Seiko Presage 2020 หวนระลึกจุดกำเนิดเจ้าภาพกีฬา Olympic

0

ย้อนสู่ความสำเร็จของนาฬิกาจับเวลารุ่น Crown Chronograph กับรุ่นใหม่อย่าง Seiko Presage 2020 ที่มีจำหน่ายด้วยกัน 3 ทางเลือกคือ SARX069 SARX 071 และ SARX073 โดยผลิตจำกัดรุ่นละ 1,964 เรือน

- Advertisement -

Seiko Presage 2020

Seiko Presage 2020 หวนระลึกจุดกำเนิดเจ้าภาพกีฬา Olympic

  • ย้อนยุคความโด่งดังของนาฬิกาจับเวลา Crown Chronograph ที่เปิดตัวในทศวรรษที่ 1960

  • มีจำหน่ายหน้าปัด 3 สีกับตัวเรือนขนาด 41.3 มิลลิเมตร

  • ใช้กลไก 6R35 เหมือนกับ Sumo และมีราคาเท่ากันทั้ง 3 รุ่นที่ 83,000 เยน ผลิตจำกัด 1,964 เรือน

จากนาฬิการุ่นดังอย่าง Crown Chronograph ที่ถือว่าเป็นนาฬิกาเรือนแรกของ ไซโก้ (Seiko) ที่มาพร้อมกับระบบจับเวลา Chronograph ที่เปิดตัวในปี 1964 ถึงตอนนี้ Seiko ชวนทุกคนหวนระลึกกลับปสู่ความยิ่งใหญ่ของนาฬิการุ่นนี้ด้วยเวอร์ชัน RE-Issue ที่อยู่ในคอลเล็กชั่น Presage กับรุ่น Seiko Presage 2020ที่มีจำหน่ายด้วยกัน 3 ทางเลือกคือ SARX069 SARX 071 และ SARX073

Seiko Presage 2020 Seiko Presage 2020 Seiko Presage 2020

สำหรับนาฬิกา Crown Chronograph ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการจับเวลา และถูกนำไปใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 1964 ที่ตอนนั้นญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ดังนั้นในเมื่อเหตุการณ์นี้หวนกลับคืนสู่เมืองโตเกียวอีกครั้งกับการเป็นเจ้าภาพ ก็เลยเป็นช่วงเวลาอันดีที่จะมีการผลิตเวอร์ชันพิเศษออกมา โดยจะมีจำหน่ายด้วยกันในช่วงแรก 3 รุ่นและเป็น Limited Edition ทั้งหมด โดยจะมีการผลิตสีละ 1,964 เรือนตามปีของการจัดการแข่งขันในช่วงเวลาของการก่อกำเนิดการเป็นเจ้าภาพ

Seiko Presage 2020 Seiko Presage 2020

Seiko Presage 2020

สำหรับรุ่นใหม่จะมากับตัวเรือนขนาด 41.3 มิลลิเมตร Lug to Lug 48.3 มิลลิเมตร และหนา 11.31 มิลลิเมตร โดยก่อนหน้านี้ Seiko ก็ฉลอง 55 ปีของนาฬิการุ่น Crown Chronograph มีรอบหนึ่งแล้วกับ Presage Chronograph SRQ031J1 ส่วนรุ่นนี้ทำสอดรับกับหน้าตาและสไตล์เหมือนกับรุ่นดั้งเดิม แต่แตกต่างตรงที่ไม่ได้เป็นนาฬิกาจับเวลาเหมือนกับตัวต้นฉบับ ที่เป็นแบบ Chronograph แบบปุ่มเดียว

Seiko Presage 2020 Seiko Presage 2020 Seiko Presage 2020

รุ่นที่จำหน่ายจะมี 3 สีหน้าปัดคือ SARX069 สีแชมปเปญคล้ายกับตัวแรก ตามด้วยสีเขียว SARX 071 และ สีดำ SARX073 ทุกรุ่นจะใช้กลไก 6R35 ที่เปิดตัวครั้งแรกกับ Sumo Gen2 โดยมีกำลังสำรอง 70 ชั่วโมง และมีความเที่ยงตรงในระดับ +25 ถึง -15 วินาที

เปิดตัวออกมาแล้วกับราคา 83,000 เยน หรือ 23,000 บาท