Audemars Piguet Royal Oak Offshore 43 Gemset สำหรับคนชอบเพชร

Audemars Piguet (โอเดอมาร์ ปิเกต์) เปิดตัว Royal Oak Offshore (รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์)  ขนาดหน้าปัด 43 มิลลิเมตรรุ่นใหม่ พร้อมประดับด้วยเพชรในหลากรูปแบบ โดยมีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่นย่อย

Audemars Piguet Royal Oak Offshore 43 Gemset สำหรับคนชอบเพชร

• เติมความสวยงามให้กับคอลเล็กชั่น Royal Oak Offshore 43 ด้วยการประดับเพชร

• มีทั้งรุ่นที่ประดับเพชรเฉพาะขอบตัวเรือนไปจนถึงตลอดทั้งเรือนและสาย

• ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 97,300 ฟรังก์สวิสส์

- Advertisement -

ในปีที่แล้ว Audemars Piguet (โอเดอมาร์ ปิเกต์) ได้เปิดตัวนาฬิกา Royal Oak Offshore (รอยัล โอ๊ค ออฟชอร์) ขนาดหน้าปัด 43 มิลลิเมตรที่ถูกปรับดีไซน์ให้ตอบรับกับสรีระข้อมือในการสวมใส่มากขึ้น ส่วนในปีนี้ได้มีการนำเสนอนาฬิกา 4 โมเดลใหม่รังสรรค์จากไวท์โกลด์ 18 กะรัต พร้อมตกแต่งด้วยเพชรเจียระไนทรงบริลเลียน (Brilliant cut) และทรงบาเก็ต (Baguette-cut) ซึ่งยังนำเสนอดีไซน์แบบทูโทนที่ตัดกันของเฉดสีเทาแวววาวและสีดำแบบร่วมสมัย ผสมผสานรายละเอียดของเทคนิคการจัดวางอัญมณีแบบดั้งเดิมกับดีไซน์ที่มีความโดดเด่นที่ก้าวข้ามทุกกฎเกณฑ์

ส่วนผสมอันลงตัว

นาฬิการุ่น Royal Oak Offshore ขนาดหน้าปัด 43 มิลลิเมตรรุ่นใหม่นี้ มี 2 โมเดลที่ประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงบริลเลียนทั่วทั้งเรือน พร้อมขอบตัวเรือนและตัวเรือนไวท์โกลด์ 18 กะรัตซึ่งมีการขัดเหลี่ยมมุมให้ใหญ่ขึ้นทำให้ยิ่งสวยงามเมื่อกระทบกับแสง โดยสามารถเห็นเทคนิคการตกแต่งด้วยอัญมณีและการขัดเหลี่ยมมุมได้อย่างชัดเจนที่กรอบปุ่มกดทรงโค้ง

หน้าปัดถูกประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงบริลเลียน พร้อมเครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาไวท์โกลด์ 18 กะรัตเคลือบด้วยสารเรืองแสงเพื่อให้อ่านเวลาได้ชัดเจนแม้อยู่ในที่มืด กระจกแซฟไฟร์ทรงโค้ง 2 ชั้นแบบนาฬิกา Royal Oak Offshore ซึ่งโค้งจากตำแหน่ง 6 นาฬิกาไปยังตำแหน่ง 12 นาฬิกาที่ตอบรับกับความโค้งของขอบตัวเรือนที่เชื่อมต่อกัน ยิ่งสร้างมิติที่น่าสนใจเมื่อนาฬิกากระทบกับแสง เอฟเฟกต์ความแวววาวของเพชรคอนทราสต์กันกับเฉดสีดำของปุ่มกดและเม็ดมะยมแบล็กเซรามิกได้อย่างลงตัว และล้อไปกับสีของหน้าปัดย่อยโครโนกราฟและขอบตัวเรือนด้านในของนาฬิกา

นาฬิกาทั้งสองเรือนยังมาพร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเองของ Audemars Piguet ซึ่งเปิดตัวในปีที่แล้ว หนึ่งในสองเรือนนี้มาพร้อมสายนาฬิการะบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเองที่รังสรรค์จากโวท์โกลด์ประดับด้วยเพชรทรงบริลเลียนทั้งสายครั้งแรกของ Audemars Piguet โดยกลไกการเปลี่ยนสายถูกออกแบบไว้กับหมุดบนตัวเรือนโดยตรง จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถเปลี่ยนสายและหัวเข็มขัดของนาฬิกาได้ด้วยตัวเองด้วยการกดปุ่มคลิกเพื่อปลดสายออก โดยจะต้องใช้การกด 2 ครั้งเพื่อปลดสายเพื่อเพิ่มความแน่นหนาปลอดภัยทุกครั้งที่สวมใส่ไว้บนข้อมือ

นอกจากนั้น นาฬิกาโมเดลนี้ยังมาพร้อมสายนาฬิกายางสีดำเส้นสำรองและเข็มขัดล็อกสายนาฬิกาไวท์โกลด์ประดับเพชรให้รายละเอียดที่โดดเด่นยิ่งขึ้น สำหรับนาฬิกาอีกโมเดล มาพร้อมสายนาฬิกายางสีดำพร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายด้วยตนเอง เติมเต็มความงดงามแบบทูโทนมากยิ่งขึ้น โดยมีสายหนังจระเข้สีดำขัดเงาสำรองอีกหนึ่งเส้น

เพชรเจียระไนทรงบาเก็ตที่ทั้งประณีตและแข็งแกร่ง

คอลเลกชั่น Royal Oak Offshore ขนาดหน้าปัด 43 มิลลิเมตรนี้ นำเสนออีก 2 โมเดลรังสรรค์จากไวท์โกลด์ 18 กะรัตประดับด้วยเพชรเจียระไนทรงบาเก็ตให้ลุคที่หรูหราและสปอร์ตในขณะเดียวกัน

เรือนแรกมาพร้อมตัวเรือนไวท์โกลด์ตกแต่งด้วยการขัดลายซาตินสลับกับการขัดเหลี่ยมมุม ขอบตัวเรือนประดับด้วยเพชรทรงบาเก็ตที่ถูกจัดวางอย่างไรรอยต่อตามความโค้งของนาฬิกา โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยหน้าปัดสีดำลายเมกา ทาพิสเซอรี (Méga Tapisserie) ที่มาพร้อมแพทเทิร์นกากบาทอันน่าจดจำซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา รูปทรงพีระมิดของลวดลายเก็บรายละเอียดด้วยเอฟเฟกต์แบบซาติน โดยสีดำของหน้าปัดลายเมกา ทาพิสเซอรีตัดกับหน้าปัดย่อยโทนสีเงิน เครื่องหมายบอกหลักชั่วโมงและเข็มนาฬิกาไวท์โกลด์ รวมถึงสัญลักษณ์ตัวย่อ AP ไวท์โกลด์ 24 กะรัตที่เข้ากันกับสีของตัวเรือน ทว่าตัดกันกับปุ่มกดและเม็ดมะยมแบล็กเซรามิกได้อย่างลงตัว สายนาฬิกาสีดำพร้อมระบบถอดเปลี่ยนสายโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยเข็มขัดล็อกไวท์โกลด์ นาฬิกาเรือนนี้ยังคงความคลาสสิกยิ่งขึ้นด้วยสายหนังจระเข้สีดำเส้นสำรองอีกหนึ่งเส้น

สำหรับเรือนที่สอง ตัวเรือน เม็ดมะยม และขอบตัวเรือนที่ประดับด้วยเพชรทรงบาเก็ตที่ได้รับการคัดสรรและเจียระไนอย่างประณีตเพื่อให้รับกับโครงสร้างของตัวเรือน และเช่นเดียวกับโมเดลแรก นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมหน้าปัดเมกา ทาพิสเซอรีสีดำและหน้าปัดย่อยโครโนกราฟสีเงิน เครื่องหมายบอกหลักชั่วโมง เข็มนาฬิกา และโลโกอักษรย่อ AP ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ทั้งหมดรังสรรค์ด้วยไวท์โกลด์ สายนาฬิกายางสีดำ เน้นย้ำความงามแบบทูโทน ด้วยดีเทลแบบคอนทราสต์ช่วยเสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิการุ่น Royal Oak Offshore ผสานกับการสร้างเรือนเวลาชั้นสูงแบบดั้งเดิมด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้น

กลไกฟลายแบ็กระดับไฮเอนด์

นาฬิกา Royal Oak Offshore รุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีโครโนกราฟของคาลิเบอร์ 4401 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ในคอลเลกชั่น Code 11.59 by Audemars Piguet (โค้ด 11.59 บาย โอเดอมาร์ ปิเกต์) กลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง โครโนกราฟนี้สามารถสำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง มีการติดตั้งคอลัมน์วีล (Column Wheel) และฟังก์ชันการทำงานแบบฟลายแบ็กที่ช่วยให้สามารถเริ่มต้นจับเวลาใหม่ได้โดยไม่ต้องหยุดหรือรีเซ็ตใหม่

คาลิเบอร์ 4401 ยังมาพร้อมระบบคลัตช์แนวตั้ง (Vertical clutch system) ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เข็มนาฬิกามีการกระโดดเมื่อเริ่มหรือหยุดการจับเวลา อีกทั้งยังมีกลไกการรีเซ็ตเป็นศูนย์ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่า เข็มจับเวลาบนหน้าปัดย่อยแต่ละเข็มจะรีเซ็ตเป็นกลับไปที่ศูนย์ได้อย่างไม่มีสะดุด โดยเมื่อปุ่มรีเซ็ตถูกเปิดใช้งาน ค้อนที่ขับเคลื่อนด้วยคันบังคับจะตีไปที่ลูกเบี้ยวรูปหัวใจของกลไกโครโนกราฟเพื่อดึงล้อโครโนกราฟและเข็มนาฬิกาให้กลับไปที่ศูนย์

ฝาหลังแซฟไฟร์เผยให้เห็น Oscillating weight รังสรรค์ด้วยพิ้งค์โกลด์รมดำ 22 กะรัตที่ออกแบบสำหรับคอลเลกชั่นนี้ อีกทั้งยังเผยให้เห็นชิ้นส่วนของกลไกอื่นๆ ที่ปกติแล้วจะถูกเก็บซ่อนเอาไว้ อาทิ คอลัมน์วีล และค้อนโครโนกราฟที่มีการเคลื่อนไหว คาลิเบอร์ 4401 ยังเก็บรายละเอียดด้วยเทคนิคโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (Côtes de Genève) เทคนิค เทรตส์ ทิเรส์ (Traits tirés) การขัดเหลี่ยมมุม และเซอร์คิวลาร์ เกรนิง (Circular Graining)

การจัดเรียงหน้าปัดย่อยโครโนกราฟแบบแนวนอน โดยหน้าปัดจับเวลาชั่วโมงถูกวางไว้อยู่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา หน้าปัดวินาทีที่ 6 นาฬิกา และหน้าปัดนาทีที่ 9 นาฬิกา ช่วยให้สามารถอ่านเวลาได้ง่ายขึ้น เหมาะกับทุกการใช้งาน

สำหรับนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Audemars Piguet Royal Oak Offshore 43 Gemset นี้ประกอบด้วย

• Ref. 26424BC.ZZ.D002CA.01 ประดับเพชรเฉพาะขอบตัวเรือน สายยาง ราคา 97,300 ฟรังก์สวิสส์
• Ref.26425BC.ZZ.D002CA.01 ประดับเพชรเฉพาะตัวเรือนและขอบตัวเรือน สายยาง ไม่ระบุราคา
• Ref. 26423BC.ZZ.D002CA.01 ประดับเพชรทั้งตัวเรือนและหน้าปัด สายยาง ไม่ระบุราคา
• Ref. 26423BC.ZZ.2100BC.01 ประดับเพชรทั้งตัวเรือน หน้าปัด และสาย ไม่ระบุราคา

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/