MARQ by Garmin ทำไม Smart Swatch จะหรูไม่ได้

โดย

MP4/4

25/08/2019

นอกจาก Smart Watch ระดับราคาทั่วไปแล้ว ทาง Garmin ยังหวังเจาะตลาดระดับหรูหราด้วย กับการเพิ่มซับแบรนด์อย่าง MARQ by Garmin ออกมา โดยจะมีการทำตลาดด้วยกัน 5 รุ่นย่อย MARQ Aviator, MARQ Driver, MARQ Captain, MARQ Expedition และ MARQ Athlete โดยมีราคาในการทำตลาดอยู่ที่ 55,990-92,990 บาท

MARQ by Garmin ทำไม Smart Swatch จะหรูไม่ได้

ซับแบรนด์ที่เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานในระดับ Hi-end
มีการแบ่งออกเป็น 5 รุ่นย่อย คือ MARQ Aviator, MARQ Driver, MARQ Captain, MARQ Expedition และ MARQ Athlete
ราคาในการทำตลาดอยู่ที่ 55,990-92,990 บาท

- Advertisement -

จากไอเดียที่เกิดขึ้นราวๆ ต้นปี 2019 ในที่สุด Garmin ก็จัดการเปิดตัวซับแบรนด์อย่าง MARQ ออกมาสู่ตลาดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมกับสร้างความตื่นตะลึงให้กับบรรดาผู้พบเห็น เพราะราคาของนาฬิกาจากคอลเล็กชั่นนี้ขยับขึ้นจากรุ่นธรรมดาของ Garmin ถึง 3-4 เท่าตัวกันเลยทีเดียว คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคืทอ MARQ คือ อะไร แล้วมีจุดเด่นอะไร ถึงขนาดยกระดับทำให้ตัวเองมีราคาแพงถึงขนาดนี้ ?

MARQ เป็นซับแบรนด์ที่ถูกเปิดตัวออกมาในวาระของการฉลองครบรอบ 30 ปีของการก่อตั้ง Garmin International ซึ่งเมื่อก่อนเติบโตและเป็นที่รู้จักกับการผลิตเทคโนโลยีเพื่อช่วยในการนำทางก่อนที่จะขยายแนวรุกมาสู่ตลาดนาฬิกาออกกำลังกายและ Smart Watch

คอลเลคชั่น MARQ ผลิตขึ้นมาโดยวิศวกรของ GARMIN ที่ควบคุมดูแลการผลิตและการประกอบชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของทุกชิ้นงานกระบวนการในการผลิตอุปกรณ์ชั้นเลิศเหล่านี้แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยใช้การประสานแสง (Optical Bonding) การวางตัวของระบบเลนส์ (Optical Alignment) การทดสอบความดันน้ำ การทดสอบการทนต่อความร้อน การสั่นสะเทือน และการสึกกร่อน ผลลัพธ์คือการออกแบบวัสดุที่มีเงื่อนไขมากมาย ส่งผลให้ชื่อเสียงของ Garmin ที่มีอยู่เดิมในด้านคุณภาพได้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น

ผลผลิตที่อยู่ในคอลเล็กชั่นนี้นจะถูกแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ Aviation Automotive Marine Outdoor และ Sport โดยจะใช้ชื่อตามลำดับดังนี้คือ MARQ Aviator, MARQ Driver, MARQ Captain, MARQ Expedition และ MARQ Athlete โดยสิ่งที่ต้องการนำเสนอคือ การสร้างแบรนด์ให้ขยับตัวเองขึ้นไปสู่ตลาดหรูหรา หลังจากที่ผ่านมาแบรนด์ Garmin ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในระดับกลาง

นาฬิกาภายใต้ซับแบรนด์ MARQ by Garmin จะเน้นความหรูหราและพรีเมียมด้วยการเลือกใช้วัสดุชั้นเยี่ยมอย่างไทเทเนียม พร้อมการขัดแต่งตัวเรือนที่สวยและสะดุดตา และขอบ Bezel ที่ผลิตจากเซรามิก มาพร้อมกระจกแบบ Sapphire เรียกว่าเป็นการอัพเกรดวัสดุของตัวเรือนและงานดีไซน์ให้ดูโดดเด่น ไม่ใช่นาฬิกาออกกำลังที่มีตัวเรือนเป็นพลาสติกเหมือนกับแบรนด์ Garmin

นอกจากนั้น ในส่วนของตัวหน้าจอเอง ทาง Garmin ยังเน้นการออกแบบให้สามารถมองเห็นหรืออ่านค่าได้อย่างสะดวกเมื่ออยู่ท่ามกลางแสงแดด หรือจอแสดงผลเป็นแบบ Transflective memory-in-pixel (MIP) เรียกว่าไม่ใช่แค่หรูอย่างเดียว แต่จะต้องเน้นการใช้งานได้ด้วย โดยข้างในจะมีการจัดเตรียมพื้นที่เอาไว้สำหรับเก็บข้อมูลหรือเพลง รวม 32 GB รวมถึงการติดตั้งแอพพลิเคชั่นอย่าง Garmin Play และระบบที่จำเป็นต่อคอนเซ็ปต์ของนาฬิกาเรือนนั้นๆ เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์วัดอัตตราการเต้นของหัวใจ หรือ Heart Rate Sensor และเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือดหรือ O2 Sensor

สำหรับแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานราวๆ 12 วันเมื่ออยู่ใน Smartwatch Mode และ 28 ชั่วโมงเมื่อมีการเปิดใช้ GPS ตลอดเวลา หรือ 48 ชั่วโมงเมื่อใช้ในโหมด UltraTrac

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวนาฬิกาเองจะมีการผลิตออกมาเป็น 5 รุ่นย่อยที่แตกต่างกันในแง่ของกลุ่มคนใช้ แต่ในด้านรูปทรงตัวเรือนแล้ว ทั้ง 5 รุ่นใช้ร่วมกัน แต่จะต่างกันแค่ในด้านรายละเอียด เช่น ประเภทของสายซึ่งมีทั้งสายยาง สายหนัง และสายโลหะ รวมถึงสีสันที่ใช้ในการตกแต่ง รายละเอียดบนของ Bezel ที่ถูกเปลี่ยนไปตามกลุ่มนาฬิกา โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 46 มิลลิเมตร ส่วนความหนาจะต่างกันไปตามรูปทรงของขอบ Bezel และใช้หน้าจอที่มีความละเอียดเท่ากันที่ 240X240 Pixel

อีกสิ่งที่ต่างกันคือ Application และความสามารถของตัวนาฬิกาที่จะถูกออกแบบและติดตั้ง App ให้สอดคล้องกับรุ่นนาฬิกา เช่น Aviator ก็จะเน้น Application ที่จำเป็นสำหรับใช้ในการบิน เช่น การรับแผนการบินแบบไร้สายจาก Garmin Pilot ฐานข้อมูลสนามบินทั่วโลก หรือ แผนที่เคลื่อนที่แสดงสนามบิน, navaids, ถนน, ผืนน้ำ เป็นต้น

MARQ ATHLETE

ขนาดตัวเรือน 46 x 14 มิลลิเมตร

ราคา 55,990 บาท

Swatch Stardust & Color Blocks