อีกครั้งที่เรือนเวลาจากคอลเล็กชั่น FREAK ของ Ulysse Nardin สามารถนำเสนอความน่าตื่นตาตื่นใจ และในรุ่น FREAK [S ENAMEL] หน้าปัดและรายละเอียดของชิ้นส่วนผ่านกระบวนการลงยา และมีให้เลือก 2 สี คือ แดงและน้ำเงินตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 45 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก calibre UN-251 โดยจะมีการผลิตจำกัดเพียงสีละ 50 เรือนเท่านั้น

- Advertisement -

Ulysse Nardin FREAK [S ENAMEL]

Ulysse Nardin FREAK [S ENAMEL] เมื่อนวัตกรรมพบกับงานเอนาเมล

พลังแห่งการสร้างสรรค์ที่นำแนวทางการผลิตเครื่องบอกเวลาชั้นสูงมาผสมผสานกับนวัตกรรม
หน้าปัดและรายละเอียดของชิ้นส่วนผ่านกระบวนการลงยา และมีให้เลือก 2 สี คือ แดงและน้ำเงิน
ตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 45 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก calibre UN-251

Ulysse Nardin เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ FREAK [S ENAMEL] ซึ่งเป็นการตีความใหม่ของ Freak S สุดยอดนาฬิกาบอกเวลาที่มีกลไกสลับซับซ้อนที่สุด ในรูปแบบที่เคลือบด้วยเอนาเมล โดยสะท้อนถึงภูมิปัญญาในการผสานนวัตกรรมเชิงกล เข้ากับ ศิลปะชั้นสูง รุ่นใหม่นี้ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ FREAK อันเป็นเอกลักษณ์ คือ “ไม่มีหน้าปัด ไม่มีเม็ดมะยม ไม่มีเข็ม” แต่ขับเคลื่อนด้วย กลไกหมุนบอกเวลา

Ulysse Nardin เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ FREAK [S ENAMEL] ซึ่งเป็นการตีความใหม่ของ Freak S สุดยอดนาฬิกาบอกเวลาที่มีกลไกสลับซับซ้อนที่สุด ในรูปแบบที่เคลือบด้วยเอนาเมล โดยสะท้อนถึงภูมิปัญญาในการผสานนวัตกรรมเชิงกล เข้ากับ ศิลปะชั้นสูง รุ่นใหม่นี้ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ FREAK อันเป็นเอกลักษณ์ คือ “ไม่มีหน้าปัด ไม่มีเม็ดมะยม ไม่มีเข็ม” แต่ขับเคลื่อนด้วย กลไกหมุนบอกเวลา

FREAK [S ENAMEL] มากับตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตรผลิตจากไทเทเนียม วัสดุล้ำสมัยในวงการนาฬิกาชั้นสูง ไทเทเนียมน้ำหนักเบากว่าเหล็กประมาณ 45% แต่แข็งแกร่งเหนือชั้น โดดเด่นด้วยความต้านทานการกัดกร่อน ปลอดภัยต่อผิวหนัง และทนทาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนาฬิกาที่ออกแบบมาให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมสุดขั้ว พร้อมมอบความสบายในการสวมใส่บนข้อมือ

โครงสร้างตัวเรือนทั้งหมด ทั้งตัวเรือนหลัก ขอบตัวเรือน กลไกล็อก และฝาหลัง ผลิตจากไทเทเนียม เพื่อคงความแข็งแกร่งโดยไม่เพิ่มน้ำหนัก ส่งผลให้ตัวเรือนมีความทนทานและน้ำหนักเบา ปกป้องกลไกภายใน พร้อมมอบความสบายในการสวมใส่และประสิทธิภาพระยะยาว สายนาฬิกาทำจากยางสีแอนทราไซต์หรือสีขาว พร้อมผิวสัมผัสแบบบอลลิสติก จับคู่กับบานพับไทเทเนียมดีไซน์ทันสมัยและใช้งานได้จริง เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับนาฬิกาที่ออกแบบเพื่อความแม่นยำ ความทนทาน และการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ความพิเศษของ Freak [S ENAMEL] อยู่ที่การผสมผสาน High Tech Engine เข้ากับ High Artistry Masterpiece ด้วยการนำงานฝีมือดั้งเดิมอย่างการเคลือบลงยา (Enamel) ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูง และมีรากฐานยาวนาน มารังสรรค์บนดิสก์บอกชั่วโมงเคลือบอีนาเมลสลักลาย Guilloché-Flinqué สร้างสรรค์ด้วยมือ ณ เวิร์กช็อป Donzé Cadrans ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการเคลือบลงยาในเครือ โดยดิสก์ลงยาในสีฟ้าเทอร์ควอยซ์และแดงทับทิมนี้ ไม่ได้เป็นเพียงองค์ประกอบตกแต่ง แต่เป็นชิ้นส่วนกลไกที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความแม่นยำสูงในการผลิตเพื่อให้กลไกทำงานได้อย่างสมดุล

ในรุ่นนี้เป็นกลไก Manufacture calibre UN-251 และมาพร้อมสถาปัตยกรรมกลไกสุดล้ำสมัย อย่างบาลานซ์วีลซิลิคอนและดิฟเฟอเรนเชียลกลไกที่เล็กที่สุดในโลก รวมถึงระบบขึ้นลานอัตโนมัติ Grinder® สุดล้ำที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกลไกขึ้นลานอัตโนมัติที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งวงการนาฬิกา ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบเพื่อการบอกเวลาโดยเฉพาะ ชิ้นส่วนกว่า 95% ของชิ้นส่วนถูกออกแบบเพื่อการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะ และมีกำลังสำรอง 72 ชั่วโมง

Freak [S ENAMEL] ยังเป็นนาฬิกาอัตโนมัติเรือนแรกของโลกที่มาพร้อม double oscillator ทำงานด้วยออสซิลเลเตอร์ขนาดใหญ่พิเศษสองตัวที่เอียงทำมุม 20 องศา และชุดเอสเคปเมนท์เคลือบด้วย DIAMonSIL เทคโนโลยีเฉพาะของ Ulysse Nardin ที่เพิ่มความทนทานและความแม่นยำ รวมถึงการใช้ซิลิคอนในชิ้นส่วนกลไกที่ Ulysse Nardin เป็นผู้บุกเบิกตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งตอกย้ำถึงตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยีซิลิคอน ในวงการนาฬิกาชั้นสูง โดยนาฬิการุ่นนี้ถือเป็นผลงานที่กำหนดมาตรฐานใหม่ที่ผสานวิศวกรรมล้ำสมัยเข้ากับงานศิลปะชั้นยอดได้อย่างลงตัว

ทั้ง 2 รุ่นผลิตจำกัดจำนวน เพียง 50 เรือน ในแต่ละสีโดยเคลือบอีนาเมลสีแดง (Ref. 2513-500LE-6AE-RED/3A) และสีน้ำเงิน (Ref. 2513-500LE-3AE-TUR/3A) มีราคาอยู่ที่ 6,057,800 บาท