Brequet Classique 7337 ความงดงามที่ร่วมสมัย

โดย

MP4/4

05/09/2022

Classique 7337 Calendar (คลาสสิค 7337 คาเลนดาร์) ใหม่ล่าสุด คือความโดดเด่นแห่งเรือนเวลาคอลเล็กชั่น Classique (คลาสสิค) เผยโฉมในกลิ่นอายโมเดิร์นซึ่งยังคงเอกลักษณ์อันเป็นแก่นของ Breguet (เบร์เกต์) ไว้อย่างชัดเจน และบัดนี้ Classique 7337 Calendar ท้ังรุ่นไวท์โกลด์และโรสโกลด์ ก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ แห่ง Brequet เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

- Advertisement -

Brequet Classique 7337

Brequet Classique 7337 ความงดงามที่ร่วมสมัย

นาฬิการุ่นใหม่จากคอลเล็กชั่น Classique มาพร้อมตัวเรือนไซส์ 39 มิลลิเมตร
วัสดุตัวเรือนมี 2 แบบ มีท้ังรุ่นไวท์โกลด์และโรสโกลด์
ขับเคลื่อนด้วยกลไก Caoibre 502.3 เป็นหนึ่งในบรรดากลไกของ Brequet ที่มีขนาดบางที่สุดเพียง 4 มม.

คอลเล็กชั่น Classique (คลาสสิค) ของ Breguet (เบร์เกต์) ได้สมาชิกใหม่ที่มีความโดดเด่นและลงตัว เมื่อทางแบรนด์เปิดตัว Classique 7337 Calendar (คลาสสิค 7337 คาเลนดาร์) รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งถือเป็นความโดดเด่นแห่งเรือนเวลาพร้อมเผยโฉมกลิ่นอายโมเดิร์นซึ่งยังคงเอกลักษณ์อันเป็นแก่นของ Breguet (เบร์เกต์) เอาไว้ และมีท้ังรุ่นไวท์โกลด์และโรสโกลด์ สำหรับเป็น 2 ทางเลือกใหม่

Brequet ถ่ายความหมายบทใหม่ที่เปี่ยมด้วยความหรูหราสง่างามและความประณีตละเอียดอ่อนออกมาเป็นความร่วมสมัยอย่างชัดเจน แต่คงเอกลักษณ์แห่งสุนทรียภาพตามแบบฉบับดั้งเดิมไว้ได้อย่างลงตัว ตัวนาฬิกามากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร ตัวเรือนโรสโกลด์พร้อมสายสีน้ำตาล และไวท์โกลด์ 18K พร้อมสายสีมิดไนทบ์ลู

ทุกรายละเอียดคือความงดงาม เพราะนาฬิกาเรือนนี้ยังเผยให้เห็นฝีมือหัตถศิลป์ตกแต่งเรือนเวลาหลากหลายแบบตลอดทั่วทั้งเรือนหน้าปัดแบบ off-centered งดงามด้วยยลวดลายคลู เดอ ปารี (Clous de Paris) การสลักมือด้วยเทคนิคกีโยเช่ (guilloche) โดยใช้เครื่องมือ roseengine โดยช่างฝีมือของ Brequet เอง และหน้าปัดรอบนอกสลักลวดลาย เมล็ดข้าวบาร์เลย์ (Barleycorn)

หน้าปัดแบบ off-centered ถูกเผยโฉมบนนาฬิกาพกในปี 1812 ถือเป็นจุดกาเนิดดีเอ็นเอของแบรนด์และด้วยแรงบันดาลใจจากการสร้างสรรค์เหล่านี้นาฬิกาข้อมือ Classique 7337 เรือนแรกก็เผยโฉมในปี 2009 และเวอร์ชั้นในปี 2022 นี้นับเป็นการถือกาเนิดอีกครั้ง พร้อมความร่วมสมัย และความสง่างามซี่งยังคงเอกลกัษณ์ของคอลเล็กชั่น Classique ไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม

Brequet Classique 7337

มูนเฟส (moon phase) ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาออกแบบขึ้นเพื่อสร้างความงาม โดยดวงจันทร์สีทองถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยมือโดยใช้เทคนิคการตีแผ่นทองด้วยฆ้อนล้อมรอบด้วยเหล่า ก้อนเมฆขัดแต่งด้วยเทคนิค sandblast เพื่อให้เกิดผิวสัมผัสแบบด้าน (Matt)

ส่วนท้องฟ้าเคลือบลงยาสีฟ้าประกาย เผยให้เห็นดวงดาวที่จะเปล่งประกายเมื่อมองจากมุมต่างๆ แสดงชั่วโมง นาที และวินาทีด้วยเข็มนาฬิกา open-tipped รังสรรค์จากบลูสตีลอันเป็นเอกลักษณ์ของ Brequet แสดงวันที่และวันประจำสัปดาห์ ณ ตำแหน่ง 2 และ 10 นาฬิกา ซึ่งหน้าต่างแสดงฟังก์ชั่นเหล่านี้มีขนาดใหญ่ช่วยให้มองเห็นได้ง่ายยิ่ง ขึ้น

นอกจากนั้นยังสามารถชื่นชมความงดงามของกลไก ได้จากด้านหลังตัวเรือนกรุแซฟไฟร์ เผยให้เห็นฝีมือความเชี่ยวชาญของ Brequet อันทรงคุณค่ายิ่ง นั่นคือ ศิลปะการตกแต่งเรือนเวลา จานเหวี่ยงของตัวเรือนไวท์โกลด์ ทำขึ้นจากมือด้วยอุปกรณ์ rose engine ประดับลวดลายเมล็ดข้าวบาร์เลย์เชื่อมต่อกัน ชิ้นส่วนอื่นๆ ตกแต่งด้วยเทคนิค chamfering

ซึ่งเป็นศิลปะการตะไบดว้ยมือให้เกิดเหลี่ยมมุม และลวดลายโกท เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) ปิดท้ายด้วยบาลานซ์ของนาฬิกา Classique 7337Calendar ที่ทำงานที่ความถี่ 3 เฮิรตซ์ และสำรองกำลังงานได้ 45 ชั่วโมง

Brequet Classique 7337

กลไก Caoibre 502.3 เป็นหนึ่งในบรรดากลไกของ Brequet ที่มีขนาดบางที่สุดเพียง 2.4 มม.เท่านั้น ออกแบบมาเพื่อให้ทางานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลับลานมีขนาดบางก็จริงแต่สามารถส่งกำลังและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง เช่นเดียวกับโรเตอร์ขึ้นลานที่ถูกออกแบบให้มีความบางด้วยเช่นกัน

ซึ่งกลไกในการขึ้นลานอัตโนมัติแบบโรเดียมเพลทประกอบด้วย 236 ชิ้นส่วน พร้อมซิลิคอน บาลานซ์สปริง (silicon balance spring) และเอสเคปเมนท์ (escapement) ที่มี pallet-lever เป็นแนวเส้นตรงแบบกลับด้านพร้อมด้วยฮอร์นซิลิคอน สำหรับซิลิคอนถือเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติหลากหลาย นอกจากจะทนทานต่อการกดักร่อนและการสวมใส่แล้ว ยังป้องกันผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก จึงทาให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงยิ่งขึ้น

สำหรับคอลเล็กชั่น Classique ได้นำเสนอรูปลกัษณ์ที่ผสมผสานทั้งความงดงามบริสุทธิ์และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันสะท้อนสุนทรียะและตัวตนของแบรนด์ได้อย่างแจ่มชัด Abraham-Louis Breguet (อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์)

นอกจากจะเป็นนักประดิษฐ์นาฬิกาและนักคิดค้นผู้เปี่ยมด้วยอัจฉริยภาพแล้ว ยังเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์คนแรกๆ อีกด้วย เมื่อเขาได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปารีสในปี 1775 ขณะน้ันสไตล์ Baroque กำลังอยู่ในกระแสนิยมอย่างมาก แต่เขาได้คิดค้นและเป็นผู้นำสไตล์นีโอคลาสสิคมาใช้ในการรังสรรค์นาฬิกาเป็นคนแรกซึงเป็นวิสัยทัศน์ที่เปี่ยมด้วยยสุนทรียภาพทำให้หน้าปัดนาฬิกาดูล้ายุคและช่วยให้ดูเวลาง่ายขึ้นอีกด้วย

นอกจากนั้น เขายังเป็นผู้คิดค้นเข็มนาฬิกาแบบ open-tipped (ปลายวงกลม), ลวดลายกีโยเช่และหน้าปัดแบบoff-centered ซึ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างของสไตล์บางส่วนที่เขาคิดค้นขึ้นเท่านั้น