Seiko Diver Kinetic GMT SUN065 สวยสะดุดตาในสไตล์ PADI

0

ตอนที่ Seiko เปิดตัว PADI Collection ออกมาครั้งแรก เจ้านี่กับเต่า Re-Issue คือ ตัวที่ผมมองเอาไว้ แต่สุดท้ายก็ปลงใจเอากับ Seiko Diver Kinetic GMT อย่าง SUN065 เพราะความสวยของมัน

Seiko Diver Kinetic GMT SUN065 สวยสะดุดตาในสไตล์ PADI
Seiko Diver Kinetic GMT SUN065 สวยสะดุดตาในสไตล์ PADI

Seiko Diver Kinetic GMT SUN065 สวยสะดุดตาในสไตล์ PADI

- Advertisement -

ตอนที่ Seiko เปิดตัว  PADI รุ่นแรกออกมา ผมเชื่อว่าต่อมการพยายามมองหาว่ามันจะกลายเป็นดาวรุ่งสำหรับทำเงินในอนาคตได้หรือไม่ของหลายคนเริ่มทำงาน และนั่นทำให้หลายคนต้องอยู่ในสภาพของการติดดอยเพราะคาดการณ์ผิด ซึ่ง PADI แทบไม่ได้กลายเป็น Rare Item เหมือนกับ Giugiaro Collection แต่นั่นเป็นมุมมองของนักเก็งกำไร แต่สำหรับในมุมของนักสะสม Seiko ต้องบอกว่านี่คืออีกคอลเล็กชั่นที่ดูแล้วสวยลงตัวอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่นที่อางอิงพื้นฐานของ Seiko Diver Kinetic GMT อย่าง SUN065

ถ้าอ่านงานรีวิวของผมจะพบว่าตัวเองเคยเล่าความประทับใจ และการผ่านเข้าผ่านออกของนาฬิกาในตระกูล Diver Kinetic GMT มาหลายครั้ง ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นนาฬิกาที่ผมค่อนข้างชอบในแง่ของหน้าตา และขนาดที่ค่อนข้างสะใจคนที่ข้อมือใหญ่ในระดับ 7 นิ้ว (ถ้าต่ำกว่านี้ผมไม่แนะนำ) และในเมื่อได้เห็นหน้าตาของเจ้า PADI ที่ใช้พื้นฐานของนาฬิการุ่นนี้ บอกเลยว่า งานนี้ต้องมีการสลับเข้าออกกันอีกครั้ง เพราะแม้ว่าจะชอบ แต่ก็ไม่ได้โปรดปรานถึงขนาดจะต้องมีแบบเดียวกันแต่ต่างสีอยู่ในกรุถึง 2 เรือน

จริงๆ แล้วผมได้เจ้า PADI นี้มานานแล้ว ประมาณปลายปี 2016 หรือช่วงที่กระแส PADI กำลังเริ่มขึ้น และหลายคนเริ่มเก็งกำไรว่ามันจะคือดาวรุ่งดวงใหม่ในตลาด แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ราคาก็ไม่ได้ขยับอย่างที่หลายคนหวัง และทำเอาคนที่ตามในช่วงแรกๆ ถึงกับติดดอยด้วยซ้ำ เพราะถ้าจำไม่ผิดราคาของ ‘ว่าที่’ ดาวรุ่งอย่าง Turtle Re-Issue PADI ในรหัส SRPA21 เคยขึ้นถึงเฉียด 20,000 บาท แต่ในปัจจุบัน แค่คุณกำเงิน 13-14K ก็สามารถหาของใหม่ได้แล้ว

ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และบรรดา  PADI Collection ที่ออกมาในรุ่นหลังๆ แบบ Limited Edition อย่าง Sumo หรือ MarineMaster 300m Quartz ก็ไม่ได้ดังหรือของหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็วอย่างที่คิด และยังสามารถหาของใหม่ในกลุ่ม Facebook ได้ในราคาที่ไม่ได้สูงกว่าราคาป้ายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้สนใจกับเรื่องของการเก็งกำไรอะไรทำนองนี้อยู่แล้ว เรียกว่ามีนิสัยค่อนข้างเสียในมุมของการเป็นพ่อค้า เพราะมักจะชอบอะไรที่มันสวนกระแส และเอาความชอบของตัวเองเป็นที่ตั้งเสมอ ซึ่งอย่าง Diver Kinetic GMT PADI ก็ไม่ได้มีความนิยมในตลาดเท่าที่ควร อาจจะเพราะเป็นนาฬิกาแบบ Kinetic ที่เหมือนกับนาฬิกาควอตซ์ แต่มีโรเตอร์เหวี่ยงสำหรับสะสมพลังงานเพื่อเก็บไฟฟ้าเข้าในตัวเก็บประจุ และที่สำคัญ ราคาค่อนข้างแพงกว่านาฬิกาอัตโนมัติด้วยซ้ำ

