Tag Heuer Monaco 1969-2019 50th Anniversary Edition จัดให้ครบสำหรับแฟนพันธุ์แท้

0

Tag Heuer Monaco 1969-2019 50th Anniversary Edition จัดให้ครบสำหรับแฟนพันธุ์แท้

- Advertisement -

Tag Heuer Monaco

เราทราบกันดีว่า Tag Heuer Monacoคือ คอลเล็กชั่นหนึ่งที่มีความสำคัญและอยู่ในตลาดมานานของแบรนด์นี้ อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของความเกี่ยวพันกับโลกแห่งความเร็ว เช่นเดียวกับการเป็นส่วนหนึ่งในจุดเริ่มต้นของกลไกจับเวลาอัตโนมัติร่วมกับแบรนด์อื่นๆ

อย่าง Breitling และ Hamilton ดังนั้นในปี 2019 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของ Monacoทาง แท็ค ฮอยเออร์ (Tag Heuer) เลยจัดเต็มเปิดตัว Limited Edition ออกมาทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกันภายใต้ชื่อ Tag Heuer Monaco 1969-2019 50th Anniversary Edition และทยอยเปิดตัวตลอดทั้งปี โดยเพิ่งเปิดตัวรุ่นสุดท้ายของคอลเล็กชั่นนี้ออกมาเมื่อไม่นานนี้

ก่อนอื่น ขอเกริ่นคร่าวๆ ก่อนว่า เหตุผลที่ Monacoเป็นคอลเล็กชั่นที่เชื่อมโยงกับมอเตอร์สปอร์ตและโลกความเร็ว คือ นี่คือนาฬิกาที่ตั้งชื่อตาม Monacoสนามแข่งที่เป็น Street Circuit ชื่อดังของแวดวง Formula One และว่ากันว่านี่คือ หนึ่งใน Triple Crown ของโลกความเร็ว (อีก 2 ที่คือการแข่งขันรายการ Indianapolis และ Le Mans)

ในอดีตมีนักแข่งเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถคว้าแชมป์ทั้ง 3 รายการนี้ตลอดการเป็นนักแข่งอาชีพ นั่นคือ Graham Hill พ่อของ Damon Hill แชมป์โลก F1 ปี 1994 ชาวอังกฤษ
ส่วนอีกเรื่อง คือ Monacoเป็นนาฬิกาที่ Steve McQueen ดาราจอมบู๊ที่ชอบความเร็ว สวมใส่ในระหว่างการเข้าฉากแข่งขันในภาพยนตร์เรื่อง Le Mans เมื่อปี 1970 และภาพที่เขากำลังกลัดกระดุมชุดแข่งและมองบน โดยที่มี Monacoคาดอยู่บนข้อมือ คือ ภาพที่สุดคลาสสิคและเป็นภาพตัวแทนของเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี

สำหรับรุ่น Tag Heuer Monaco 1969-2019 50th Anniversary Edition จะมีการแบ่งออกเป็นตัวแทนของแต่ละทศวรรษ นั่นคือ  1969-1979 ตามด้วย 1979-1989, 1989-1999, 1999-2009 และรุ่นสุดท้ายคือ 2009-2019
เอาละสำหรับคนที่จะตามเก็บวันนี้เรามาดูกันว่า ทั้ง 5 รุ่นนี้มีอะไรบ้าง

1.Monaco รุ่นคลาสสิคที่ Steve McQueen นำไปสวมใสระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Le Mans ในปี 1970

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

2.แพ็คเกจดั้งเดิมของ Tag Heuer Monaco ที่เปิดตัวในปี 1969 ซึ่งสมัยนั้นยังเป็น Heuer อยู่

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

3.ภาพสุดคลาสสิคของ McQueen

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

First Edition 1969-1979
Ref. CAW211V.FC6466
จำนวนการผลิต : 169 เรือน
เปิดตัวเป็นครั้งแรกในการแข่งขัน F1 รายการ Monaco Grand Prix เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา และในปีนี้การแข่งขันรายการนี้ถือเป็นครั้งที่ 77 แล้วสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งใน F1 ยุคใหม่ แต่ถ้านับการเป็นสนามสำหรับใช้ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตแล้ว ถือเป็นปีที่ 90 เพราะการแข่งขันที่ Monaco เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 1929

Tag-First-Edition-1969-1979-

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

Limited Edition รุ่นแรกของ Tag Heuer Monaco 1969-2019 50th Anniversary Edition มากับหน้าปัดสีเขียวขี้ม้า พร้อมกับการขัดลายในแบบ Cote de Geneva ในแนวตั้ง ซึ่งตามปกติแล้วเราจะพบกับการขัดลายแบบนี้กับชิ้นส่วนของกลไกมากกว่า ตัวเรือนผลิตจาก Stainless Steel และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มิลลิเมตร ฝาหลังแบบทึบใช้น็อตยึดและมีการสลัก 2 จุดที่ใช้ในการพิจารณาความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ นั่นคือ การระบุเรือนที่เป็นตัวแทนของทศวรรษแรก คือ 1969-1979 และอีกจุดคือการสลักคำว่า One of 169

กลไกเป็น Caliber 11 ที่ใช้พื้นฐาน Sellita SW300 พ่วงด้วยโมดูลจับเวลาของ Dubois Dépraz เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง

Second Edition 1979-1989
Ref. CAW211W.FC6467
จำนวนการผลิต : 169 เรือน

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

การเปิดตัวภาพยนตร์ Le Mans ในปี 1970 และภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกันกับแวดวงความเร็วผ่านทางภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้วันที่ 15 มิถุนายนหรือเกือบๆ 1 เดือนหลังจากการเปิดตัว First Edition ออกมา ทาง Tag Heuer เผยโฉมเวอร์ชันที่ 2 ของ Monaco ออกมา เพื่อเป็นตัวแทนของปี 1979-1989 โดยหันมาใช้หน้าปัดสีแดงเพลิงแบบซันเรย์ที่มีความสวยงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามการตกกระทบของแสง ขณะที่วงจับเวลาย่อยมากับสีขาว รับกับสายหนังสีดำอย่างลงตัว โดยรายละเอียดทั้งหมดของตัวนาฬิกาจะอ้างอิงเหมือนกับรุ่นแรก เช่นเดียวกับตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตรแบบเม็ดมะยมซ้าย ขณะที่ปุ่มจับเวลายังอยู่ฝั่งขวาเหมือนกับนาฬิกาทั่วไป และกลไกก็เป็นรหัส Caliber 11 ที่สำรองพลังงานได้ 40 ชั่วโมง

Third Edition 1989-1999
Ref. CAW211X.FC6468
จำนวนการผลิต : 169 เรือน
ขณะที่ 2 รุ่นแรกเลือกการเปิดตัวในงานแข่งอย่าง Monaco GP และ Le Mans  สำหรับรุ่นที่ 3 แยกมาจัดงานเปิดตัวต่างหากที่นิวยอร์ก และมีแขกรับเชิญที่อยู่ในแวดวงความเร็ว เช่น Jean-Eric Vergne แชมป์โลก Formula E และ Patrick Dempsey ดาราที่หันตัวมาเป็นนักแข่งรถ

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco

สำหรับรุ่นที่ 3 มากับความโดดเด่นแบบเรียบๆ ของหน้าปัดโทนสีเทา-น้ำเงิน พร้อมการยิงทรายแบบ Sandblasted Rhodium-Plate ตัดกับเข็มสีแดงอย่างลงตัว สำหรับสิ่งที่ต่างออกไปจากรุ่นอื่นๆ คือ ด้านหลังจะมีการสลักช่วงทศวรรษที่นาฬิกาเรือนนี้เป็นตัวแทน นั่นคือ 1989-1999 ส่วนจำนวนการผลิตจะยังถูกแทนที่ด้วยคำว่า One of 169 เหมือนกับทุกเรือน และใช้กลไก Caliber 11 เหมือนเดิม

Fourth Edition 1999-2009
Ref. CAW211Y.FC6469
จำนวนการผลิต : 169 เรือน

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco

เปิดตัวที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 25 กันยายน และหันกลับมาเน้นความคลาสสิคในสไตล์ แดง-ดำ และขาว ที่เป็น 3 สีหลักของการตกแต่งบนหน้าปัดในสไตล์ Reverse Panda และชุดเข็ม เข้าชุดกับสายหนังสีดำเดินด้วยด้ายสีขาว ส่วนด้านหลังของรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนมาสลักคำว่า 1999-2009 โดยมีการผลิตจำนวน 169 เรือนเหมือนเดิม

Final Edition 2009-2019
Ref. CAW211Z.FC6470
จำนวนการผลิต : 169 เรือน

Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco
Tag Heuer Monaco Tag Heuer Monaco

รุ่นปิดท้ายของคอลเล็กชั่นนี้ และยังเน้นความเรียบง่ายเหมือนกับรุ่นที่ 4 โดยหน้าปัดแบบซันเรย์ออกโทนสีเทาดำ หรือ Charoal Sunray Dial และให้ความสวยงามไปตามแสงที่ตกกระทบ พร้อมกับตัดความสวยด้วยเข็มสีแดงสำหรับใช้ในระบบจับเวลา ทั้งเข็มวินาที ด้านหลังของรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนมาสลักคำว่า 2009-2019 โดยกลไกยังเป็น เป็น Caliber 11 ที่ใช้พื้นฐาน Sellita SW300 พ่วงด้วยโมดูลจับเวลาของ Dubois Dépraz เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สำรองพลังงาน 40 ชั่วโมง