อีเวนต์สุดมันส์ที่มีขึ้นทุก 5 ปีตามวงรอบของการเฉลิมฉลองของ Casio G-SHOCK และในวารนะของการฉลองครบรอบ 40 ปีในปี 2023 ถือว่ามีความพิเศษ เพราะเป็นครั้งแรกที่งาน G-SHOCK ! Shock The World จะมีจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนด้วยการรวบรวมเอาบรรดาคนดังจากประเทศต่างๆ ในแถบนี้มาร่วมงานด้วย
G-SHOCK ! Shock The World ประสบการณ์สุดมันส์ครั้งแรกในอาเซียน
-
งานอีเวนท์ที่จัดขึ้นทุก 5 ปีตามวงรอบของการฉลองครบรอบ G-SHOCK
-
ก่อนที่จะเริ่มงานมี Press Conference ในการสรุปงานตลอดทั้งปี และผลผลิตใหม่ที่เตรียมเปิดตัว
-
ในช่วงเย็นจะเป็นมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินที่เป็นดาวรุ่งของภูมิภาค เช่น Warren Hue และ Nikki
คงต้องบอกว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแบรนด์ G-SHOCK จากค่าย Casio ที่เมื่อครบวงรอบในการเฉลิมฉลองทุกๆ 5 ปี พวกเขาจะต้องมีอะไรสุดพิเศษออกมาอยู่เสมอ และสำหรับในวาระของการฉลองครบรอบ 40 ปีที่มีขึ้นในปี 2023 ถือเป็นความพิเศษในภูมิภาคอาเซียนที่ได้มีการจัดงาน G-SHOCK ! Shock The World ขึ้นเป็นครั้งแรกของภูมิภาคนี้ในการรวบรวมผู้คนจากประเทศต่างๆ มาเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกสนานและความเร้าใจ
เท่าที่จำได้ ผมได้เห็นการฉลองอย่างเป็นเรื่องเป็นราวของ Casio G-SHOCK ในช่วงที่พวกเขาครบรอบ 25 ปี ซึ่งมีขึ้นในปี 2008 แต่ในตอนนั้นก็มีเพียงแค่การเปิดตัวนาฬิการุ่นต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลอง ส่วนอีเวนท์ที่ถูกเรียกว่า G-SHOCK ! Shock The World เท่าที่เห็นอย่างเป็นทางการ เพิ่งจะมีเริ่มขึ้นในช่วงปี 2013 ซึ่งเป็นวาระของการฉลองครบรอบ 30 ปีของ G-SHOCK แต่ก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดต่อมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบปีที่ 40
Shock The World (STW) คืออะไร?
Shock The World (STW) คืองานเฉลิมฉลองที่ G-SHOCK จะจัดขึ้นในทุก ๆ 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน นวัตกรรม และมรดกที่ยังคงอยู่ของแบรนด์ ในปีนี้ได้นำเสนอนาฬิกาที่เป็นไอคอนิคผ่านการเดินทางที่สนุกสนานของแบรนด์ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบ G-SHOCK ผ่านเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมงาน โดยในปีนี้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้นเพราะเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปีของ G-SHOCK
ในปีนี้การเฉลิมฉลองเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปีในแต่ละเมืองใหญ่ของโลก และจบลงด้วยการงานอีเว้นท์ยิ่งใหญ่แห่งปี “SHOCK THE WORLD” ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 2 ธันวาคม 2023 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับภูมิภาคอาเซียนที่มีการจัดงานนี้ขึ้นพร้อมกับเชิญบรรดาคนดังจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเข้ามาร่วมงาน
โดย G-SHOCK ให้แฟนๆสามารถเข้าร่วมการเฉลิมฉลองได้ผ่านรับชมการแสดงสุดพิเศษโดยศิลปินดาวรุ่งจาก 88 Rising เช่น NIKI และ Warren Hue บนเว็บไซต์ของ G-SHOCK พิเศษเฉพาะสมาชิก CASIO ID เท่านั้น เปิดการลงทะเบียนในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2023 เวลา 10:00 น. เวลาประเทศไทย และเปิดให้เข้าถึงได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม 2023 วันจันทร์ เวลา 10:00 น. เวลาประเทศไทย
สัมผัสนาฬิการุ่นใหม่ก่อนเริ่มความเร้าใจของเสียงดนตรี
ก่อนที่งาน G-SHOCK! Shock The World จะเริ่มขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 2 ธันวาคม เป็นช่วงเวลาของ Press Conference ที่บรรดาผู้บริหารของ Casio ได้ออกมาพบปะกับบรรดาสื่อมวลชนที่เดินทางเข้ามาร่วมงานจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และต้องบอกว่าเป็นงานแถลงข่าวที่ฮิปที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยก็ว่า
ทิศทางและความเปลี่ยนแปลงของ G-SHOCK เห็นได้ชัดเจนมาตั้งแต่ราวๆ ทศวรรษที่ 2010 เมื่อนาฬิกาพี่น้องในตระกูล GA อย่าง GA110 และ GA100 เปิดตัวออกมา และส่วนตัวแล้วผมถือว่าเหมือนกับเป็นการเปลี่ยนผ่านที่ทำให้ G-SHOCK แปลงร่างจากการเป็น Tool Watch มาสู่ Fashion Watch และเติบโตไปพร้อมกับวัฒนธรรม Street มาโดยตลอด
ที่สำคัญ นาฬิกา 2 รุ่นนี้คือ ตัว Drive ยอดขายของพวกเขาให้พุ่งติดจรวด เรียกว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในช่วงทศวรรษที่ครองโดย GA100/110 ขยับจาก 3.5 ล้านเรือนต่อปีในปี 2010 มาเป็น 8.5 ล้านเรือนในปี 2017 และในปีเดียวกันนี้ G-SHOCK ก็เฉลิมฉลองยอดขายสะสมตั้งแต่ปี 1983 รวม 100,000 ล้านเรือนพอดี
อีกทั้งนาฬิการุ่น GA110 ถือเป็นนาฬิกาที่ทำยอดขายสูงสุดตลอดกาลของแบรนด์ แถมยังใช้เวลาที่รวดเร็วด้วยเพียงแค่ 10 ปีเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับ DW6900 ที่ขายมาตั้งแต่ปี 1995
ในงานแถลงข่าวเราได้เห็น Product Champion ตัวใหม่ของพวกเขานั่นคือ GA2100 ที่เปิดตัวในปี 2019 ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายตลอดช่วงทศวรรษหน้า และกลายมาเป็นเหมือนกับโมเดลหลักที่มีส่วนร่วมในทุกเวอร์ชันใหม่ของนาฬิกาที่จะเปิดตัว ทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นพิเศษ
คอลเล็กชั่นใหม่ที่จะถูกเปิดตัวออกมาตลอดช่วงเดือนธันวาคมจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 ก็จะมีทั้ง High end Line Up ที่เด่นๆ ก็เช่น
- GW-B5600CD ซึ่งเป็นนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Galapagos ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อยและนำรายได้ส่วนหนึ่งของการขายมอบให้องค์กร Charles Darwin Foundation
- GCW-B5000UN กับความน่าตื่นตาตื่นใจด้วยการนำคาร์บอนมาใช้ในการผลิตตัวเรือน สาย หรือแม้กระทั่งบานพับสาย ซึ่งเมืองไทยกำลังจะเข้ามาจำหน่ายในเดือนธันวาคมนี้กับราคา 82,000 บาท โดยถือเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นฉลอง 40 ปีของ G-SHOCK
- MTG-B3000CXD นาฬิการุ่นพิเศษฉลองปีมังกรทอง ซึ่งจะมีทั้งรุ่นสายยาง และสายโลหะที่เป็นสีทองทั้งเรือน
แคมเปญที่แตกต่างเพื่อสร้างสีสันให้กับ G-SHOCK
นอกจากนั้น บรรดาแคมเปญต่างๆ ได้ถูกนำเสนอออกมา ซึ่งในการฉลองครบรอบ 40 ปีนี้ G-SHOCK ได้เผยให้เห็นวิวัฒนาการของแบรนด์ผ่านแคมเปญต่างๆ เช่น “That’s Tough” ที่เป็นการนำเสนอคำจำกัดความของคำว่า “Toughness” และสร้างคำนิยามใหม่ให้กับแบรนด์ G-SHOCK ให้ตระหนักถึงตัวตนและความแกร่งที่มีความเฉพาะตัวของแต่ละคนซึ่งสะท้อนผ่านการเดินทางของนวัตกรรมและความเข้มแข็งของแบรนด์
ในปีนี้ G-SHOCK ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกที่ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยป๊อปอัพทัวร์ที่พาทุกคนไปค้นพบรากเหง้าแห่งความแกร่งเริ่มจากที่สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และอินโดนีเซีย โดยได้จัดแสดงนาฬิกา G-SHOCK และทิ้งร่องรอยอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ให้ลบเลือนไปทั่วโลก ควบคู่ไปกับความพยายามอย่างต่อเนื่องที่ขับเคลื่อนแบรนด์ให้ก้าวไปสู่อีกระดับหนึ่ง
และที่ขาดไม่ได้คือ Session ทึ่คุณ Kikuo Ibe ออกมาเล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ของเขาพร้อมวีดีโอที่พาย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ที่เขาในวัยหนุ่มที่อยู่ในช่วงของความท้อแท้ แต่ก็ไม่ยอมแพ้…และหลังจากนั้นก็คือ ประวัติศาสตร์ ที่มาพร้อมกับวลีที่เป็นสโลแกนติดตัวของคุณ Ibe คือ Never Give Up
สิ่งนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านทางแคมเปญ ‘Dear Younger Me’ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี โดยมี คุณ Kikuo Ibe บิดาแห่ง G-SHOCK ผ่านวิดีโออันอบอุ่นหัวใจที่คุณอิเบะได้เล่าถึงการเดินทางของเขาและความท้าทายต่างๆที่เขาเผชิญขณะสร้างสรรค์นาฬิกา G-SHOCK เรือนแรก แคมเปญนี้ต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่สวมใส่ สะท้อนความหมายของ “ความแกร่ง” สำหรับพวกเขา โดยเน้นถึงความมุ่งมั่นและพลังความเข้มแข็ง
ในช่วงเดียวกันนี้ เขาได้นำเสนอนาฬิกาที่เป็น Dream Project # 2 และเป็นเรื่องราวที่ชวนปวดหัวเหมือนกับที่เขาเคยเจอเมื่อ 40 ปีที่แล้ว เพราะจะต้องจะผลิต G-SHOCK ที่เป็นตัวเรือนแบบทองคำ 18K นั่นคือรุ่น G-D001 และเป็น One of G-SHOCK ที่จะนำเข้าสู่กระบวนการประมูลเพื่อระดมทุนส่งมอบให้องค์กรการกุศล โดยกระบวนการผลิตและการออกแบบจะมี AI เข้ามาช่วยทำงาน และรุ่นนี้จะมากับกล่องที่มีไฟ LED ซึ่งจะช่วยชาร์จนาฬิกาที่ใช้โมดุลรหัส 5740 แบบ Tough Solar
รวมถึงการเปิดตัวผลผลิตที่เป็น NFT ที่จะมีการจำหน่ายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ โดยเป็นคอลเล็กชั่น Virtual G-Shock NFT คือ VGA-001 และ VGA-002 โดยจะอยู่ใน Ethereum blockchain และเป็น Limited Edition ที่ขายจนถึงวันที่ 17 ธันวาคม
แน่นอนว่า งานนี้ถือเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกจัดขึ้นโดยรวบรวมเอาบรรดาสื่อมวลชนและคนดังจากประเทศในแถบอาเซียนเข้ามาร่วมแจมกัน ซึ่งทั้งหมดมีราวๆ 700 กว่าชีวิต และโดยรอบถือว่าให้ความสบายและชิลล์ ในการเดินดูนาฬิการุ่นต่างๆ และพัฒนาการของ G-SHOCK ในการสร้างสรรค์เรือนเวลาตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมาท่ามกลางกลิ่นอายทะเลรอบเกาะบาหลี ก่อนที่จะเริ่มงาน G-SHOCK! Shock The World ในช่วง 18.45 น.ด้วย 2 ศิลปิน คือ Warren และ Nikki และหลังจากนั้นก็ถึงเวลาของช่วง DJ ที่รันต่อเนื่องไปจนถึงงานเลิก
ถือเป็นอีกอีเวนต์ที่ยอดเยี่ยม ครบรสทั้งสำหรับคนรักนาฬิกา และสายตื๊ดๆ ที่ชอบดนตรี…แล้วพบกันใหม่อีก 5 ปี
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline