หลังจากเปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2014 ในตอนนี้ Big Crown ProPilot นาฬิกานักบินรุ่นใหม่ของ ORIS ได้ถึงเวลาของการปรับเปลี่ยนแปลง โดยมีการปรับตัวเรือนให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบายขึ้นด้วยความหนาที่ลดลง ขณะที่ตัวเรือนมีการขัดแต่งอย่างสวยงาม และมีขนาดเดียวในตอนนี้คือ 41 มิลลิเมตร พร้อม  3 สีหน้าปัดแบบ Earth Tone และขับเคลื่อนด้วยกลไก Oris 733 ที่มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง

ORIS Big Crown ProPilot ปรับโฉมใหม่ (2025): บางลง 11.7 มม. หรูหราในดีไซน์ Earth Tone

• การปรับปรุงครั้งใหม่ทั้งรูปลักษณ์และดีไซน์นับจาก Big Crown ProPilot เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014

• ตัวเรือนมีการปรับใหม่ด้วยเส้นสายและการขัดแต่งที่สวยงามและใส่สบายขึ้น มีจำหน่ายในช่วงแรกกับไซส์ 41 มิลลิเมตร

• เปิดตัว 3 สีหน้าปัดแบบ Earth Tone พร้อมกลไก Oris 733 ที่มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง

ORIS ปรับปรุงนาฬิกานักบิน Big Crown ProPilot ครั้งใหม่ โดยนอกจากจะมีสีสันและลวดลายหน้าปัดใหม่แล้ว ยังมีการปรับปรุงรายละเอียดตัวเรือนเพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่อีกด้วย และเผยโฉมครั้งแรกในงาน Dubai Watch Week 2025

เบื้องหลังนาฬิการุ่นใหม่นี้คือเรื่องราวแห่งนวัตกรรมและจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน นาฬิกานักบินเรือนแรกของ ORIS คือ Big Crown Pointer Date ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1938 และยังคงเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นหลักของแบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน นาฬิการุ่นนี้ได้กลายเป็นไอคอนและพิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเป็นผลงานคลาสสิกเหนือกาลเวลา และเป็นหนึ่งในดีไซน์ที่ทรงคุณค่าที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส
จุดกำเนิดของนาฬิการุ่นนั้นเริ่มต้นขึ้นในยุคบุกเบิกของการบิน เมื่อเหล่านักบินที่กำลังทะยานสู่ท้องฟ้ามาขอให้ ORISสร้างสรรค์เครื่องมือบอกเวลาที่สามารถใช้งานได้ขณะอยู่บนเครื่องบิน

ORIS Big Crown ProPilot เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ปรับปรุงตัวเรือนให้เพรียวบาง (11.7 มม.) และกระชับข้อมือยิ่งขึ้น มาพร้อมหน้าปัด Earth Tone 3 สี และกลไก ORIS 733 ราคาเริ่มต้น 93,900 บาท

ORIS ได้ปรับปรุงนาฬิกานักบินตระกูล Big Crown ProPilot ครั้งสำคัญนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 โดยเน้นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายในการสวมใส่ และยกระดับความประณีตของงานดีไซน์ ตัวเรือนใหม่นี้มีความบางลง เส้นสายเฉียบคมขึ้น และคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เม็ดมะยมขนาดใหญ่ (Big Crown) และขอบหน้าปัดแบบเซาะร่องที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกังหันเครื่องยนต์เจ็ต

รุ่นใหม่นี้เปิดตัวด้วยขนาดเดียวคือ 41 มิลลิเมตร พร้อมสีหน้าปัดโทน Earth Tone ที่สวยงาม และกลไกอัตโนมัติ ORIS 733

หน้าปัดได้รับการปรับโฉมใหม่พร้อมพื้นผิวหน้าปัดแบบเท็กซ์เจอร์ เสริมด้วยดีไซน์วงแหวนหน้าปัดแบบใหม่ และตัวเลขอารบิกแบบนูนที่ผ่านการขัดแต่งอย่างประณีต เข็มนาฬิกาปลายเคลือบสารเรืองแสงก็ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความชัดเจน ความสมดุล และความงดงามในทุกมิติ อีกทั้งยังย้ายช่องหน้าต่างวันที่มาอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา

⚙️ จุดเด่นและการเปลี่ยนแปลงหลัก

• ความบางที่เพิ่มขึ้น: ความหนาของตัวเรือนลดลงจาก 3 มิลลิเมตร เหลือเพียง 11.7 มิลลิเมตร ทำให้สวมใส่ได้สบายและกระชับข้อมือมากขึ้น
• ดีไซน์ใหม่ที่ประณีต: ตัวเรือนมีเส้นสายที่เฉียบคม การขัดแต่งที่สวยงาม และบานพับแบบ LIFT ที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมการขัดแต่งลบมุม
• หน้าปัดใหม่: หน้าปัดพื้นผิวแบบเท็กซ์เจอร์ พร้อมตัวเลขอารบิกแบบนูนที่ผ่านการขัดแต่งอย่างประณีต และย้ายช่องหน้าต่างวันที่ไปที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
• ขนาดคงที่: เปิดตัวด้วยขนาดตัวเรือนเดียวคือ 41 มิลลิเมตร
• กลไกหลัก: กลไกอัตโนมัติ ORIS 733 (พื้นฐาน SW 200-1) กำลังสำรอง 41 ชั่วโมง

3 สีหน้าปัด Earth Tone และรุ่นย่อย

ORIS Big Crown ProPilot รุ่นใหม่นี้เปิดตัว 3 สีหน้าปัดหลัก พร้อม 6 รุ่นย่อย (สายสตีลและสายหนัง) และ 1 รุ่นพิเศษ:

รุ่นพิเศษ (Desert Edition)

• Ref. 01 733 7802 8766-07 4 20 30GLC ซึ่งเป็น Desert Edition ที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง Coulson Aviation บริษัทดับเพลิงทางอากาศชั้นนำของโลก

• จุดเด่น: ตัวเรือนผลิตจากคาร์บอน (Carbon), หน้าปัดสี Sand Beige โดดเด่นด้วยตัวเลขสีดำตัดกันอย่างชัดเจน เข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง

การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติ ORIS 733 ที่มีกำลังสำรอง 41 ชั่วโมง พร้อมฝาหลังแบบใสที่คุณสามารถมองเห็นโรเตอร์แดง เอกลักษณ์ของ ORIS

รายละเอียดทางเทคนิคและราคา

ราคาจำหน่าย

• รุ่นสายหนังกลับ: 93,900 บาท
• รุ่นสายสเตนเลสสตีล: 103,900 บาท
• รุ่น Desert Edition: (ยังไม่เปิดเผยราคาในไทย) ราคาหน้าเว็บ ORIS: 2,850 CHF

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline