การเปิดตัวด้วยตัวเรือนที่ดูแล้วน่าจะใช้ร่วมกับ SKX ของ Seiko 5 Sports 2019 มันทำให้เกิดข้อสงสัยในวงกว้างว่า สุดท้ายแล้วนี่คือ ตัวแทนของ SKX หรือไม่ คำตอบของเรามีให้แล้ว และคิดว่า ‘ไม่ใช่’ อย่างแน่นอน ส่วนจะเพราะอะไรต้องตามอ่านจากด้านล่าง
Seiko 5 Sports 2019 ไขข้อข้อใจ ตัวแทน SKX จริงหรือ ?
เรียกว่าสัปดาห์นี้ ข่าวฮ็อตในแวดวงนาฬิกาคือ การเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่พร้อมกับการปรับภาพลักษณ์ของรุ่น Seiko 5 Sports ที่มีการพลิกแนวคิดและมีการนำเสนอคอนเซ็ปต์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมชนิดที่ชวนให้นึกถึงตอนที่ Seiko เปิดตัวรุ่น Street Series เมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เชื่อว่าน่าจะคาใจบรรดาแฟนๆ Seiko ทั่วโลก คือ สุดท้ายแล้วมันคือ ตัวแทนของ SKX จริงหรือ ?
Seiko ไม่ได้บอกในเอกสาร และข่าวการ Discontinued ของ SKX ก็มีมาให้ได้ยินตลอด จนเรียกว่า ‘เอือม’ เหมือนตอนที่ Sumo มีข่าวในทำนองนี้ สุดท้ายกว่าจะเลิกผลิตก็โน่นอีกเกือบ 10 ปีต่อมา แต่ด้วยเหตุที่ตัวเรือนของ Seiko 5 Sport 2019 มีความคล้ายคลึงกับ SKX (และเราคิดว่าน่าจะใช้บอดี้เดียวกันนั่นแหละเพราะขนาด Diameter ตัวเรือนใกล้เคียงกันที่ 41.5 มิลลิเมตร) แถมหน้าตายังถูกออกแบบให้มาในแนว Diver อย่างเต็มที่
จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนจะเชื่อว่า มันคือตัวแทน SKX แต่เราคิดว่า ‘ไม่ใช่’ และแน่นอนว่า ไม่ได้กล่าวลอยๆ แต่พยายามหาเหตุผลและชักแม่น้ำทั้ง 5 มาสนับสนุนเหตุผลของตัวเองอย่างเต็มที่
ข้อแรก Seiko 5 Sports ไม่ใช่นาฬิกาดำน้ำเหมือนกับ SKX : อย่าลืมว่า SKX คือตัวแทนที่สืบทอดตำนานของนาฬิกาดำน้ำของ Seiko ที่มีความเป็นมากกว่า 50 ปี และพกคำว่า Diver’s 200M มาโชว์หราอยู่บนหน้าปัด และเมื่อพลิกด้านหลังก็จะเจอสัญลักษณ์ที่ยืนยันการเป็นนาฬิกาอย่างโลโก้เกลียวคลื่น (ที่ประจำอยู่ในนาฬิกาดำน้ำทุกรุ่นของ Seiko) แต่เมื่อดูสเป็กของ Seiko 5 Sports 2019 ที่มีการเปิดเผยออกมาแล้ว นาฬิการุ่นนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับการเป็นนาฬิกาดำน้ำเลย มีความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร แถมฝาหลังก็มีการยืนยันแล้วว่าเป็นแบบโปร่งใสเห็นกลไก ไม่มีสัญลักษณ์อันอมตะของ Seiko Diver เลย ดังนั้น นี่คือ หลักฐานในเชิงเทคนิคที่เราคิดว่า ทั้ง 2 รุ่นไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันในแง่ของการเป็นตัวแทน
ข้อที่ 2 SKX ไม่ได้อยู่ในคอลเล็กชั่น 5 Sports แต่ถือเป็นนาฬิกาในกลุ่ม Prospex มากกว่า : หลายคนอาจจะคิดว่าการใช้กลไก 7S26 แล้วจะต้องเป็นนาฬิกาที่อยู่ในกลุ่ม 5 Sports บอกเลยว่า ตรรกะนี้ไม่น่าจะใช่ เพราะอย่างน้อย Monster รุ่นแรกก็ใช้กลไกนี้และไม่ได้อยู่ในกลุ่ม 5 Sports เช่นเดียวกัน ซึ่งยืนยันได้จากการไม่มีโลโก้ 5 บนหน้าปัด การเปิดตัว 5 Sports 2019 ของ Seiko คือ การรีแบรนด์และสร้างฐานลูกค้าวัยรุ่น เพราะในหน้าเว็บอย่างเป็นทางการ ตอนนี้มีการเติมชื่อ 5 Sports ลงไปในเมนูแล้ว โดยจะเป็นหนึ่งในคอลเล็กชั่นหลักของแบรนด์ เช่นเดียวกับ Prospex Presage Astron ฯลฯ ขณะเดียวกัน เชื่อขนมกินได้เลยว่า ถ้า SKX จะมีรุ่นใหม่ออกมาแทน มันน่าจะถูกจับเข้ามารวมอยู่ในกลุ่มของ Prospex Sea มากกว่า
ข้อที่ 3 มันก็แค่กลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ : ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถ้าคุณติดตามความเคลื่อนไหวของการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ๆ ของ Seiko น่าจะสังเกตได้ว่าแบรนด์นี้ชอบจับโน่นจับนี่เอามาผสมกันเพื่อสร้างเป็นนาฬิการุ่นใหม่ขึ้นมา ความหมายที่เรากำลังจะบอกคือ Seiko มักจะชอบเอาชิ้นส่วนหรือพาร์ทของนาฬิการุ่นต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว มาสร้างเป็นรุ่นใหม่ หรือไม่ก็เป็นรุ่น Special หรือ Limited Edition เหมือนกับ Seiko Zimbe 9 ที่มีการใช้พาร์ทของ Sumo 50th Anniversary มาอยู่ในตัวเรือนของ Samurai ที่ถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐาน และ Seiko 5 Sports ก็ต้องมาดูแลตัวเอง
ดังนั้น เราเข้าใจว่า การรีแบรนด์ของ Seiko 5Sports ก็คือ การนำของที่มีอยู่แล้วมาสร้างความแตกต่าง และพวกเขาเลือกรูปทรงและดีไซน์ของ SKX มาเป็นแบบเพราะความคลาสสิคและมีเอกลักษณ์ ซึ่งถ้าทำอย่างนี้ เราขอ ‘เดา’ ต่อไปว่า โฉมใหม่ของ SKX น่าจะมีตามออกมาแน่ และคิดว่าอาจจะเป็นงานดีไซน์ใหม่หมดเลย เพราะทิ้งตัวเรือนนี้เอาไว้ให้กับ Seiko 5 Sports แล้ว
แค่ยืมบอดี้มาใช้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นตัวแทนเสมอไป
ข้อ 4 แนวคิดในทางการตลาดที่หวังเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ : อย่างที่เกริ่นไป งานนี้ Seiko เล่นหนัก ในการรีแบรนด์ 5 Sports อีกครั้ง และในเว็บไซต์เองตรงแถบเมนูก็มีการแยกคอลเล็กชั่นนี้ออกมาต่างหาก ซึ่งเมื่อดูจากภาพที่พวกเขาพยายามาสื่อออกมาแล้ว จะเห็นว่า 5 Sports มีคอนเซ็ปต์ของการเป็นนาฬิกาที่จับต้องได้ และมีรูปลักษณ์ที่สวยสะดุดตากับกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะระดับไหนก็ตาม ไม่เชยๆ หรือโบราณเหมือนกับ 5 Sports ที่เราคุ้นเคยอยู่ในตลาด เพื่อเป็นการปูรากฐานในการเป็นลูกค้าของ Seiko ต่อไป
นี่คือ เหตุผลที่ทำให้เราเชื่อว่า Seiko 5 Sports 2019 กับ SKX ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันเลย แม้ว่าจะมีส่วนคล้ายของหน้าตาและรูปลักษณ์ ดีไม่ดีอาจจะเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Monster และ Mini Monster ก็ได้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline