ใครที่ชื่นชอบความหรูของคอลเล็กชั่น Multifort และต้องการอะไรที่แตกต่างจากที่เคยมีมา เตรียมเงินรอได้เลยกับรุ่นใหม่อย่าง Multifort Power Reserveที่มีการเพิ่มมาตรวัดแสดงระดับกำลังสำรองของกลไก
Mido Multifort Power Reserve เพิ่มความพิเศษด้วยมาตรวัดกำลังสำรอง
-
เพิ่มทางเลือกให้กับรุ่น Multifort ด้วยการเสริมมาตรวัดแสดงระดับพลังงานของกำลังสำรอง
-
มีจำหน่าย 3 รุ่นโดยที่มี 2 รุ่นเป็นแบบเคลือบ PVD สีดำ บนตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร
-
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 37,200 บาท
ช่วงนี้ Mido (มิโด้) ขยับตัวในตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยนาฬิการุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวออกมา โดยล่าสุดถึงคิวของคอลเล็กชั่น Multifort กับรุ่น Power Reserveที่จะมีขายด้วยกัน 3 รุ่นย่อยพร้อมราคาเริ่มต้นในบ้านเราที่ 37,200 บาท ใครที่เป็นแฟนของ มิโด้ เตรียมตัวลุยกันได้เลย
Mido ขยับตัวในตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยนาฬิการุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวออกมา โดยล่าสุดถึงคิวของคอลเล็กชั่น Multifort
3 รุ่นย่อยของ มิโด้ Multifort Power Reserveนั้นจะเริ่มจากรุ่นตัวเรือนและสาย Stainless Steel ซึ่งมากับหน้าปัดสีน้ำเงิน พร้อมเข็มวินาทีและเข็ม Power Reserve สีแดง ขณะที่อีก 2 รุ่นเป็นตัวเรือนเคลือบ PVD สีดำ พร้อมหน้าปัดสีดำ โดยทั้ง 3 รุ่นจะมากับลวดลาย Geneva Stripes ในแนวตามยาว ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของ Multifort รุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบัน
รุ่นตัวเรือนและสาย Stainless Steel ซึ่งมากับหน้าปัดสีน้ำเงิน พร้อมเข็มวินาทีและเข็ม Power Reserve สีแดง
image
รุ่นตัวเรือนเคลือบ PVD สีดำ พร้อมหน้าปัดสีดำ
image
รุ่นตัวเรือนเคลือบ PVD สีดำ พร้อมหน้าปัดสีดำ
image
ขนาดตัวเรือนของ มิโด้ Multifort Power Reserveมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร หนา 13.09 มิลลิเมตร พร้อมความกว้างขาสาย 22 มิลลิเมตร กระจกเป็นแบบ Sapphire ที่มีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ด้าน โดยทั้งหมดมีจำหน่ายเฉพาะรุ่นที่ใช้สายโลหะ
ตัวเรือนและสายผลิตจากเหล็กกล้าเกรดสูง 316L ในการผลิตส่วนประกอบที่เป็นเหล็ก เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ทำอันตรายต่อผิวทนทานต่อการกัดกร่อน ปราศจากผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก และได้ทดลองแล้วว่ามีความทนทาน การผลิตนาฬิกา มิโด้ โดยใช้โลหะสแตนเลส ทำให้ชิ้นงานมีความคงทน ยืนหยัดอยู่คู่ทุกกาลเวลาและสภาพอากาศคุณสมบัติทางเทคนิคหลายประการของโลหะชนิดนี้ยังมาพร้อมกับความเบาบาง สวยงาม และความยืดหยุ่นในการปรับใช้ด้วย
ฝาหลังใสที่ทำให้มองเห็นกลไกที่ผ่านการขัดแต่งในแบบ Elabore-Grade
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับฝาหลังใสที่ทำให้มองเห็นกลไกที่ผ่านการขัดแต่งในแบบ Elabore-Grade โดยกลไกที่ติดตั้งในนาฬิการุ่นนี้จะเป็น Caliber 80 ที่อ้างอิงพื้นฐานมาจาก C07.671 ของ ETA เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง และสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง
สำหรับราคาขายของ มิโด้ Multifort Power Reserveนั้นจะเริ่มกับรุ่นหน้าปัดฟ้าตัวเรือน Stainless Steel ราคา 37,200 บาท และรุ่นรมดำ PVD ที่มีให้เลือก 2 สีของเข็มวินาที แต่จะมีราคาเท่ากันที่ 42,800 บาท ใครที่สนใจก็เก็บเงินรอได้เลยเพราะอีกไม่นานน่าจะมีขายในบ้านเราแล้ว เพราะในเว็บมีการขึ้นรายละเอียดของตัวนาฬิกาออกมาแล้ว
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/