เราไม่ค่อยได้เห็น Longines ผลิตนาฬิกาแบบ GMT ในตลาดบ่อยครั้งเท่าไร ดังนั้นการมาถึงของ Spirit Zulu Time จึงถือว่ามีความพิเศษและโดดเด่นแบบที่ไม่ทำให้ใครที่กำลังรอคอยต้องผิดหวัง
Longines Spirit Zulu Time ความประณีตบนฟังก์ชั่นสำหรับนักเดินทาง
-
การเพิ่มฟังก์ชั่นสำหรับนักเดินทางให้กับคอลเล็กชั่น Spirit
-
ตัวเรือนไซส์ 42 มิลลิเมตร มาพร้อมการขัดแต่งที่ประณีตและสวยงาม
-
มีจำหน่ายกับสาย 2 แบบ คือ สตีลและสายหนัง
สิ่งที่เรียกความตื่นเต้นให้เกิดขึ้นกับตัวผมมีอยู่ 2 เรื่องเมื่อครั้งที่ได้มีโอกาสร่วมงาน Novelties 2022 ของ Longines ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เรื่องแรกผมยังพูดถึงไม่ได้เพราะติด Embargo ส่วนอีกเรื่องคือ ผมจะได้เห็นนาฬิกา GMT รุ่นใหม่ของ Longines สักที และระบบนี้ก็ถูกนำมาใช้กับนาฬิกาในกลุ่ม Spirit โดยจะใช้ชื่อว่า Longines Spirit Zulu Time ที่มาพร้อมกับตัวเรือนไซส์ 42 มิลลิเมตร…บอกเลยว่าถูกใจผมมากๆ
ก่อนจะไปถึงเรื่องนาฬิกาเรือนนี้ ขออ้างอิงความชอบของตัวเองก่อน โดยนอกจากระบบจับเวลาหรือ Chronograph แล้ว อีกฟังก์ชั่นหนึ่งของนาฬิกาที่ผมชอบมากเป็นพิเศษก็คือ GMT หรือการแสดงเวลาที่ 2 หรืออาจจะที่ 3 สำหรับนาฬิกาบางรุ่น ไม่ใช่เพราะตัวเองชอบเดินทาง แต่นี่คือสิ่งที่ทำให้นาฬิกาหน้าตา 3 เข็มปกติดูมีความพิเศษและสวยโดดเด่นได้แบบไม่ต้องปรับปรุงในแง่ดีไซน์ภายนอกอะไรมากมาย นั่นก็เลยทำให้การได้เห็นนาฬิกาเรือนไหนมีเข็มที่ 4 อยู่บนหน้าปัดคือ ความพิเศษในมุมมองของผมเสมอ
 |
 |
 |
สำหรับ Longines แน่นอนว่า ผมแทบไม่ค่อยเห็นแบรนด์นี้นำฟังก์ชั่น GMT มาใช้กับนาฬิกาจักรกลของตัวเองสักเท่าไร และที่ผ่านตาล่าสุดคือ Conquest V.H.P.แต่นั่นคือนาฬิกาควอตซ์ ดังนั้น การมาของ Longines Spirit Zulu Time จึงเป็นประเด็นที่สามารถดึงดูดความสนใจของผมได้เป็นอย่างดี
Spirit คือ คอลเล็กชั่นที่ถูกเปิดตัวออกมาเพื่อแสดงถึงจิตวิญญาณของนักผจญภัยที่เป็นนักบุกเบิกในหลายๆ เรื่องตลอดช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และมีการเปิดตัวทางเลือกของรุ่นออกมาหลากหลาย ทั้งแบบ 3 เข็มที่มีทั้งตัวเรือน 37, 40 และ 42 มิลลิเมตร ตามด้วยรุ่น Chronograph
ส่วนรุ่น GMT ที่ทาง Longines จะใช้ชื่อว่า Spirit Zulu Time นั้น ถือเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของคอลเล็กชั่นนี้ และต้องบอกว่าถ้าคุณเป็นแฟนของแบรนด์นี้ จะทราบดีกว่าพวกเขาแทบไม่ค่อยผลิตนาฬิกาแบบแสดงเวลาที่ 2 หรือ 3 ออกมาสู่ตลาดเลย ดังนั้นผมบอกเลยว่า งานนี้น่าสนใจสุดๆ
Longines ผลิตนาฬิกาที่สามารถแสดงเวลาได้ 2 ประเทศ หรือ Dual Time-Zone เป็นครั้งแรกในปี 1908 และเป็นนาฬิกาพกสำหรับให้กับอาณาจักร Ottoman และในช่วงนั้น ทางแบรนด์ผลิตนาฬิกาที่มีความพิเศษออกมามากมาย เช่น นาฬิกาสำหรับใช้ในค็อกพิทเครื่องบินและนาฬิกาข้อมือเพื่อส่งให้กับบรรดานักผจญภัยรุ่นบุกเบิกได้ใช้งาน และก่อนที่จะไปถึงรายละเอียดของ Spirit Zulu Time ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะสงสัยว่าทำไมถึงใช้คำว่า Zulu Time แทนที่จะเป็น GMT เหมือนกับนาฬิกาสไตล์นี้รุ่นอื่นๆ
 |
 |
 |
ต้นกำเนิดและชื่อของนาฬิการุ่นนี้มีที่มาจากนาฬิกาข้อมือที่แสดง 2 ไทม์โซนเรือนประวัติศาสตร์ของ Longines ที่ผลิตขึ้นในปี 1925 ประดับสัญลักษณ์ Z-Flag (ซีร์-แฟล็ก) บนหน้าปัด โดยอักษรตัว Z นั้นย่อมาจาก Zulu Time ซึ่งตัว Z ก็อ้างอิงหรือหมายถึงคำว่า Zero และมีความหมายถึงตำแหน่งแรกสำหรับใช้ในการอ้างอิงเวลามาตรฐานโลก หรือ Greenwich Mean Time แต่เป็นการเรียกสำหรับการประสานงานทางทหารและการบิน
ดังนั้น Longines Spirit Zulu Time จึงเป็นสัญลักษณ์ของความเชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกาที่สืบทอดต่อมาร่วมร้อยปี และในช่วงแรก นาฬิกาเรือนนี้ทำตลาดด้วยตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร ที่ผลิตด้วยสแตนเลสสตีล พร้อมกับผ่านการขัดเงาสลับกับซาตินได้อย่างลงตัวและประณีต ซึ่งใครที่เคยสัมผัสงานของ Longines มาก่อนจะทราบดีว่า งานขัดแต่งตัวเรือนของแบรนด์นี้ถือว่าเยี่ยมมากและเหนือจากคู่แข่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงราคาในการทำตลาดระดับใกล้เคียงกัน
ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์เล็กน้อยที่ Longines เลือเปิดตัวคอลเล็กชั่นนี้ด้วยตัวเรือนไซส์ 42 มิลลิเมตรในตลาดในยุคนี้ ขณะที่เทรนด์ส่วนใหญ่ของนาฬิกาในยุค 2022 เราจะเห็นนาฬิกาเรือนเล็กลง พวกไซส์ 40 มิลลิเมตร หรือต่ำกว่านั้นทยอยเปิดตัวออกมามากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มของนาฬิกาย้อนยุคหรือผลิตโดยอ้างอิงจากนาฬิกาที่โด่งดังในอดีต
ส่วนตัวผมชอบขนาดที่กำลังพอดีของนาฬิกาเรือนนี้นะครับ เพราะไซส์ 42 กับขาสายที่ยาวนิดๆ พร้อมความหนา 13.9 มิลลิเมตร เป็นขนาดที่ผมว่าข้อมือระดับ 6.5 นิ้วขึ้นไปใส่แล้วสวย และยิ่งเป็นนาฬิกาแบบต้องการใช้รายละเอียดที่อยู่บนหน้าปัดอย่างเต็มที่ด้วยแล้ว ผมว่าตัวเรือนใหญ่จะได้เปรียบกว่า เพราะทำให้การอ่านค่าเวลาง่ายและสะดวกขึ้น
 |
 |
 |
แต่ละรุ่นจะมีทั้งสายสแตนเลสและสายหนังให้เลือกซื้อควบคู่กันไป โดยสามารถเลือกสลับเปลี่ยนสายได้ด้วยระบบเปลี่ยนสายซึ่งไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ข้อดีคือ ความสะดวกและใช้งานง่าย แต่สิ่งที่คนซึ่งชอบเปลี่ยนสายหนังอาฟเตอร์มาร์เก็ตอาจจะขัดใจคือ การต้องหาสปริงบาร์ชุดใหม่มาทดแทนตรงส่วนนี้ เพราะสปริงบาร์ของระบบจะรวมเป็นชุดเดียวกับสายเลย ส่วนความกว้างขาสายก็ 22 มิลลิเมตร ถือว่าหาสายหนังสวยๆ มาใส่เพื่อความแตกต่างได้ไม่ยาก
นาฬิการุ่นนี้มีขายด้วยกัน 3 หน้าปัด คือ ดำแบบด้าน น้ำเงินแบบซันเรย์ และแอนทราไซต์ ซึ่งรุ่นหน้าปัดสีแอนธราไซต์มีความพิเศษหน่อย โดยนอกจากการขัดแต่งพื้นผิวปัดด้านแบบเนื้อทรายแล้ว ยังมีขอบตัวเรือนพร้อมอินเสิร์ตที่ต่างสีกัน โดยเป็นสีเขียว และใช้สีทองเคลือบลงบนฟอนต์ตัวเลข และขณะเดียวกันเข็มแสดงเวลาที่ 2 ก็จะมีสีแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการจับคู่สีหน้าปัด เช่น สีดำเป็นเข็มสีฟ้า สีน้ำเงินจะเป็นเข็มสีส้ม และสีแอนธราไซต์จะเป็นเข็มสีทอง
เมื่อดูรายละเอียดบนหน้าปัดแล้วจะเห็นถึงความใส่ใจ ทั้งในเรื่องการขัดแต่งบนหน้าปัด การใช้หลักชั่วโมงแบบนูนสูงช่วยทำให้ดูมีมิติ ทุกรุ่นใช้อินเสิร์ตของขอบตัวเรือนที่ผลิตด้วยเซรามิก โดยอินเสิร์ตจะเป็นสเกล 24 ชั่วโมงสำหรับทำงานร่วมกับเข็ม GMT ในการบอกเวลาที่ 2
 |
 |
ส่วนกลไกที่ขับเคลื่อนนาฬิการุ่นนี้เป็นรหัส L844.4 มาพร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริง ทำให้ทนทานต่อสนามแม่เหล็ก ซึ่งสิ่งที่ผมชอบสำหรับกลไกรุ่นนี้มีอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน ข้อแรกกำลังสำรองที่นานถึง 72 ชั่วโมง ซึ่งผมว่านาฬิการะดับนี้กลไกควรมีความสามารถข้ามเลข 42 ชั่วโมงที่เราคุ้นเคยกันมานานได้แล้ว
ข้อสองความเที่ยงตรงระดับ Chronometer ซึ่งตรงนี้ดูได้จากสัญลักษณ์ดาว 5 ดวงที่อยู่บนหน้าปัด และถือเป็นสิ่งที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นเพราะนาฬิกาที่มีช่วงราคาระดับนี้และมาพร้อมกลไกระดับ Chronometer ถือว่ามีให้เห็นไม่ค่อยเยอะเท่าไร
และข้อสุดท้ายคือ เข็ม GMT ที่ถูกปรับได้อย่างอิสระ ทำให้ไม่ต้องวุ่นวายในการปรับอะไรมาก และสามารถทำงานกับสเกล 24 ชั่วโมงที่อยู่บนขอบตัวเรือนแบบหมุนสองทิศทางได้อย่างลงตัว และสามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างสะดวก โดยการปรับเข็ม GMT ในลักษณะนี้ที่เรามักจะเรียกว่า Traveler GMT นั้นทำให้การตั้งเวลาของ Home Time และ Local Time ทำได้ง่ายไม่วุ่นวาย และสามารถปรับกลับมาได้ง่ายเมื่อบินข้ามโซนเวลากลับมา
 |
 |
ราคาป้ายของ Longines Spirit Zulu Time อยู่ระหว่าง 107,300 บาทสำหรับรุ่นสายหนัง และ 111,200 บาทสำหรับรุ่นสายสแตนเลสสตีล ดังนั้น คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือ นาฬิการุ่นนี้น่าสนใจไหม ?
สำหรับคำตอบของผมคือ คุ้มค่าในการครอบครองครับ
เพราะถ้าคุณเป็นขาจรที่ไม่ใช่แฟน Longines จุดเด่นในเรื่องการขัดแต่ง ความประณีตบนตัวเรือนและรายละเอียดบนหน้าปัด ความเที่ยงตรงของกลไก และความซับซ้อนของกลไกที่มีฟังก์ชั่น GMT ที่เพิ่มเข้ามา บวกกับขนาดของตัวเรือนที่ลงตัว สตอรี่ของตัวนาฬิกา และความเป็นแบรนด์ ผมว่านี่คือข้อดีที่น่าจะทำให้ดีลนี้มีความคุ้มค่า และน่าสนใจ
แต่ถ้าคุณเป็นแฟนของ Longines อยู่แล้ว แน่นอนว่าจุดเด่นที่อธิบายข้างบนมาทั้งหมดบวกกับความชื่นชอบที่มีอยู่แล้ว ผมว่าคุณทราบดีอยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะคนที่ชอบนาฬิกาแบบ GMT ผมว่าเท่านี้ก็ทำให้แฟนๆ อย่างคุณต้องหันมามองและเตรียมครอบครองอย่างแน่นอน
รายละเอียดทางเทคนิค : Longines Spirit Zulu Time
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
- ความหนา : 13.9 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- กลไก : รหัส L844.4 อัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่น GMT และความเที่ยงตรงระดับ Chronometer
- ความถี่ : 25,200 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 72 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 100 เมตร
- ประทับใจ : ฟังก์ชั่น GMT ใช้งานสะดวก กลไกที่มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer ขนาดตัวเรือนที่เหมาะสมและมีการขัดอย่างประณีต
- ไม่ประทับใจ : ไม่มี
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
