Oris Classic Date เดรสส์วอชท์ 2 ไซส์ ทางเลือก 44 รุ่น

0

งานนี้เรียกว่ามากันแบบสะใจ เพราะ Oris Classic Date เป็นเดรสส์วอชท์ 2 ไซส์ ทางเลือก 44 รุ่นย่อย โดยมีระดับราคาอยู่ระหว่าง 37,000-47,000 บาทโดยประมาณ

Oris Classic Date เดรสส์วอชท์ 2 ไซส์ ทางเลือก 44 รุ่น
Oris Classic Date เดรสส์วอชท์ 2 ไซส์ ทางเลือก 44 รุ่น

Oris Classic Date เดรสส์วอชท์ 2 ไซส์ ทางเลือก 44 รุ่น

  • Oris Classic Date เป็นนาฬิกาแบบเดรสรุ่นใหม่ที่มีให้เลือก 2 ขนาด 28.5 และ 42 มิลลิเมตร
  • ทั้ง 2 รุ่นใช้กลไกต่างกันคือ Oris 561 และ 773
  • 44 รุ่นย่อย คือ สิ่งที่ลูกค้าจะได้สัมผัสกับนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้
- Advertisement -

สำหรับใครที่ชอบนาฬิกาเดรสแบบดูหรู ราคาไม่ทำร้ายกระเป๋ามาก ในตอนนี้ทาง Oris มีการเปิดตัวทางเลือกใหม่ที่ครอบคลุมความต้องการตรงนี้มาแล้ว กับ Oris Class Date ที่บอกได้เลยว่างานนี้ขา Dress Watch ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Oris Classic Date มาพร้อมกับขนาดทั้งชายและหญิง ด้วยตัวเลขเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 และ 28.5 มิลลิเมตรตามลำดับ พร้อมสเป็กและความหรูหราตามมาตรฐานนาฬิกา Swiss Made โดยมาทั้งกลไกที่ผ่านการชัดแต่งอย่างสวยงาม ตัวเรือนที่มีการออกแบบให้ดูสวยและหรูหรา ตามด้วยกระจก Sapphire ทรงโดมแบบเคลือบสารป้องกันการสะท้อนแสงด้านใน

อีกทั้งยังมีทางเลือกของสีหลากหลาย ทั้งตัวเรือนสี Rose Gold หรือตัวเรือนเงินทั้งเรือน และตัวเรือนเงินแต่ขอบ Bezel มากับเคลือบ PVD สี Rose Gold เช่นเดียวกับสีหน้าปัดที่มีให้เลือกทั้งดำ และขาว และลวดลายแบบ Gilloche บน Chapter Ring ขนาดใหญ่ของหน้าปัด ส่วนหน้าปัดวงในเป็นแบบเรียบไม่มีลวดลาย โดยทาง Oris บอกว่าทั้งหมดได้แรงบันดาลใจมากจากบรรยากาศใน Great Court ของ The British Museum ซึ่งที่นี่ได้รับการออกแบบโดย Lord Norman Foster ซึ่งถือเป็นสถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้

บนหน้าปัดของ Oris Classic Date มากับตัวอักษรโรมันในตำแหน่ง 12-3-9 ส่วนตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะเป็นหน้าต่างของการแสดงวันที่ หรือ Date ส่วนขนาดตัวเรือนลดลงจากแบบ 3 ไซส์ คือ 29, 37 และ 42 มิลลิเมตรในรุ่นที่แล้วเหลือเพียงแค่ 2 คือ 28.5 และ 42 มิลลิเมตรเท่านั้น โดยกลไกที่อยู่ใน Oris Classic Date เป็นจะแตกต่างออกไปตามขนาดของตัวเรือน

ในรุ่น 28.5 มิลลิเมตรของ Oris Classic Date ที่มีขาสายกว้าง 14 มิลลิเมตร ใช้กลไก Oris 561 ที่อ้างอิงพื้นฐานจาก ETA 2671 มีทับทิมจำนวน 25 เม็ด เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 Hz และสำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง

สำหรับรุ่น 42 มิลลิเมตรของ Oris Classic Date เป็นรหัส Oris Calibre 773 ที่อ้างอิงพื้นฐานมาจาก Sellita SW200 ซึ่งก็เป็นการต่อยอดพัฒนามาจาก ETA 2824 อีกทีหนึ่ง มีทับทิมจำนวน 26 เม็ด เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 4 Hz และสำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง ส่วนความกว้างขาสายรุ่นนี้อยู่ที่ 20 มิลลิเมตร

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ Oris Classic Date คือ ทางเลือกที่หลากหลาย โดยจะมีขายด้วยกันทั้งหมด 44 รุ่นด้วยกันจาก 2 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ส่วนราคาก็อยุ่ที่ 1,130-1,450 ฟรังก์สวิสส์ หรือ 37,900-47,800 บาท ใครที่สนใจก็เตรียมเงินรอกันได้เลย