เบื้องหลังในด้านแนวคิดในการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของ ORIS ที่ได้นำมาสู่การเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ ORIS New York Harbor เมื่อปี 2022 และอีกครั้งกับ ORIS New York Harbor II ในปี 2025 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ Billion Oyster Project องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ในการฟื้นฟูหอยนางรมหนึ่งพันล้านตัวกลับคืนสู่อ่าวนิวยอร์ก และมี Pete Malinowski และ Murray Fisher เป็นผู้ก่อตั้ง
จาก Billion Oyster Project สู่ ORIS New York Harbor II
ORIS ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Change for the better ซึ่งนั่นทำให้พวกเขาเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและความเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นอยู่เสมอทั้งในรูปแบบของสังคมและสิ่งแวดล้อม และในปี 2022 แบรนด์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับโปรเจ็กต์หนึ่งที่เรียกว่า Billion Oyster Project พร้อมกับสนับสนุนโครงการนี้ผ่านทางการเปิดตัวนาฬิกาที่มีชื่อว่า ORIS New York Harbor ออกสู่ตลาด และ 3 ปีให้หลัง การทำงานของทั้งคู่ยังมีอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่การเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า ORIS New York Harbor II
โครงการ Billion Oyster Project ตั้งเป้าหมายในการฟื้นฟูหอยนางรมหนึ่งพันล้านตัวกลับคืนสู่อ่าวนิวยอร์ก และดึงดูดผู้คนจำนวนหนึ่งล้านคนให้มีส่วนร่วมตลอดเส้นทางนี้ หอยนางรมที่โตเต็มวัยสามารถกรองน้ำได้มากถึง 50 แกลลอนต่อวัน ขณะที่แนวปะการังหอยนางรมจะช่วยสร้างระบบบนิเวศให้กับสิ่งมีชีวิตทางทะเลอื่นๆ และยังทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันคลื่นพายุตามธรรมชาติ ดังที่ผู้เชี่ยวชาญมักกล่าวว่า แนวปะการังหอยนางรมในมหาสมุทรเปรียบเสมือนกับต้นไม้ในผืนป่า
 |
 |
 |
 |
หลายศตวรรษก่อน อ่าวนิวยอร์กเคยเป็นถิ่นอาศัยของแนวปะการังหอยนางรมครอบคลุมพื้นที่กว่า 220,000 เอเคอร์ แต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รสนิยมการบริโภคหอยนางรมของชาวนิวยอร์ก ประกอบกับมลพิษและปัจจัยอื่นๆที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ทำลายสิ่งมีชีวิตทางทะเลในเส้นทางน้ำของเมืองจนแทบหมดสิ้น
พระราชบัญญัติว่าด้วยน้ำสะอาด ปี 1972 ได้ห้ามการปล่อยของเสียทางอุตสาหกรรม สารเคมี และน้ำเสียดิบที่ยังไม่ผ่านการบำบัดลงสู่อ่าว ซึ่งส่งผลให้คุณภาพน้ำดีขึ้น และในปี 2010 มีการพบปลาวาฬกลับมาในอ่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตามปัญหายังคงมีอยู่ โดยเฉพาะปัญหาระบบระบายน้ำเสียรวมของเมืองที่มีอายุเก่าแก่และเกินความจุ
 |
 |
 |
 |
 |
 |
ในปี 2014 นักการศึกษาสองคนในนครนิวยอร์กมองเห็นโอกาสที่จะทำให้ชาวเมืองนิวยอร์กได้กลับมามีสายสัมพันธ์กับพื้นที่ริมน้ำที่ถูกละเลย จึงได้ก่อตั้งโครงการ Billion Oyster Project องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่ในการฟื้นฟูหอยนางรมหนึ่งพันล้านตัวกลับคืนสู่อ่าวนิวยอร์ก และในปี 2022 ORIS ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการนี้ และเปิดตัวนาฬิการุ่น Limited Edition เพื่อระดมทุนสนับสนุนภารกิจดังกล่าว
จนถึงปัจจุบัน โครงการ Billion Oyster Project ได้ฟื้นฟูหอยนางรมสู่อ่าวนิวยอร์กแล้วกว่า 150 ล้านตัว พร้อมทำงานร่วมกับอาสาสมัครมากกว่า 15,000 คน และนักเรียนกว่า 30,000 คน “โครงการนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของหอยนางรมเท่านั้น” Pete Malinowski ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการกล่าว “แต่มันคือการสร้างจิตสำนึกในการดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านการศึกษา การมีส่วนร่วมของสาธารณชน และวิทยาศาสตร์ภาคชุมชน”
เขากล่าวต่อว่า “เราทำงานร่วมกับโรงเรียนกว่า 100 แห่ง รวมทั้งนักเรียนและอาสาสมัครนับหลายพันคน เพื่อสร้างอนาคตที่ชาวนิวยอร์กจะมีสายสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลของตนเอง”
 |
 |
ในปีนี้ New York Harbor Limited Edition II ได้สานต่อพันธกิจ โดยพัฒนาจากรุ่น Aquis Date มาพร้อมหน้าปัดสีเขียว Aqua Green แบบเปลือกหอยมุก ที่สะท้อนประกายราวเปลือกหอยนางรม ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 2,000 เรือน พร้อมหมายเลขประจำตัวเรือน โดยรายได้จากการจำหน่ายจะนำไปสนับสนุนภารกิจของโครงการนี้
คุยกับ Pete Malinowski ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของโครงการ Billion Oyster Project ซึ่งเขาได้อธิบายถึงบทบาทของ ORIS ที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
 |
 |
| Billion Oyster Project สู่ ORIS New York Harbor II |
Q : Pete ผ่านไปสามปีแล้วนับตั้งแต่ความร่วมมือครั้งแรกของเรา ช่วยเล่าเรื่องราวของคุณ รวมถึงโครงการ Billion Oyster Project และความร่วมมือกับ ORIS ให้ฟังอีกครั้งได้ไหม
A : โครงการ Billion Oyster Project ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยผมและเพื่อนร่วมงาน Murray Fisher ขณะทำงานอยู่ที่โรงเรียน New York Harbor ในฐานะครูสอนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผมได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า เยาวชนสามารถสร้างสายสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างลึกซึ้งเมื่อได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมฟื้นฟูด้วยการลงมือปฏิบัติจริง เราจึงเปิดตัวโครงการนี้ด้วยเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ คือการฟื่นฟูหอยนางรมหนึ่งพันล้านตัวกลับคืนสู่อ่าวนิวยอร์กภายในปี 2035 ความร่วมมือของเรากับ Oris เริ่มต้นในปี 2022 ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่น New York Harbor Limited Edition ซึ่งความมุ่งมั่นของ Oris ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับภารกิจของเราอย่างลงตัว และความร่วมมือครั้งนี้ก็มีบทบาทสำคัญในการระดมทุนและสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้าง
Q : แล้วโครงการดำเนินไปอย่างไรบ้าง?
A : เราภูมิใจที่จะกล่าวว่าโครงการกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในช่วงกลางปี 2025 เราได้ฟื้นฟูหอยนางรมไปแล้วประมาณ 150 ล้านตัว ในพื้นที่แนวปะการังที่ยังมีชีวิตอยู่ 17 แห่งทั่วอ่าวนิวยอร์ก เรารีไซเคิลเปลือกหอยนางรมจากร้านอาหารท้องถิ่นได้มากกว่า 2.9 ล้านปอนด์ มีอาสาสมัครเข้าร่วมมากกว่า 15,000 คน และทำงานร่วมกับนักเรียนมากกว่า 30,000 คน ปัจจุบันแนวปะการังของเราครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 19 เอเคอร์ และเรากำลังเห็นสัญญาณของการฟื้นฟูหอยนางรมตามธรรมชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของความสำเร็จในระยะยาว
Q : ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่คุณต้องเอาชนะคืออะไร?
A : การรับมือกับข้อกำหนดและขั้นตอนด้านกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำหอยนางรมมีชีวิตกลับคืนสู่ผืนน้ำของอ่าว ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องเผชิญมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการทำงานภายใต้ข้อจำกัดของสภาพแวดล้อมเมืองขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างนิวยอร์ก มลพิษจากระบบน้ำเสียล้นรวมยังคงเป็นภัยคุกคาม ขณะเดียวกัน การรักษาและจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับการขยายการดำเนินงานก็จำเป็นต้องอาศัยความพยายามอย่างต่อเนื่อง แม้การตระหนักรู้ของสาธารณชนจะเพิ่มขึ้น แต่เรายังคงทำงานอย่างหนักเพื่อให้ผู้คนเข้าใจถึงคุณค่าทางนิเวศวิทยาและสังคมของหอยนางรมอย่างแท้จริง
Q : ประชากรหอยนางรมสามารถทำให้แหล่งน้ำในนครนิวยอร์กกลับมาเป็นถิ่นอาศัยที่อุดมสมบูรณ์อีกครั้งได้หรือไม่?
A : หอยนางรมถือเป็นชนิดพันธุ์หลัก (Keystone Species) หมายความว่าพวกมันมีบทบาทพื้นฐานต่อการดำรงอยู่ของระบบนิเวศ หอยนางรมแต่ละตัวสามารถกรองน้ำได้มากถึง 50 แกลลอนต่อวัน ขณะที่แนวปะการังหอยนางรมก็เช่นเดียวกับแนวปะการัง ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทางทะเลหลายร้อยชนิด แม้ว่าการฟื้นฟูระบบนิเวศอย่างสมบูรณ์อาจต้องใช้เวลาหลายทศวรรษ แต่ในพื้นที่ที่หอยนางรมเจริญเติบโตดี เราก็เริ่มเห็นคุณภาพน้ำที่ดีขึ้นและความหลากหลายทางชีวภาพที่เพิ่มขึ้นแล้ว
Q : ในด้านการศึกษา คุณได้ร่วมมือกับใครบ้าง และอย่างไร?
A : เราได้ร่วมมือกับโรงเรียนรัฐบาลมากกว่า 100 แห่ง และนักเรียนกว่า 30,000 คน ผ่านโครงการ STEM แบบลงมือปฏิบัติจริงที่มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับโรงเรียน Urban Assembly New York Harbor School ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมสายอาชีพในสาขาต่างๆ เช่น การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชีววิทยาทางทะเล นอกเหนือจากการทำงานกับโรงเรียน เรายังร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ภาคประชาชน อาสาสมัคร และสถาบันพันธมิตร เพื่อขยายการมีส่วนร่วมของสาธารณชน และสร้างเครือข่ายผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
Q : เงินทุนที่ได้จากความร่วมมือครั้งแรกของเราได้สร้างความแตกต่างอย่างไร?
A : ด้วยการสนับสนุนองค์ประกอบสำคัญในงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างแนวปะการัง การเก็บรวบรวมเปลือกหอย และการจัดโปรแกรมการศึกษา ทรัพยากรเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถขยายขอบเขตการทำงาน ปรับปรุงวิธีการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเปิดโอกาสให้สมาชิกชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นในความพยายามในการฟื้นฟู
Q : มองในภาพรวม ทัศนคติของผู้คนที่มีต่อการอนุรักษ์ได้พัฒนาไปอย่างไรบ้าง นับตั้งแต่คุณเริ่มโครงการนี้?
A : ทัศนคติของสาธาณชนมีความสนับสนุนต่อการอนุรักษ์มากขึ้น โดยเฉพาะหลังเกิดภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ เช่น พายุเฮอริเคนแซนดี้ ผู้คนตระหนักมากขึ้นถึงความจำเป็นของโครงสร้างพื้นฐานสีน้ำเงิน (Blue Infrastructure) และเมืองที่มีความยืดหยุ่นต่อวิกฤต งานของเราได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทัศนคตินี้ แต่เรายังคงต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาแรงขับเคลื่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน กลยุทธ์ของเราคือการเน้นย้ำให้เห็นถึงประโยชน์หลากหลายด้านจากงานของเรา ซึ่งไม่เพียงเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการศึกษา การฝึกอบรมทักษะอาชีพ การปกป้องชายฝั่ง และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ
Q : คุณอยากเห็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับโลกก้าวไปในทิศทางใดต่อไป?
A : ผมอยากเห็นอนาคตที่ผู้คนมองตนเองว่าเป็นผู้พิทักษ์และดูแลรักษาโลกธรรมชาติ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมเมือง ซึ่งหมายถึงการบูรณาการความรู้ด้านนิเวศวิทยาเข้าสู่ระบบการศึกษา การบรรจุโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวและสีน้ำเงินไว้ในการวางผังเมือง และการสร้างความมั่นใจว่าทุกชุมชนสามารถเข้าถึงระบบนิเวศที่มีสุขภาวะและมีความยืดหยุ่นได้
Q : ผู้ที่กำลังอ่านอยู่นี้จะสามารถมีส่วนร่วมในโครงการของคุณได้อย่างไร?
A : คุณสามารถมีส่วนร่วมในโครงการของเราได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเป็นอาสาสมัครในพื้นที่แนวปะการัง การบริจาคเงิน การเข้าร่วมโปรแกรมวิทยาศาสตร์ชุมชน หรือแม้แต่การช่วยร้านอาหารรีไซเคิลเปลือกหอย ทุกการกระทำล้วนช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในการฟิ้นฟูอ่าวนิวยอร์กมากยิ่งขึ้น
Q : เงินที่ได้จากการจำหน่ายนาฬิการุ่น New York Harbor Limited Edition II จะถูกนำไปใช้อย่างไร?
A : รายได้จะนำไปใช้โดยตรงในการสร้างแนวปะการัง การเก็บรวบรวมเปลือกหอย และโครงการเผยแพร่ส่งเสริมการเรียนรู้ เงินทุนเหล่านี้จะช่วยขยายผลกระทบเชิงบวกของโครงการ และเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการฟื้นฟูมากยิ่งขึ้น
Q : ในมุมมองของคุณ ความร่วมมือนี้สะท้อนอะไรเกี่ยวกับ ORIS ?
A : ความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งของ ORIS ต่อความยั่งยืนและผลลัพธ์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน แสดงให้เห็นว่า ORIS พร้อมก้าวข้ามการสร้างความตระหนักรู้ ไปสู่การลงทุนโดยตรงในแนวทางแก้ปัญหาที่สร้างประโยชน์ต่อระบบนิเวศและสังคมอย่างยั่งยืน เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับแบรนด์ที่เชื่อมั่นอย่างแท้จริงในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