แต่ถ้าชอบก็อย่าได้หวั่น…ผมมักจะบอกตัวเองอย่างนี้เสมอ 5555

จริงๆ แล้วในบรรดา PADI ทั้งหมด แม้แต่ Sumo และ MarineMaster 300m Quartz ผมว่าเจ้า Diver Kinetic GMT PADI นี่แหละที่หน้าตาดูสวยและลงตัวมากที่สุด ส่วนหนึ่งที่ชอบอาจจะเป็นเพราะทาง Seiko เลือกใช้โทนสีน้ำเงินเข้มแทนที่จะเป็นสีน้ำเงินสว่างๆ แบบสะท้อนแสงเหมือนกับนาฬิการุ่นอื่นๆ ในคอลเล็กชั่นนี้ และเมื่อตัดกับสีแดง ซึ่งถูกนำมาใช้กับเข็ม GMT และสายยางสีดำแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่า ถูกใจอย่างมาก

และสารภาพเลยว่า หลังจากที่ได้มาและผมพยายามลองเปลี่ยนสายหนังที่อยู่ในกรุหลายเส้น สุดท้ายแล้ว ก็ได้คำตอบว่า ‘ไม่ต้องพยายาม’ ผมว่าสายเดิมที่ติดมาจากโรงงานนี่แหละ คือ เนื้อคู่ที่ดูดีและเข้ากันในเชิงภาพรวมของตัวนาฬิกามากที่สุด

เจ้ายักษ์นี่มากับตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางระดับ 47.5 มิลลิเมตร และหนาถึง 15 มิลลิเมตร ดังนั้นสิ่งที่ผมจะต้องขอเตือนก่อนสำหรับคนที่ชอปปิ้งออนไลน์คือ ถ้าข้อไม่ใหญ่อย่าเสี่ยง เพราะขนาดผมข้อมือไซส์ 7 นิ้ว เวลาขึ้นข้อแล้วยังออกแนวกางๆ เลย ซึ่งประเด็นหนึ่งอาจจะเป็นเพราะรูปทรงของสายยางที่มีการออกแบบให้มีข้อย่นและบวมออก ส่วนใครที่ชอบนาฬิกาไซส์อยู่แล้วก็จัดได้เลย

อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่า ผมค่อนข้างชอบตัวนาฬิกาและภาพรวมของการให้สีใน PADI คอลเล็กชั่นนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะประทับใจไปทั้งหมดในส่วนของนาฬิการุ่นนี้ และเจ้ากลไก 5M85 ก็ยังเป็นอะไรที่กวนใจผมเวลาใช้งานอยู่เสมอ โดยเฉพาะพวกที่มีนาฬิกาอยู่ในกรุหลายเรือนแล้วต้องวนกันใส่

นาฬิกา Kinetic ก็เหมือนกับนาฬิกาควอตซ์ในตระกูลกินแสง ที่คุณจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องของการเติมพลังงานเข้ามาอยู่ในตัวเก็บประจุหรือแบตเตอรี่เพื่อไม่ให้กระแสไฟฟ้าเกลี้ยงถังจนนำไปสู่อาการเสื่อมในที่สุด ดังนั้น บ่อยครั้ง ผมต้องเอาออกมาเขย่า หรือใส่แล้วกับขยับข้อมืออยู่บ่อยๆ เพื่อให้มีการชาร์จเกิดขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหลายคนที่มีนาฬิกาสไตล์นี้อยู่ในกรุน่าจะต้องทำแบบนี้ หรือไม่ก็ไปที่เคาน์เตอร์ Seiko แล้วขอใช้บริการเครื่องชาร์จพลังก็ได้ ซึ่งพนักงานขายที่คุ้นเคยใน The Mall บางกะปิก็บอกว่าให้เอานาฬิกามาทิ้งไว้หากต้องการชาร์จพลังงาน เพราะที่นี่มีเครื่องให้บริการอยู่

ส่วนปัญหากวนใจที่ 2 คือ ผมไม่ชอบเลยกับการปรับเข็ม GMT และ Date ในสไตล์ Seiko ที่ไม่สามารถปรับได้อย่างอิสระเหมือนกับนาฬิกา GMT แบบอื่นๆ เพราะสิ่งที่ผมจะต้องเจอ 2 อย่างคือ อย่างแรก ต้องปรับวันที่ในเดือนที่มีแค่ 30 วัน ซึ่งการปรับวันที่ของกลไกนี้คุณต้องหมุนเข็ม GMT วน 2 รอบเพื่อให้ครบ 1 วัน แล้วลองคิดดูว่า ในกรณีที่คุณดันลืมไว้ในกล่องจนแบตเตอรี่ไม่มีไฟ แล้วต้องมานั่งตั้งเวลาและวันที่ใหม่แบบว่าวันนี้วันที่ 29 แต่วันที่บนนาฬิกาก่อนแบตเตอรี่หมดอยู่ที่วันที่ 13  มันเป็นอะไรที่ทรมานโคตรๆ เลย แล้วก็ไม่กล้าหมุนเร็ว เพราะกลัวเข็ม GMT จะกระเด็นหลุดออกมา

และอย่างที่ 2 คือ การหมุนตั้งเวลา เรียกว่าเกือบทุกครั้งผมต้องเปิดไฟล์แมนนวลของกลไกนี้ที่ดาวน์โหลดมาเก็บใน iPad เพื่ออ่านวิธีการตั้งอยู่เสมอ ก็ไม่ใช่ว่านี่คือเรือนแรกของตัวเองนะ ผ่านมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยจำได้สักที แล้วลองคิดว่าถ้าผมต้องเดินทางไปโน่นมานี่เหมือนกับสมัยก่อนบ่อยๆ และต้องใช้ฟังก์ชั่น GMT อยู่เสมอๆ งานนี้ได้หมุนกันเพลินเลย

ในแง่ของการได้รับความนิยมในกลุ่มของคนเล่นนาฬิกานั้น แม้จะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็มีแบบพอประมาณสำหรับคนที่บ้าควักเงินในระดับหมื่นค่อนมาทางปลายๆ หลังหักส่วนลดแล้วเพื่อแลกกับนาฬิกา Kinetic  ที่เข็มวินาทีเดินแบบกระตุกๆ เหมือนควอตซ์ และต้องการดูแลรักษาระดับหนึ่ง ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ้าถามว่าชอบไหม บอกได้เลยว่าชอบมาก และเป็นนาฬิกาที่เรียกแขกให้กับผมได้มากพอๆ กับเจ้า Tuna เลย เพราะส่วนใหญ่จะชอบเข้ามาถามว่ามันคือนาฬิกาอะไร ทำไมถึงใหญ่จัง

จะเสียดายอย่างเดียวและแอบเซ็งเสมอก็ตรงที่ ทั้งหมดที่เข้ามาถามดันเป็นผู้ชายซะนี่ ไม่มีสาวๆ เลย

คุณสมบัติของ : Seiko Diver Kinetic GMT SUN065

  • ส้นผ่านศูนย์กลาง : 47.5 มิลลิเมตร (ไม่รวมเม็ดมะยม)
  • ความหนา : 15 มิลลิเมตร
  • Lug-to-Lug : 52 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 154 กรัม
  • ความกว้างขาสาย : 24 มิลลิเมตร
  • กันน้ำ : 200 เมตร
  • กระจก : Sapphire แบบ Double พร้อม Anti-Reflective Coating
  • กลไก : 5M85 Kinetic
  • จุดเด่น : เพียบด้วยฟังก์ชั่น และใส่สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาตั้ง หน้าตาสวย
  • จุดด้อย : เรือนใหญ่ หนา อาจไม่เหมาะกับคนข้อมือต่ำกว่า 7 นิ้ว ราคาที่อาจจะแพงไปหน่อย และฟังก์ชั่นการตั้งเวลาของ GMT ที่ดูยุ่งยาก