตรงตามที่กำหนดโดย Swiss Federal Institute of Metrology (METAS) เรือนเวลายังสามารถทนทานต่อความลึกได้ด้วยคุณสมบัติการกันน้ำที่ 15 บาร์ (150 เมตร/ 500 ฟุต)
เปิดตัวออกมาแล้ว และใครที่สนใจสามารถสัมผัสตัวเป็นๆ ของ Seamaster Aqua Terra 150M Worldtimer เวอร์ชันปี 2023 ที่บูติกของ OMEGA ได้แล้ว
รายละเอียดทางเทคนิค : OMEGA Seamaster Aqua Terra 150M Worldtimer 2023
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 43 มิลลิเมตร
- ความหนา : 14.1 มิลลิเมตร
- Lug to Lug: 50 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล / ไทเทเนียม เกรด 2
- กระจก : Sapphire
- กลไก : รหัส Calibre 8938 มีความเที่ยงตรงระดับ Master Chronometer
- ความถี่ : 25,200 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 60 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 150 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline