Legend Diver ปรับตัวครั้งใหม่รับปี 2022 เปิดตัวนาฬิกาใหม่ 5 รุ่นย่อยด้วยการเปลี่ยนสีหน้าปัดให้กับนาฬิกาไซส์ 36 และ 42 มิลลิเมตร โดยจะเริ่มทำตลาดในเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป
Longines Legend Diver 2022 เพิ่มสีหน้าปัดใหม่
-
เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยหน้าปัดสีใหม่ให้กับรุ่น 36 และ 42 มิลลิเมตร
-
รุ่น 42 มิลลิเมตรจะเป็นหน้าปัดสีใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วนรุ่น 36 มิลลิเมตรจะใช้หน้าปัดโทนสีเดียวกับที่เคยผลิตในรุ่น 42 มิลลิเมตรมาก่อน
-
ทุกรุ่นมีราคาเท่ากันที่ 2,240 ยูโร
Longines ขยับทางเลือกใหม่ให้กับคอลเล็กชั่น Heritage อย่าง Legend Diver ด้วยหน้าปัดสีสันใหม่ที่ให้ความสวยคลาสสิคในสไตล์ย้อนยุคด้วยรูปแบบ Gradient พร้อมกับสายแบบ Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างหนังและผ้าซึ่งจะให้ทั้งความสวยงามและความทนทานในการใช้งาน โดย Longines Legend Diver 2022 จะด้วยกัน 5 รุ่นโดยแบ่งเป็นตัวเรือน 36 มิลลิเมตร 3 รุ่นย่อย และ 42 มิลลิเมตรอีก 2 รุ่น
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
 |
Legend Diver ถือเป็นนาฬิการุ่นยอดนิยมของ Longines และเป็นงาน Re-Issue มาจากนาฬิกาดำน้ำของแบรนด์ที่โด่งดังในช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยตัวรุ่นใหม่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2007 และทำตลาดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนอกจากหน้าปัดดำที่เป็นสีหลักแล้วในช่วงที่ผ่านมา Longines ยังเปิดตัวทางเลือกใหม่ๆ ออกมาทั้งในเรื่องของสีหน้าปัด วัสดุตัวเรือนที่มีทั้งสแตนเลสสตีล และบรอนซ์
 |
 |
 |
 |
 |
 |
Longines Legend Diver 2022 ในรุ่นตัวเรือน 42 มิลลิเมตรจะมากับรุ่นหน้าปัดสีแซนด์เบจ พร้อมสายสีไขไก่ และสีแอชเกรย์ (Ash Grey) แบบไล่โทนสี พร้อมสายสีเทาเข้มแบบ NATO ส่วนรุ่น 36 มิลลิเมตรจะมากับหน้าปัดสีแดงเบอร์กันดีพร้อมสายสีแดง หรือสีน้ำเงินรอยัลบลูที่เคยมีอยู่แล้ว แต่ทำตลาดเฉพาะรุ่น 42 มิลลิเมตร และอีกสีคือ สีแซนด์เบจที่มีสายสีเดียวกับหน้าปัด
 |
 |
 |
ทุกรุ่นถูกออกแบบด้วยเอกลักษณ์ของนาฬิกาดำน้ำที่ถือเป็นรุ่นคลาสสิคของ Longines โดยตัวเรือนผลิตจากสแตนเตลสตีลขนาดตัวเรือน 36 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร พร้อมเม็ดมะยม 2 ชุดในตำแหน่ง 2 และ 4 นาฬิกาซึ่งเม็ดบนเมื่อคลายล็อกแล้วสำหรับใช้ในการหมุนวงด้านในเพื่อใช้ในการจับเวลา ส่วนเม็ดล่างคือเม็ดมะยมสำหรับใช้ในการตั้งเวลา และทุกรุ่นใช้กระจก Sapphire ทรง Boxed-Shape ยกขอบสูง
 |
 |
 |
 |
ในรุ่น 36 มิลลิเมตรมากับกลไกอัตโนมัติในรหัส L592 ที่พัฒนามาจากพื้นฐานของ ETA A20.L11 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงและมีกำลังสำรอง 45 ชั่วโมง ส่วนรุ่น 42 มิลลิเมตรใช้กลไก L888.5 ที่พัฒนามาจากพื้นฐานของรุ่น ETA A31.L11 ใช้ใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิคอน เดินด้วยความถี่ 25,500 ครั้งต่อชั่วโมงและมีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง โดยทุกรุ่นจะมีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
สำหรับราคาในจำหน่ายจะอยู่ที่ 2,240 ยูโรเท่ากันทุกรุ่น
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
