Bell & Ross มีนาฬิกาสุดพิเศษออกมาทำตลาดอีกครั้ง และคราวนี้จับมือกับกองทัพอากาศฝรั่งเศสในการนำเครื่องบิน Dassault Rafale ซึ่งถูกนำมาใช้ในการโชว์สำหรับแสดงทั่วโลกที่เรียกว่า Rafale Solo Display มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ความงาม โดยจำหน่ายในชื่อ Bell & Ross BR-03 Chrono. Rafale Solo Display ที่มีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 500 เรือนเท่านั้น

Bell & Ross BR-03 Chrono Rafale Solo Display ความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่

• นาฬิกาสุดพิเศษรุ่นใหม่ที่จับมือกับกองทัพอากาศฝรั่งเศส มีการผลิต 500 เรือน

• ดีไซน์อ้างอิงจากเครื่องบิน Dassault Rafale ซึ่งถูกนำมาใช้ในการโชว์สำหรับแสดงทั่วโลกที่เรียกว่า Rafale Solo Display

• ตัวเรือนผลิตจากเซรามิกมีขนาด 42 มิลลิเมตร และจับเคลื่อนด้วยกลไกแบบอัตโนมัติ Chronograph BR-CAL.301

Bell & Ross ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีความเกี่ยวพันกับแวดวงการบิน โดยล่าสุดจับมือกับกองทัพอากาศของฝรั่งเศสนำเครื่องบินรุ่น Dassault Rafale มาเป็นต้นแบบของการพัฒนา พร้อมกับเปิดตัวนาฬิการุ่นแรกจากความร่วมมือออกมากับรุ่น Bell & Ross BR-03 Chrono Rafale Solo Display ที่จะมีการผลิตออกสู่ตลาด 500 เรือนและเริ่มวางขายในเดือนกันยายนนี้

เครื่องบิน Dassault Rafale ถือเป็นอากาศยานขับไล่แบบไอพ่นสมรรถนะสูงที่ประจำการอยู่ในกองทัพอากาศของฝรั่งเศส โดยนอกจากจะใช้ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศแล้ว พวกเขายังมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างสรรค์ความบันเทิงและความสวยงามด้วยโชว์ที่ถูกเรียกว่า Rafale Solo Display ซึ่งเป็นการบินโชว์แบบเดี่ยวที่เปิดโชว์มาตั้งแต่ปี 2009 และเปรียบเสมือนกับทูตทางวัฒนธรรมทางทหารที่สามารถเชื่อมต่อกับคนทั่วโลกผ่านการแสดงนี้ และ Bell & Ross ได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาสร้างสรรค์เป็นเรือนเวลาสุดพิเศษ

สำหรับ Bell & Ross BR-03 Chrono Rafale Solo Display ถูกสร้างสรรค์บนตัวเรือนของรุ่น BR-03 Chrono ที่มีขนาด 42 มิลลิเมตร โดยรุ่นนี้ผลิตจากเซรามิกสีดำพร้อมกับการขัดที่สวยงาม โดยเอกลักษณ์ของ BR-03 Chrono คือ ปุ่มกดในระบบจับเวลา หรือ Pusher ที่ถูกออกแบบให้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และวสงในแนวตรงขนานไปกับขอบตัวเรือนฝั่งซ้าย ที่พิเศษคือ บนหน้าตัดของปุ่มกดจะมีการเจาะร่องลงไปเป็นคำว่า Start สำหรับปุ่มบน และ Reset สำหรับปุ่มล่าง และเคลือบด้วยสีส้มและเหลืองตามลำดับ

เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับเครื่องบิน Dassault Rafale รายละเอียดบนหน้าปัดจึงถูกสร้างสรรค์และใช้สีสันที่เชื่อมโยงกับมาตรวัดต่างๆ ที่อยู่บนแผงหน้าปัดในค็อกพิทของเครื่องบิน โดยนาฬิกาเรือนนี้เป็นแบบจับเวลา 2 วงที่สามารถจับเวลาสูงสุดได้ 30 นาที ซึ่งหน้าปัดย่อยในตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะเป็นเข็มวินาทีแยกของระบบแสดงเวลา และในตำแหน่งที่ 9 นาฬิกาจะเป็นหน้าปัดย่อยที่จับเวลาสูงสุด 30 นาที และมีช่องวันที่อยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมสัญลักษณ์ Rafale Solo Display

สิ่งที่แตกต่างจากเวอร์ชัน BR-03 Chrono รุ่นอื่นๆ นอกเหนือจากลวดลายของหน้าปัดแล้วยังอยู่ที่เข็มวินาทีกลางของระบบจับเวลา โดยจะมีการทำปลายให้เป็นหัวลูกศรพร้อมกับเคลือบสีส้มเอาไว้

ตัวนาฬิกามากับสายยางแบบฉลุโปร่งหรือ Openwork และมีสายไนลอนพร้อมสัญลักษณ์ของ Rafale Solo Display อยู่บนสายเพิ่มมาให้อีกเส้น

กลไกของ Bell & Ross BR-03 Chrono Rafale Solo Display ไม่ต่างจากรุ่น BR-03 Chrono เป็นรหัส BR-CAL.301 ที่ใช้พื้นฐานของ ETA-2894-2 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง มีกำลังสำรอง 42 ชั่วโมง และตัวนาฬิกามีความสามารถในการกันน้ำ 100 เมตร

Bell & Ross BR-03 Chrono Rafale Solo Display มีการผลิตออกขายจำนวน 500 เรือนและจะเริ่มทำตลาดในเดือนกันยายนนี้แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลา ส่วนราคาอยู่ที่ 5,800 ฟรังก์สวิสส์

รายละเอียดทางเทคนิค : Bell & Ross BR-03 Chrono Rafale Solo Display

• เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มิลลิเมตร
• วัสดุตัวเรือน: Matt Ceramic
• กระจก: Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
• กลไก: BR-Cal.301 อัตโนมัติ จับเวลาสูงสุด 30 นาที
• ความถี่: 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
• จำนวนทับทิม: 28 เม็ด
• กำลังสำรอง: 42 ชั่วโมง
• การกันน้ำ: 100 เมตร

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline