อีกผลงานของ Grand Seiko ในการผลิตเรือนเวลาระดับสูงด้วยกระบวนการผลิตแบบโบราณซึ่งถูกผสมผสานกับการเลือกใช้วัสดุที่ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทำให้ Grand Seiko Elegance Collection SBGW295 มีความงดงามอย่างโดดเด่นด้วยหน้าปัดและหลักชั่วโมงที่ผลิตด้วยกรรมวิธี Maki-e ผสมผสานกับการเคลือบแล็คเกอร์แบบ Urushi พร้อมกลไกไขลาน และมีการผลิตเพียง 500 เรือนเท่านั้น
Grand Seiko Elegance Collection SBGW295 ผสานตัวเรือนไทเทเนียมกับหน้าปัด Urushi
-
นาฬิการุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนงานฝีมือในการผลิตหน้าปัดและชุดหลักชั่วโมงชั้นสูง
-
ตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตรผลิตจาก Brilliant Hard Titanium
-
มีการผลิต 500 เรือนทั่วโลก
Grand Seiko นำเสนอความงดงามของนาฬิกาสุดคลาสสิครุ่นใหม่อย่าง Grand Seiko Elegance Collection SBGW295 ซึ่งเป็นการนำตัวเรือนไทเทเนียมในแนวเดรสส์มาผสมผสานกับความงามของการผลิตหน้าปัดด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Urushi ได้อย่างสวยงามและลงตัว โดยจะมีการผลิตออกขายจำนวน 500 เรือน
นาฬิกาเรือนนี้มากับตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มิลลิเมตรและเป็นการนำนาฬิกาจาก Elegance Collection มาต่อยอดเพื่อเติมความงดงามให้สวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ถูกผลิตขึ้นใหม่ภายใต้แนวคิด Re-Creation นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของ Grand Seiko ที่ผลิตออกมาในปี 1960 และอยู่ใน Elegance Collection โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2020 และมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่น คือ SBGW257, SBGW258 และ SBGW259 ซึ่งตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล
ในรุ่นใหม่นี้จะเปลี่ยนไปในแง่การใช้วัสดุ มากับตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมแบบพิเศษที่เรียกว่า Brilliant Hard Titanium ซึ่งเป็นอัลลอยหรือโลหะผสมแบบพิเศษที่ทาง Seiko พัฒนาขึ้นมา มีความเงางามกว่าไทเทเนียมทั่วไป และมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า โดยทาง Grand Seiko นำมาขัดแต่งเพื่อความสวยงามตามสไตล์ Zaratsu ซึ่งสามารถสะท้อนภาพได้โดยไม่มีความบิดเบี้ยว (Distortion-Free)
อีกสิ่งที่มีความพิเศษนอกเหนือจากตัวเรือนคือ หน้าปัด ซึ่งเป็นการนำเทคนิคการผลิตที่เรียกว่า Urushi หรือการลงแล็คเกอร์เคลือบหน้าปัดด้วยวิธีโบราณของญี่ปุ่น มาใช้ในดารผลิต โดยสีดำเข้มที่อยู่บนหน้าปัดของ Grand Seiko Elegance Collection SBGW295 มีความพิเศษตรงที่เป็นแล็คเกอร์สีดำที่มีโทนสีซึ่งหาได้ยากและมีเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น โดยสีที่ได้เป็นการเติมแร่เหล็กลงไปในวัตถุดิบสำหรับการผลิต รวมถึงสารอื่นๆ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเฟดของสีเวลาใช้ไปนานๆ พร้อมกับการเคลือบแลคเกอร์ทีละชั้นๆ
นอกจากนั้น การผลิตตัวอักษรและหลักชั่วโมงยังมาจากกระบวนการผลิตยุคโบราณของช่างฝีมือญี่ปุ่นด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Maki-e โดยมีการใช้ผงทองคำ 24k เคลือบลงไปที่ตัวอักษร Grand Seiko และหลักชั่วโมง ซึ่งทั้งหมดมาจากฝีมือของช่างระดับมาสเตอร์อย่าง Isshu Tamura ซึ่งชุดเข็มจะมีปลายที่โค้งงอตามรูปทรงของหน้าปัดและกระจกหน้าปัด โดยการผสมผสานกระจกแซพไฟร์แบบผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่งเข้ากับหน้าปัดแลคเกอร์ ทำให้นาฬิการุ่นนี้ปรากฎความนุ่มนวลและมิติอันล้ำลึกที่ไม่มีใครเทียบได้
ตัวกลไกที่อยู่ข้างในเป็นแบบไขลานในรหัส 9S64 มีขนาดที่บาง มีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง พร้อมกับความเที่ยงตรงในระดับ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน ขณะที่ชิ้นส่วนของกลไกได้รับการชัดแต่งอย่างสวยงามด้วยช่างฝีมือซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังแบบใส
สำหรับสายของนาฬิการุ่นนี้จะมีทั้งหมด 2 ชุด สายเส้นแรกผลิตด้วยกรรมวิธีในการผลิตชุดเกราะของซามูไรที่เรียกว่า Yoroiri ซึ่งมีการถักทอเส้นใยอย่างสวยงามและมีความทนทาน ขณะที่อีกเส้นจะเป็นสายหนังสีดำ ขณะที่ตัวบานพับเป็นแบบ 3 ทบและผลิตจาก Brilliant Hard Titanium เหมือนกับตัวเรือนนาฬิกา
การผลิตมีจำนวนทั่วโลกทั้งหมด 500 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 546,000 บาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Grand Seiko Elegance Collection SBGW295
- เส้นผ่าศูนย์กลาง : 38.0 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 45.7 มิลลิเมตร
- ความหนา 10.9 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire แบบโค้งคู่ มีการเคลือบแบบป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน
- สายนาฬิกา : หนังวัว + ไนลอน | บานพับสามทบปลดล็อคด้วยปุ่มกด
- กลไก : ไขลานรหัส 9S64
- กำลังสำรอง : 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน
- การกันน้ำ : 30 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline