Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR ความงามจากเทคนิค Tsuiki ผลิตแค่ 500 เรือน

0

Casio G-SHOCK ยกระดับความพิเศษของนาฬิกาในเซ็ต MR-G อีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นรุ่น G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR ซึ่งมาพร้อมเทคนิคการผลิตของช่างมือชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า Tsuiki ในการสร้างลวดลายที่สวยงามบนตัวเรือนและสายจากการใช้ค้อนกระหร่ำตีบนขื้นงานด้วยความสม่ำเสมอ โดยนาฬิกาเรือนนี้เริ่มจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้ และมีราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 935,000 เยน

- Advertisement -

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR ความงามจากเทคนิค Tsuiki ผลิตแค่ 500 เรือน

  • ผลผลิตใหม่ที่มาจากเทคนิคการผลิตของช่างมือชาวญี่ปุ่นที่เรียกว่า Tsuiki

  • ใช้พื้นฐานของรุ่น MRG-B5000 พร้อมลวดลายที่เกิดขึ้นอย่างสวยงามทั้งบนตัวเรือนและสายที่ผลิตจาก DAT55G

  • เริ่มจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้ และมีราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 935,000 เยน

อีกความตั้งใจในการนำเสนองานระดับช่างฝีมือชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่นที่ถูกนำเสนอผ่านทางตัวเรือนและสายของเรือนเวลาสุดพิเศษของ Casio G-SHOCK ในตระกูล MRG อย่างรุ่น Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR ซึ่งเป็นการนำเทคนิคการผลิตที่เรียกว่า Tsuiki มาใช้ในการเพิ่มความงานของชิ้นส่วนนาฬิกาที่เป็นโลหะ และนาฬิกาเรือนนี้มีการผลิตออกมาเพียงแค่ 500 เรือนเท่านั้น

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

นับจากที่ชื่อของ MR-G ปรากฏอยู่ในคอลเล็กชั่นของนาฬิกา Casio G-SHOCK เป็นครั้งแรกในปี 1996 นาฬิการุ่นนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการนำเสนอสิ่งที่เหนือระดับจาก G-SHOCK รุ่นปกติ ด้วยตัวเรือนที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นผ่านวัสดุอย่างโลหะภายใต้คอนเซ็ปต์ของนาฬิกาโลหะที่ไม่มีวันบุบสลายแม้ว่าจะถูกกระแทกกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ‘A metal watch that will not break even if dropped.’

อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนของ MR-G เริ่มขึ้นในปี 2014 กับรุ่น MRG-G1000 ซึ่งเป็นการพลิกโฉมและอัพเกรดให้เรือนเวลารุ่นี้ขยับขึ้นมาเป็นเรือธงหรือ Flagship ของแบรนด์ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่เน้นความประณีตตามแบบฉบับของญี่ปุ่น โดยที่ยังคงความทนทานและรูปแบบที่โดดเด่นตามแบบฉบับ G-SHOCK

จากนั้นในปี 2022 สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอีกเรื่องคือคอลเล็กชั่น MR-G ไม่ได้มีแค่ตัวเรือนทรงบึกบึนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเกิดไอเดียใหม่ในการนำนาฬิกาที่เป็น iconic ของแบรนด์อย่าง DW-5000C มาตีความใหม่ เน้นความหรูหราและความละเอียดของชิ้นส่วนที่เป็นตัวเรือนและสายก่อนจำหน่ายในชื่อ MRG-B5000 และเป็นคอลเล็กชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก พร้อมกับมีรุ่นต่างๆ ถูกส่งออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็รวมถึง Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR ที่มาะพร้อมกับเทคนิคการผลิตที่เรียกว่า Tsuiki

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

สำหรับ Tsuiki เป็นเทคนิคดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในรูปแบบของการสร้างความสวยงามผ่านลวดลายบนพื้นผิวโลหะที่ถูกตีซ้ำๆ  (Hand-Hammering) เพื่อสร้างรูปทรง ลวดลายที่ไม่สม่ำเสมออันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเกิดจากวิธีการตีและแรงกดที่มากเป็นพิเศษ ทำให้เกิดความพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และเป็นรูปแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละชิ้นอันกิดขึ้นเฉพาะกระบวนการผลิตที่ทำได้ด้วยมือเท่านั้น โดยเทคนิคนี้ซึ่งถูกนำมาใช้อย่างยาวนานในการผลิตอุปกรณ์สำหรับพิธีชงชาและของตกแต่งในญี่ปุ่น และยังคงเป็นสัญลักษณ์ของศิลปะและงานฝีมือชั้นสูงมาจนถึงปัจจุบัน

Casio G-SHOCK ได้ทำงานร่วมกับ Kazuya. Watanabe ซึ่งเป็นปรมาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคนิคการผลิตนี้ และรับหน้าที่ในการสร้าวสรรค์ลวดลายที่งดงามของ Tsuiki ลงบนขอบตัวเรือน และข้อสายของ Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR
Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

ตัวเรือนและสายนาฬิกาทั้งหมดผลิตจากวัสดุที่เรียกว่า DAT55G ซึ่งมีพื้นฐานของไทเทเนียม แต่มีความแข็งกว่าไทเทเนียมบริสุทธิ์ประมาณ 3 เท่า และถูกตอกด้วยมือโดยใช้เทคนิค Tsuiki ซึ่งเคล็ดลับของความงามตามกรรมวิธีนี้อยู่ที่ “ความสม่ำเสมอและความเป็นระเบียบ” และจังหวะที่เป็นธรรมชาติ  จนสามารถสร้างสรรค์รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับแต่ละชิ้น เมื่อได้ชิ้นงานแล้วก็จะนำไปเคลือบด้วย DLC (Diamond-Like Carbon) เพิ่มเติม ช่วยเพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนและการสึกหรอของพื้นผิวได้เป็นอย่างดี

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

สำหรับกรอบตัวเรือนถูกออกแบบให้มีความละเอียดและประกอบด้วยชิ้นส่วนมากถึง 25 ชิ้น โดยมีการขัดแต่งแยกในแต่ละขิ้นด้วยกรรมวิธี Sallaz ส่วนฝาหลังผลิตจากไทเทเนียม พร้อมกับการเคลือบด้วยสีสันในโทน Red Gold ตัดกับสีดำของตัวเรือนได้เป็นอย่างดี

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

ตัวเรือนมีขนาด 43.2×49.4 มิลลิเมตร กระจกเป็นแบบ Sapphire ซึ่งภายในบรรจุโมดุลในรหัส 3541 สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทางบลูทูธ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ของตัวนาฬิกาได้โดยไม่ต้องกดที่ตัวนาฬิกาเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดจะทำผ่านทาง Application CASIO WATCHES นอกจากนั้น โมดุลรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น Multiband6 ซึ่งเป็นการปรับความเที่ยงตรงของเวลาผ่านทางคลื่นวิทยุ และ Tough Solar ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแสงแดดให้กลายเป็นกระแสไฟฟ้าเก็บอยู่ในแบตเตอรี่

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR จะมีการผลิตออกจำหน่ายทั่วโลกแค่ 500 เรือนเท่านั้น และราคาในญี่ปุ่นอยู่ที่ 935,000 เยน

รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK MRG-B5000HT-1JR

  • ขนาดตัวเรือน : 43.2×49.4 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 12.9 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือนและสาย : DAT55G ซึ่งเป็นไทเทเนียมชนิดพิเศษ
  • กระจก : Sapphire
  • โมดุล : 3541 ประกอบด้วย Multiband 6, Tough Solar และเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth
  • การกันน้ำ : 200 เมตร