Casio Edifice Scuderia Toro Rosso คอลเล็กชั่นใหม่สำหรับแฟน F1

โดย

MP4/4

07/04/2019

สำหรับแฟน F1 ไม่น่าพลาด กับคอลเล็กชั่นใหม่ของ Casio Edifice ที่เป็นพันธมิตรกับทีม STR หรือ Scuderia Toro Rosso ซึ่งมีนักแข่งไทยอย่างอเลกซานเดอร์ อัลบอร์น อังศุสิงห์ร่วมทีมอยู่ในตอนนี้

Casio Edifice Scuderia Toro Rosso คอลเล็กชั่นใหม่สำหรับแฟน F1

เปิดตัว 3 รุ่นใหม่สำหรับคอลเล็กชั่นพิเศษ Toro Rosso
รุ่นท็อปคือ ECB-900TR สามารถเชื่อมต่อบลูทูธ
ราคาจำหน่ายอยู่ระหว่าง 7,900-12,900 บาท

- Advertisement -

ชื่อของ Casio Edifice กับการแข่งขัน F1 ไม่ได้หายไปไหน ซึ่งพวกเขายังสนับสนุนกับทีมแข่ง STR หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า Scuderia Toro Rosso ซึ่งเป็นทีมน้องของ RedBull Racing พร้อมกับเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่สำหรับปี 2019 ออกมา 3 รุ่นควบคู่กับการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ชาวไทยอย่างอเล็กซ์ อัลบอร์น ซึ่งเป็นนักแข่งในสังกัดทีม STR โดยคอลเล็กชั่นใหม่นี้จะประกอบไปด้วย ECB-900TR, EQS-920TR และ EFR-564TR

การออกแบบของทุกรุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากกีฬามอเตอร์สปอร์ต ทั้งตัวเรือน หน้าปัด และสาย เสริมความพิเศษด้วยลูกเล่น เช่น ตัวเลขบอกเวลาใช้อักษรแบบเดียวกับเลขประจำรถแข่งของทีม หน้าปัดและฝาหลังของนาฬิกาประดับด้วยโลโก้ Scuderia Toro Rosso โดยรุ่น EQS-920TR มาพร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Powered) และรุ่น ECB-900TR มาพร้อมบลูทูธ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ เช่น การปรับเวลาอัตโนมัติกว่า 300 เมืองทั่วโลก ส่วนรุ่น EFR-564TR ใช้แบตเตอรี่ปกติ โดยทั้ง 3 รุ่นจะมีราคาอยู่ระหว่าง 7,900-12,900 บาท และเริ่มขายเดือนเมษายนนี้

ECB-900TR : เรียกว่าเพิ่มเปิดตัวรุ่นปกติอย่าง ECB900DB ออกมาได้ไม่นาน ก็ถูกจับเอามาทำรุ่นพิเศษ และถือเป็นรุ่นท็อปของคอลเล็กชั่นนี้กับตัวเรือนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 48 มิลลิเมตร Lug to Lug 51.5 มิลลิเมตร และหนา 13.9 มิลลิเมตร และเพิ่มความเด่นด้วยการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทางบลูทูธด้วยแอพพลิเคชั่นเพื่อทำหน้าที่ในการแสดงผลข้อมูลในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องยของการจับเวลา และการปรับเวลาตาม Server Time และการเปลี่ยนเวลาเมื่อข้ามเขตเวลา ซึ่งตัวโมดุลสามารถปรับเวลาได้มากถึง 300 เมืองทั่วโลก ซึ่งตัวระบบบลูทูธเป็นรุ่นใหม่แบบ Low Energy กินไฟน้อย และมีระยะในการเชื่อมต่อที่ไกลในระดับไม่เกิน 2 เมตรระหว่างนาฬิกากับสมาร์ทโฟน แถมตัวโมดุลยังเป็นแบบ Tough Solar เปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ ซึ่งเมื่อชาร์จจนเต็มและอยู่ในโหมด Power Saving นั้นจะสามารถอยู่ได้นานถึง 19 เดือนโดยที่นาฬิกาไม่ต้องรับแสงอาทิตย์เลย หรือนาน 6 เดือนเมื่อมีการใช้งานปกติโดยที่ไม่ได้โดนแสงสว่าง

EQS-920TR : มากับตัวเรือนขนาด 47.6 มิลลิเมตร Lug to Lug 56 มิลลิเมตร และหนา 12.5 มิลลิเมตร ใช้โมดุลแบบ Tough Solar พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ เหมือนกับนาฬิกาของ Edifice หลายรุ่น โดยเน้นไปที่ฟังก์ชั่นการจับเวลา เช่น จับเวลาต่อรอบ หรือจับเวลาแยกสำหรับอันดับ 1 และ 2 มีความเที่ยงตรง +/-20 วินาทีต่อเดือน และตัวนาฬิกาถ้ามีการชาร์จจนเต็มจะสามารถใช้งานได้นานถึง 5 เดือนโดยที่ไม่ต้องโดนแสง

EFR564TR : มากับตัวเรือนขนาด 48.9 มิลลิเมตร Lug to Lug 52 มิลลิเมตร และหนา 12.4 มิลลิเมตร มีน้ำหนักรวมสาย 172 กรัม ใช้แบตเตอรี่ปกติที่มีอายุนานถึง 3 ปี มีความเที่ยงตรง +/-20 วินาทีต่อเดือน สามารถจับเวลาความละเอียด 1/10 วินาทมี และจับเวลาถอยหลังสูงสุด 59 : 59.99 นาที จับเวลาต่อรอบ และแยกจับเวลาสำหรับอันดับ 1 และ 2