อีกรุ่นพิเศษที่กำลังจะเข้าเมืองไทย โดยในตอนนี้มีการเปิดให้ลงทเบียนรับสิทธิ์ซื้อกันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจจะสงสัยว่า Casio G-SHOCK X SBTG DW-5600 มีความพิเศษอย่างไร ในวันนี้เรามาทำความรู้จักกับนาฬิการุ่นนี้กัน
Casio G-SHOCK X SBTG DW-5600 มาทำความรู้จัก Limited ตัวใหม่กัน
เหล่าสนีกเกอร์เฮด นักสเก็ต และผู้นิยมแฟชั่นแนวสตรีท ต้องปลาบปลื้มกันอย่างแน่นอน เมื่อ คาสิโอ ได้เปิดตัวโปรเจ็คต์ความร่วมมือครั้งใหม่ ซึ่งเป็นการร่วมงานกับนักคัสตอมรองเท้าสนีกเกอร์ชื่อดังชาวสิงคโปร์ SABOTAGE (ซาโบทาจ หรือที่รู้จักกันในชื่อเท่ๆ ว่า SBTG)
ผลงานของ Mark Ong (มาร์ค ออง) หรือ SBTG เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อนในฐานะเวิร์คช็อปคัสตอมปรับแต่งรองเท้าสนีกเกอร์ที่มีเขาเป็นผู้สร้างสรรค์งานเพียงคนเดียว จนเติบใหญ่กลายเป็นสำนักออกแบบและผลิตผลงานอย่างเต็มรูปแบบดังเช่นทุกวันนี้ นอกจากลายเซ็นของแบรนด์อันโดดเด่นเหนือใครแล้ว สไตล์การออกแบบของ SBTG ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ ดีไซน์ที่มีลักษณะทางการทหารเป็นแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะลายพรางที่เป็นการเพ้นท์ด้วยมือซึ่ง Mark Ong ยึดมั่นสร้างสรรค์และทำการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โปรเจ็คต์ความร่วมมือกับ คาสิโอ ในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ จากการที่พี่ชายของเขาซึ่งกำลังร่วมงานกับ คาสิโอ ในอีกโปรเจ็คต์หนึ่งอยู่ ได้แนะนำ Mark Ong ให้ทีมงาน คาสิโอ ของสิงคโปร์ ได้รู้จัก จากนั้นความคิดที่จะร่วมงานกันก็เกิดขึ้น
วิสัยทัศน์สำหรับโปรเจ็คต์นี้มีความชัดเจนตั้งแต่เริ่มแรก นั่นก็คือ การสร้างสรรค์เรือนเวลาที่แสดงถึงปรัชญาการออกแบบของ Mark Ong อันได้แก่การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องดุจการมุ่งมั่นเดินทางไปสู่จุดหมายซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องและแสดงถึงตัวตนของ G-SHOCK (จี-ช็อค) ได้อย่างดียิ่ง Mark Ong ได้เจาะจงเลือกรุ่น DW-5600 มาทำการคัสตอมปรับแต่งในสไตล์ของเขาด้วยความที่นาฬิการุ่นนี้มีฐานะเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกของตระกูล G-SHOCK และก็เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเดินทางอันเป็นการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องของนาฬิกา G-SHOCK
ผลงานของเขาก็คือ G-SHOCK X SBTG DW-5600 ซึ่งมากับสีเขียวทหารผิวด้านที่ตกแต่งด้วยลายพรางแบบเสือดาวอันเป็นดั่งลายเซ็นของ SBTG อยู่บนพื้นที่รอบหน้าจอแสดงผลแบบแอลซีดี จอแสดงผลนี้ได้รับการปกป้องด้วยกรอบลวดกันกระแทกแบบ “บุล บาร์” ที่ชวนให้นึกถึงลักษณะของนาฬิกา G-SHOCK ในสมัยก่อน และยังเป็นลักษณะที่เหมือนกับโครงกันกระแทกที่มักมีอยู่ในอุปกรณ์ทางทหารด้วย อีกทั้งที่จอแสดงผลและบนฝาหลังยังมีลายเซ็นของแบรนด์ SBTG ปรากฎอยู่ร่วมกับชื่อรุ่น DW-5600 เพื่อบ่งบอกถึงความร่วมมือของทั้งสองแบรนด์ และเมื่อเปิดไฟพื้นหลังบนหน้าจอ สโลแกนของ SBTG อันได้แก่ “Destroy To Create” (ทำลายเพื่อสร้างสรรค์) ก็จะปรากฎขึ้นมาให้เห็น
G-SHOCK X SBTG DW-5600 เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นที่มีทั้งเสื้อเชิ้ต แผ่นสเก็ตบอร์ด และหมวก อยู่ในคอลเลคชั่นเดียวกันนี้ด้วย สาวกที่ต้องการเป็นเจ้าของทั้งคอลเลคชั่นโดยสมบูรณ์ เตรียมจับจองเป็นเจ้าของ ติดตามรายละเอียดการเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางในประเทศไทย ผ่านทางเวบไซต์ casio-cmg.com ด้วยมวลหมู่รุ่นและแบบอันหลากหลาย และโปรเจ็คต์แห่งความร่วมมืออีกมากมายกับรองเท้าสนีกเกอร์แบรนด์ต่างๆ และผู้นำการขับเคลื่อนของวงการอื่นๆ จึงแน่ใจได้เลยว่า G-SHOCK เป็นนาฬิกาสำหรับทุกๆ คน ไม่ว่าเขาหรือเธอจะมีความต้องการเป็นอย่างไร โปรเจ็คต์ SBTG ในครั้งนี้ได้ตอกย้ำถึงทิศทางของ คาสิโอ ในความมุ่งมั่นนี้และการธำรงไว้ซึ่งความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมสตรีทและเหล่าสาวก
เกี่ยวกับ MARK ONG
Mark Ong (มาร์ค ออง) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อเล่นว่า Mr. Sabotage (มิสเตอร์ ซาโบทาจ) เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์อยู่เบื้องหลังของ SBTG เขาผู้นี้มีความเจนจัดในแวดวงแฟชั่นทั้งในสิงคโปร์และระดับนานาชาติ ซึ่งทั้งนักบาสเกตบอล Kobe Bryant และ Mike Shinoda แห่งวง Linkin Park ก็เป็นลูกค้าของเขาด้วย นอกจากนี้ยังได้ร่วมงานโดยตรงกับแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เช่น Puma และ Asics อยู่เสมอ นอกจากลวดลายแนวการทหารแล้ว เขายังนำแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์มาจากแนวดนตรีพังค์ในสมัยอดีตตลอดจนวงการสเก็ตบอร์ดและวัฒนธรรมย่อยแนวอื่นๆ อีกด้วย
รายละเอียดทางเทคนิค
โครงสร้าง | ต้านทานแรงสะเทือน |
ระดับการกันน้ำ | 200 เมตร |
นาฬิกาจับเวลา | 1/100 วินาที; ระยะการจับเวลา: 00 นาที 00.00 วินาที – 59 นาที 59.99 วินาที (สำหรับ 60 นาทีแรก), 1 ชั่วโมง 00 นาที 00 วินาที – 23 ชั่วโมง 59 นาที 59 วินาที (หลังจาก 60 นาที); หน่วยการวัด: 1/100 วินาที (สำหรับ 60 นาทีแรก), 1 วินาที (หลังจาก 60 นาที); โหมดจับเวลา: เวลาที่ผ่านไป, แยกค่าจับเวลา (สปลิต ไทม์), จับเวลาอันดับที่ 1 และอันดับที่ 2 |
การนับเวลาย้อนกลับ | หน่วยการวัด: 1 วินาที; พิสัยการนับย้อน: 24 ชั่วโมง; ระยะการปรับตั้งเวลาเริ่มนับย้อน: 1 วินาที ถึง 24 ชั่วโมง (ปรับเพิ่มระดับละ 1 วินาที, 1 นาที, และ 1 ชั่วโมง); อื่นๆ: เริ่มนับซ้ำอัตโนมัติ |
การตั้งปลุก | ตั้งปลุกได้หลายรูปแบบ; สัญญาณแจ้งต้นชั่วโมง |
ฟังก์ชั่นการทำงานอื่นๆ | ปฏิทินอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (ถึงปี 2099); รูปแบบเวลา 12 หรือ 24 ชั่วโมง; ไฟพื้นหลังแบบ EL พร้อมระบบหน่วงการสว่างของแสงไฟ; สัญญาณไฟแฟลชกระพริบเตือน: กระพริบเตือนพร้อมเสียงสัญญาณสำหรับสัญญาณตั้งปลุก และสัญญาณแจ้งต้นชั่วโมง |
ความแม่นยำในการทำงาน ขณะอยู่ในอุณหภูมิปกติ | ±15 วินาที ต่อเดือน |
อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ | ประมาณ 2 ปี ด้วยแบตเตอรี่แบบ CR2016 |
ขนาดตัวเรือน | 48.9×42.8×13.4 มิลลิเมตร |
น้ำหนักรวม | ประมาณ 53 กรัม |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/