เรารู้ว่างาน Baselworld เป็นพื้นที่ของแบรนด์นาฬิกาจากทั่วทุกมุมโลกในการเข้ามาจัดแสดงผลงานใหม่ๆ ของตัวเอง ไม่ต่างอะไรจากโลกรถยนต์ที่มีมอเตอร์โชว์ซึ่งจัดขึ้นตามประเทศต่างๆ
5 ของใหม่จาก Baselworld 2017 ที่เรารออยู่
แต่ทว่าในโลกของนาฬิกา ส่วนใหญ่แล้วระดับของราคากับแบรนด์อาจจะหรูหรือสูงเกินจากคอนเซ็ปต์ที่เว็บของเราตั้งเอาไว้ คือ นาฬิกาที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งครั้นจะขีดเส้นเป็นตัวเลขชัดๆ อาจจะยาก แต่ทีมงานปรึกษากันอยู่เสมอ และคิดว่าราคาสุดท้ายในการซื้อหา (ไม่ใช่ราคาตั้งนะ) อยู่ที่ไม่เกิน 50,000 บาทน่าจะกำลังดี อาจจะมีสิ่งที่เรารออยู่ในงาน Baselworld 2017 ก็ได้
และถ้าเข้าตามคอนเซ็ปต์นี้ เราเชื่อว่าหลายแบรนด์และหลายรุ่นที่ปรากฏอยู่ใน Baselworld 2017 น่าจะเข้าข่าย และสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของเรา วันนี้ก็เลยรวบรวม 5 นาฬิกาที่เราจับตามองและ (นั่ง) ภาวนาว่า เมื่อไรจะเข้ามาถึงเมืองไทยสักที
1.Casio G-Shock GPW2000-1ADR : เราเขียนแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้วสำหรับนาฬิกาตระกูล GravityMaster ของ G-Shock จากค่าย Casio ซึ่งสารภาพเลยว่าเราค่อนข้างทึ่งกับการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และทำให้นาฬิกานักบินที่มีความทนทานตามคอนเซ็ปต์ Triple G (แรงกระแทก-แรง G ด้านข้าง-แรงสั่นสะเทือน) สามารถทำงานได้มากขึ้นนอกจากการบอกเวลา เชื่อมต่อ Bluetooth กับ Application ในสมาร์ทโฟน แถมยัง Sync เวลาได้จาก 3 แหล่ง คือ มือถือ, Radio Controlled Atomic ของ Multiband และจาก GPS แถมค่าตัวในระดับ 800 เหรียญสหรัฐฯ หรือไม่ถึง 30,000 บาท ยิ่งทำให้เราทึ่งเข้าไปใหญ่ และคิดว่าไม่ต้องรอกันนานเพื่อสะสมทรัพย์ในการไต่ไปถึง Breitling B55 กันแล้ว
2.Citizen Promaster BN7020-09E 1000m : หลังคำนวนราคาตั้งจากหน่วยเหรียญมาเป็นบาทแล้วพบว่าค่าตัว 80,000 บาท เกินจากเส้นที่เราขีดไปค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยการที่บอกว่าเป็นราคาสุดท้ายในการจ่าย นั่นเท่ากับว่า นาฬิกาเรือนนี้มีสิทธิ์ตามหาใน eBay ในระดับราคาที่ลดลงเยอะได้ และอาจจะต่ำกว่า 50,000 บาทก็เป็นได้
อย่างที่เคยเขียนมาก่อนหน้านี้ดูจากสเปกและหน้าตาแล้ว นี่คือตัวแทนของ Autozilla เจ้านาฬิกาดำน้ำพันธุ์อึดของ Citizen ที่เปิดตัวออกมาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่ในรุ่นใหม่นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการออกแบบแล้ว ก็มีทั้งการเปลี่ยนมาใช้ระบบ Eco-Drive ซึ่งเป็นควอตซ์แบบกินแสง มี Helium Valve Escape เหมือนรุ่นเดิม แต่ย้ายฝั่งมาอยู่ที่ 10 นาฬิกา ส่วนตัวเรือนก็ผลิตจากไทเทเนียม แม้ว่าจะมีขนาดใหญ่เกิน 50 มิลลิเมตร แต่ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนัก
3.Bulova Moonwatch 2.0 : ปีที่แล้ว Bulova เปิดตัว Moonwatch Re-Issue ในงานเดียวกันนี้ และทำให้โลกได้รู้จักว่า Moonwatch ไม่ใช่แค่ Omega Speedmaster เท่านั้น แต่ Bulova เคยไปมาแล้วกับโครงการ Apollo 15 ส่วนในปีนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นาฬิกาปริศนาอย่าง Moonwatch เรือนสีดำ Nodate และมีการเปลี่ยน Font ชื่อแบรนด์มาเป็นแบบเก่า กลับถูกเผยแพร่ภาพตามเว็บและสื่อโซเชี่ยลของสื่อหลักในต่างประเทศที่เข้าไปร่วมงาน แต่ดันไม่มีข้อมูลหรือรายละเอียดที่เป็นทางการออกมา และบางคนก็ตั้งชื่อเอาไว้ว่า Moonwatch 2.0 หรือไม่ก็ Blackout
จากข้อมูลที่เราได้มานั้น Moonwatch 2.0 มากับสายหนังในสไตล์ Nato และคาดว่าขนาดและกลไกที่ใช้คงยกมาจากรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ส่วนราคาตามที่ลองเช็ค และมีกระซิบบอกมานั้น ที่โน่นตั้งเอาไว้ที่ 595 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบๆ 20,000 บาทและเราหวังว่าเมื่อเข้าไทย ราคาก็น่าจะเป็นตามนี้นะ
4.Seiko Prospex SPB051 และ SPB053 : จริงๆ อยากจะเอาเจ้าตัว Re-Edition ของนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของ Seiko ที่เปิดตัวในปี 1965 มาอยู่ใน List แต่ดูแล้ว SLA017 อาจจะไม่เข้าข่ายตามคอนเซ็ปต์ของเรา เพราะค่าตัวดูแล้ว
น่าจะทะลุหลัก 80,000 บาท แถมยังผลิตจำกัดเพียง 2,000 เรือน และก็ทราบมาว่าแทบจะหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว
งานนี้ก็ขอเลือกอะไรที่มันราคาย่อมเยาลงมาหน่อย และเปิดตัวในงานเดียวกัน นั่นคือ SPB051 ที่ใช้กลไก 6R15 แบบเดียวกับ Sumo ไม่ใช่เครื่อง 8L มากับ 2 สี คือ ดำ และน้ำเงิน โดยที่ตัวรูปทรงมีลักษณะคล้ายกับ SLA017 แต่มีขนาดใหญ่กว่า ขยับมาที่ระดับ 42.6 มิลลิเมตร และมีความหนา 13.8 มิลลิเมตร มีความสามารถในการกันน้ำระดับ 200 เมตร แถมงานนี้มีเฮสำหรับคนที่ชอบกระจก Sapphire เพราะติดตั้งมาให้ด้วยแถมยังเคลือบสารกันสะท้อนแสง AR
สิ่งเดียวที่เรายังไม่มั่นใจ คือ นี่จะเป็นตัวแทนของ SUMO ที่อยู่ในไลน์ผลิตของ Seiko มานาน และมีข่าวหลายกระแสบอกว่า Discontinued ไปแล้ว แต่ยังติดตรงราคาเพราะถือว่าสูงกว่า โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 900-1,100 ยูโร หรือ 34,000-41,000 บาท ขณะที่ Sumo ในญี่ปุ่นตั้งเอาไว้ที่ 60,000 เยน หรือไม่ถึง 20,000 บาท แต่ดูแล้ว น่าจะเป็นการเพิ่มอีกทางเลือกมากกว่า
ก็ต้องดูกันต่อไป แต่ใครที่อยากได้ก็เก็บเงินรอได้เลย เพราะจะเริ่มขายพฤศจิกายน 2017
5.Oris Aquis Minorchange : ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา Aquis ถือเป็นนาฬิกาจากสวิสส์ในกลุ่ม Entry-Level ที่ได้รับการตอบรับจากนักใส่ทั่วโลกเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในบ้านเราซึ่งมักจะถูกหยิบยกมาเปรียบเทียบเสมอเมื่อจะต้องซื้อนาฬิกาหลังหักส่วนลดแล้ว มีค่าตัวในระดับไม่เกิน 40,000 บาท เพราะนอกจากจะหน้าตาสวย แบรนด์สวิสส์ กลไกโอเคแล้ว ยังกันน้ำในระดับ 300 เมตร
ถึงตอนนี้ Aquis มีรุ่นใหม่มาแล้วหลังจากที่ก่อนหน้านี้บ้านเราเพิ่งเปิดตัวสีใหม่อย่าง Deep Blue ออกมา โดยงานนี้มีการเปลี่ยนชุดเข็มและหน้าปัดแบบใหม่ ที่ดูลงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเข็มชั่วโมงและนาทีที่มีการเล่นหักมุมตรงส่วนที่ติดกับจุดยึดเข็ม ส่วนขนาดก็มีให้เลือกทั้ง 36 มิลลิเมตรสำหรับสุภาพสตรี และ 43 มิลลิเมตรสำหรับคุณผู้ชายอย่างเราๆ ท่านๆ ที่สำคัญรุ่นนี้มีสายหนังด้วย…โอ้แม่เจ้า
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline