Rolf Studer Co-CEO ของ ORIS กับบทสัมภาษณ์ที่จะมาเล่าถึงเรื่องราวของ Hölstein Edition 2025 ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นทื่ 6 ของคอลเล็กชั่นนี้นับจากเปิดตัวในปี 2020 พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงในเชิงแบรนด์ดิ้ง ซึ่ง ORIS Bear ยังคงอยู่ แต่ทว่าไม่เหมือนกับที่ผ่านมา
เบื้องหลังความงาม ORIS Hölstein Edition 2025 กับ Rolf Studer
Rolf Studer Co-CEO ของ ORIS ได้เล่าถึงความพิเศษของ Hölstein Edition รุ่นที่หก และเหตุผลว่าทำไม Oris Bear จึงช่วยให้เขามองเห็นในความมืดได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สุดพิเศษของ Hölstein Edition ใหม่รุ่นนี้
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
Q : ตอนนี้ ORIS มีประวัติยาวนานกว่า 120 ปีแล้ว ทุกวันนี้คุณพูดถึงจิตวิญญาณของแบรนด์อยู่บ่อยครั้ง อยากทราบว่าจิตวิญญาณนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใดตลอดหลายปีที่ผ่านมา?
Rolf : ผมอยากจะบอกว่าจิตวิญญาณของ ORIS ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่พูดตามตรง ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 1904 ผมก็คงไม่สามารถยืนยันได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่สิ่งที่ผมรู้แน่ๆคือ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ตอนที่ผู้ก่อตั้งของเรามาถึงที่นี่ ชุมชนท้องถิ่นยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในแบบฉบับชาวสวิสดั้งเดิม แล้วอยู่ๆ ก็มีบริษัทแห่งหนึ่งที่ผลิตสินค้าที่ถูกส่งออกไปทั่วโลกถือกำเนิดขึ้น สิ่งนี้ได้เปิดโลกให้กับผู้คนในพื้นที่ และนำมุมมองระดับสากลเข้ามา มอบความรู้สึกถึงความเป็นไปได้ อิสรภาพ และความทะเยอทะยานให้กับผู้คนที่นี่ จนถึงทุกวันนี้ แม้ ORIS จะยังคงเป็นบริษัทอิสระ เราก็ยังรักษาจิตวิญญาณนั้นไว้ Hölstein ยังคงเป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบและเปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม แต่ใจกลางของหมู่บ้านแห่งนี้คือที่ตั้งของ ORIS ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ระดับโลกของการผลิตนาฬิกาจักรกลคุณภาพ ความภาคภูมิใจนี้สามารถสัมผัสได้ทั้งภายในโรงงานของเราและทั่วทั้งหมู่บ้าน และนั่นคือเหตุผลที่แคมเปญแบรนด์ดิ้งใหม่ของเรานำเสนอด้วยข้อความว่า ‘Welcome to Hölstein’
Q : ในขณะเดียวกัน เหตุผลในการผลิตและเป็นเจ้าของนาฬิกาจักรกลก็เปลี่ยนไป เพราะทุกวันนี้เรามีทางเลือกมากมายในการดูเวลา
Rolf : แน่นอนว่า แม้หน้าที่หลักของเรายังคงเป็นการผลิตนาฬิกาที่สวยงาม มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้ แต่เราต้องทำให้นาฬิกาเหล่านั้นยังคงมีความหมายในโลกปัจจุบัน เพราะสิ่งที่เราผลิตคือสินค้าที่คุณอาจอยากได้แต่ไม่ได้จำเป็นต้องมี มันคือความหรูหรา แล้วสิ่งที่เรามอบให้คืออะไร? คำตอบนั้นเรียบง่าย นั่นคือความสุข เราอยู่ที่นี่เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คน
Q : แนวคิดนี้สะท้อนออกมาในรุ่น Hölstein Edition 2025 อย่างไร?
Rolf : จริงๆแล้ว นาฬิกาซีรีส์นี้อาจเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของแนวทางการผลิตนาฬิกาของเรา แน่นอนว่า นาฬิกาเหล่านี้คือนวัตกรรมจักรกลที่ใช้บอกเวลา แต่แนวคิดเบื้องหลังคือการทำสิ่งที่เราไม่ได้ทำกันตามปกติ เป็นนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับผู้ที่รัก ORIS อย่างแท้จริง และแค่ได้มองดูนาฬิกาเรือนนี้ก็รู้สึกสนุก อบอุ่นใจ และเข้าใจความตั้งใจของเราโดยไม่ต้องอธิบายใดๆ เราอยากให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับนาฬิกา ORIS ทุกเรือน แต่ใน Hölstein Edition แนวคิดนี้ถูกกลั่นออกมาอย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขทางการค้า และอาจไม่มีอยู่ในคอลเลกชั่นหลักของเรา
Q : คุณเคยกล่าวไว้ว่า Hölstein Edition เปรียบเสมือนของขวัญจาก ORIS ที่ตั้งใจมอบให้กับ ORIS fans…
Rolf : แน่นอนครับ มันคือของขวัญจากเรา เป็นสัญลักษณ์แทนความขอบคุณที่เรามีต่อคอมมูนิตี้ของ ORIS ทุกอิดิชั่นจะมีลูกเล่นเล็กๆน้อยๆ และมีความพิเศษมากกว่ารุ่นมาตรฐาน อีกทั้งยังผลิตจำกัดเพียง 250 เรือนเท่านั้น พูดตามตรง เวลาที่เราทุ่มเทให้กับนาฬิการุ่นเหล่านี้ แทบจะไม่สอดคล้องกับผลตอบแทนในเชิงธุรกิจเลย แต่เราก็ยินดีทำ เพราะแม้ว่า Hölstein Edition แต่ละเรือนจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความสุข แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เราให้ความสำคัญกับการผลิตนาฬิกาอย่างจริงจัง และให้คุณค่ากับลูกค้าของเราอย่างแท้จริง
Q : การนำ ORIS Bear มาใช้ โดยเฉพาะในปีนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงแนวคิดนั้นอย่างชัดเจนใช่หรือไม่?
Rolf : ผมคิดอย่างนั้นครับ หมีเป็นคาแรกเตอร์ที่ใครๆก็สามารถรู้สึกชื่นชอบและเข้าใจได้ในทันที แต่หากจะเข้าใจ ORIS Bear อย่างลึกซึ้งจริงๆ คุณต้องเคยมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ของเรา เคยใช้เวลาอยู่กับเราและนาฬิกาของเรา ORIS Bear คือตัวแทนของความอบอุ่น ความสบายใจ ความเป็นมิตร และความเรียบง่าย ที่บอกเล่าเรื่องราวของเราในระดับอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ปีนี้เราตัดสินใจนำ ORIS Bear มาปรากฏบนหน้าปัดเป็นครั้งแรก แต่จะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในที่มืด และแสงจากสารเรืองแสงเผยให้เห็นเงาซิลูเอตของ ORIS Bear นั่นคือความสนุกเล็กๆที่เราตั้งใจ และอย่างที่เพลโตเคยกล่าวไว้ว่า “เราต้องเห็นแสงสว่างถึงจะเข้าใจ” ผมมั่นใจว่าแฟน ORIS ตัวยงจะต้องชื่นชอบสิ่งนี้อย่างแน่นอน
Q : และในปีนี้ Hölstein Edition ยังคงขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre 400 อีกครั้ง กลไกนี้ถือได้ว่ากลายมาเป็นตัวกำหนดภาพสะท้อนของ ORIS ในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาแล้วหรือยัง?
Rolf : ในบางส่วนก็ใช่ครับ Hölstein Edition ใช้กลไก Calibre 400 นับตั้งแต่ที่เราได้เปิดตัวกลไก ซึ่งเราออกแบบขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของเราว่า กลไกจักรกลออโตเมติกสมัยใหม่ควรเป็นอย่างไร กลไกนี้มอบสิ่งที่มีคุณค่าให้กับผู้บริโภคมากมาย ทั้งพลังงานสำรอง 5 วัน การต้านทานสนามแม่เหล็กระดับสูง การรับประกัน 10 ปี และช่วงเวลาการเข้ารับบริการที่แนะนำ 10 ปี ถือเป็นกลไกที่ยอดเยี่ยม และอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ยังคงนำเสนอนาฬิกาในระดับราคาที่จับต้องได้ ซึ่งใช้กลไกจาก Sellita ด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวเลือกนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเราได้อย่างชัดเจน
Q : และสุดท้าย คุณจะฉลองวันเกิดของ ORIS ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้อย่างไรบ้าง?
Rolf : ในแบบฉบับของ ORIS ครับ เราจะรวมตัวกันกับทีมที่ Hölstein ดื่มเบียร์กันสักเล็กน้อย พร้อมบาร์บีคิว ท่ามกลางบรรยากาศของหุบเขา Waldenburg อันงดงาม มันเป็นช่วงเวลาที่มีเสน่ห์มากๆ ในฤดูร้อนที่นี่
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline