หลังจากนำชื่อของ Ultra-Chron กลับสู่ตลาดในปี 2022 พร้อมนาฬิกาสปอร์ตสไตล์ดำน้ำ ในตอนนี้ Longines นำจุดเริ่มต้นของเรือนเวลา Ultra-Chron ที่ก่อกำเนิดครั้งแรกในปี 1967 กลับมาอีกครั้งบนตัวเรือนแบบเดรสส์ ที่มีมีจำหน่าย 2 รุ่น คือ ตัวเรือน 37 และ 40 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดสีเงินแบบซันเรย์ ส่วนกลไกอัตโนมัติเป็นรหัส L836.6 แบบความถี่สูง พร้อมความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer

Longines Ultra-Chon Classic ระลึกอดีตจุดเริ่มต้นกลไกความถี่สูง

• เวอร์ชันใหม่ของ Ultra-Chon ที่มากับตัวเรือนแบบเดรสส์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของนาฬิกากลไกความถี่สูงที่เปิดตัวในปี 1967

• มีจำหน่าย 2 รุ่น คือ ตัวเรือน 37 และ 40 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดสีเงินแบบซันเรย์

• กลไกอัตโนมัติเป็นรหัส 6 แบบความถี่สูง พร้อมความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer

จริงๆ แล้วจุดกำเนิดของนาฬิกาที่มาพร้อมกับกลไกที่เดินด้วยความถี่สูงอย่าง Ultra-Chron ของ Longines ไม่ได้มีแค่กลุ่มของนาฬิกาสปอร์ตเท่านั้น แต่ยังมีนาฬิกาในกลุ่มเดรสส์ด้วยเช่นกัน นั่นจึงเป็นที่มาของนาฬิกาเรือนนี้ Longines Ultra-Chon Classic ที่เน้นความสวยบนความเรียบง่ายโดยที่ซ่อนความเทพของกลไกที่มีความถี่สูงเอาไว้ภายในตัวเรือนที่มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น คือ 37 และ 40 มิลลิเมตร

ในช่วงทศวรรษที่ 1960 Longines และ Girard-Perregaux ต่างเป็นผู้ริเริ่มที่ให้ความสนใจในการผลิตนาฬิกาที่มีความถี่ในระดับ 5Hz หรือ 36,600 ครั้งต่อชั่วโมงที่จะต้องมาพร้อมกับความเที่ยงตรงในระดับสูงเช่นเดียวกับนาฬิกาจับเวลาแบบตั้งโต๊ะที่ใช้กันอยู่ในช่วงนั้น จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งถือเป็นการพลิกโฉมหน้าของการแข่งขันในโลกนาฬิกาข้อมือให้เข้าสู่ในอีกสมรภูมิหนึ่ง และแบรนด์ก็ประสบความสำเร็จ

ในปี 1967 Longines เปิดตัวคอลเล็กชั่น Ultra-Chron ออกมาในวาระของการฉลองครบรอบ 100 ปีในด้านการคิดค้นเชิงนวัตกรรมของแบรนด์ และเผยโฉมเรือนเวลาขนาดตัวเรือน 35 มิลลิเมตรในรหัส Ref.7827 ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 1 ปีหลังจากที่ Longines จดลิขสิทธิ์ชื่อ Ultra-Con

กลไกในรหัสที่วางอยู่ใน Ref.7827 เป็นรหัส 431 แต่ทว่ากลไกความถี่สูงที่เปิดตัวออกมาในช่วงนั้นมีหลายแบบ ซึ่งกลไกในรหัส 43x ออกมา กลไกนี้ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของกลไกรหัส 664X และ 665X ที่เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง พร้อมทับทิมจำนวน 17 เม็ด แต่ถูกอัพเกรดเป็น 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง โดยกลไกของ Longines ที่เปิดตัวในตอนนั้น จะมีด้วยกัน 4 แบบ คือ 430 แบบมีเข็มวินาที 431 มีเข็มวินาที มีช่องวันที่ 432 ไม่มีเข็มวินาที และ 433 ไม่มีเข็มวินาที แต่มีช่องแสดงวันที่ และนำไปสู่การเปิดตัวนาฬิกาเรือนแรกที่ใช้กลไกนี้ในปี 1968

สำหรับการกลับมาของกลไกความถี่สูงนั้น Longines ปัดฝุ่นนำชื่อ Ultra-Chron กลับมาอีกครั้งในปี 2022 โดยอ้างอิงจากนาฬิกาสปอร์ตที่เปิดตัวในปี 1968  จากนั้นจึงถึงคิวของนาฬิกาเดรสส์ที่จะใช้กลไกความถี่สูงรุ่นใหม่ของแบรนด์

จริงๆ แล้วในกลุ่มของนาฬิกาเดรสส์ นอกจาก Ref.7827 ที่เปิดตัวในปี 1967 แล้ว Longines ยังนำกลไกความถี่สูงไปใช้งานตั้งแต่รุ่นปี 1969 ด้วยตัวเรือนแบบจานบิน แต่ทว่าในปี 1970 ก็มีการเปลี่ยนรูปทรงมาเป็นแบบเรือนกลมพร้อมขาสาย

Longines Ultra-Chon Classic เปิดตัวออกมาด้วยดีไซน์ยึดรูปแบบของตัวเรือนทรงกลมของรุ่นดั้งเดิมนั่นคือ Ref.7827 โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่นขนาดตัวเรือนคือ 37 และ 40 มิลลิเมตร พร้อมสายสเตนเลสสตีล หรือสายหนัง

• L2.537.4.72.6 ตัวเรือน 37 มิลลิเมตร สายสตีล
• L2.537.4.72.2 ตัวเรือน 37 มิลลิเมตร สายหนังสีดำ
• L2.937.4.72.6 ตัวเรือน 40 มิลลิเมตร สายสตีล
• L2.937.4.72.2 ตัวเรือน 40 มิลลิเมตร สายหนังสีดำ

ทั้ง 2 รุ่นมากับหน้าปัดสีเงินแบบซันเรย์ โดยจะมีช่องหน้าต่างวันที่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งหน้าต่างตรงนี้จะเป็นจุดสังเกตของรุ่นตัวเรือน 37 และ 40 มิลลิเมตร โดยถ้าเป็นรุ่นตัวเรือน 40 มิลลิเมตร ช่องจะขยับห่างจากหลักชั่วโมง 3 นาฬิกาออกมาเล็กน้อย ขณะที่รุ่น 37 มิลลิเมตรจะค่อนข้างชิดเข้าไปติดกับหลักชั่วโมง แม้ว่าความหนาจะเท่ากันที่ 10.95 มิลลิเมตร แต่ความกว้างขาสายก็ต่างกันคือ 19 มิลลิเมตรสำหรับรุ่น 37 มิลลิเมตร และ 21 มิลลิเมตรสำหรับรุ่น 40 มิลลิเมตร

สิ่งที่อยู่ข้างในคือ กลไกอัตโนมัติ L836.6 เดินด้วยความถี่สูงระดับ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง มีกำลังสำรอง 52 ชั่วโมง และมาพร้อมความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer โดยความเที่ยงตรงของ Longines Ultra-Chron ได้รับการการันตีในระดับ “Ultra Chronometer” โดย TIMELAB Geneva ซึ่งเป็นสถาบันอิสระที่ตั้งอยู่ในกรุงเจนีวาโดยเป็นการระบุระดับความแม่นยำที่มากไปกว่า “Chronometer” แบบปกติ

นอกจากนั้น มีความต้านทานต่อสนามแม่เหล็กจากการใช้ใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิคอน และผ่านมาตรฐานของ ISO764

 Longines Ultra-Chon Classic เริ่มทำตลาดแล้ว โดยราคาจะอยู่ที่ 124,800 บาทสำหรับรุ่นสายหนัง และ 128,700 สำหรับรุ่นสายสตีล

รายละเอียดทางเทคนิค : Longines Ultra-Chon Classic

• เส้นผ่านศูนย์กลาง : 37 และ 40 มิลลิเมตร
• ความหนา : 10.95 มิลลิเมตรเท่ากัน
• Lug to Lug : 44.60 และ 47.20 มิลลิเมตร
• ความกว้างขาสาย : 19 และ 21 มิลลิเมตร
• กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง 2 ด้าน
• กลไก : อัตโนมัติรหัส L836.6 พร้อมความเที่ยงตรง Chronometer
• ความถี่ : 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง
• กำลังสำรอง : 52 ชั่วโมง
• การกันน้ำ : 50 เมตร

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline