จากการเป็นส่วนหนึ่งของการโคจรอวกาศของ John Glenn ในปี 1962 ทางด้าน TAG Heuer ได้นำเรื่องราวของการบุกเบิกอวกาศมาต่อยอดให้กับคอลเล็กชั่น Carrera ด้วยรุ่น TAG Heuer Carrera Astronomer ในการนำเสนอรูปแบบใหม่ของ Moonphase และพัฒนาขึ้นบนตัวเรือน 39 มิลลิเมตรของรุ่น Carrera ที่มีทั้งตัวเรือนและสายสตีล ตัวเรือนสตีลสายหนัง และตัวเรือนสตีลสายผสมด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตจาก Rose Gold 18K มี 3 รุ่นย่อย และ 2 รุ่นผลิตแบบจำกัดที่ผลิตออกมารุ่นละเพียง 500 เรือนเท่านั้น

TAG Heuer Carrera Astronomer เชื่อมโยงการบุกเบิกอวกาศด้วย Moonphase แบบใหม่
-
การนำความสำเร็จในปี 1962 กับการเป็นส่วนหนึ่งของการบุกเบิกอวกาศมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เรือนเวลา
-
พัฒนาขึ้นบนตัวเรือน 39 มิลลิเมตรของรุ่น Carrera ที่มีทั้งตัวเรือนและสายสตีล ตัวเรือนสตีลสายหนัง และตัวเรือนสตีลสายผสมด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตจาก Rose Gold 18K
-
มี 3 รุ่นย่อย และ 2 รุ่นผลิตแบบจำกัดที่ผลิตออกมารุ่นละเพียง 500 เรือนเท่านั้น
TAG Heuer เผยโฉมนาฬิการุ่น TAG Heuer Carrera Astronomer การตีความครั้งใหม่ของศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา ที่สะท้อนแรงบันดาลใจจากดวงจันทร์ในมิติร่วมสมัย โดยถูกนำเสนอผ่านตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตรสุดสปอร์ตของคอลเล็กชั่น Carrera ที่ได้รับการยอมรับจากโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ตและโลกใต้ท้องทะเล โดยจะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย

การเปิดแนวคิดใหม่ครั้งนี้คือการทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อมุ่งหน้าสู่ห้วงอวกาศ โดยคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาของ Carrera คือ ไม่หยุดท้าทายในเรื่องข้อจำกัด และครั้งนี้จิตวิญญาณแห่งการพัฒนาได้นำพาไปสู่โลกแห่งอวกาศและดาราศาสตร์ ซึ่งสะท้อนผ่านเรือนเวลารุ่น Carrera Astronomer พร้อมกับความเชื่อมโยงในด้านประวัติศาสตร์ระหว่างแบรนด์กับการบุกเบิกห้วงอวกาศ
เรื่องของเรื่องต้องย้อนกลับไปในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 1962 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญทั้งในประวัติศาสตร์แห่งการพัฒนานาฬิกาและการเดินทางสู่ห้วงอวกาศ เมื่อ John Glenn (จอห์น เกลนน์) นักบินอวกาศของ NASA ได้สวม Heuer 2915A โครโนกราฟที่ถูกปรับแต่งเป็นพิเศษ บนยาน Friendship 7 ของนาซา
Glenn ได้อาศัยเครื่องมือความเที่ยงตรงสูงชิ้นนี้ในการโคจรรอบโลกถึง 3 รอบ ซึ่งถือเป็นนำเรือนเวลาสัญชาติสวิสขึ้นสู่อวกาศเป็นครั้งแรก ความสำเร็จนี้ยืนยันถึงความชาญฉลาดทางเทคนิคของ TAG Heuer และความพร้อมในการทำงานเกินขอบเขตของโลก ภารกิจดังกล่าวกลายเป็นมรดกและบทสำคัญในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เชื่อมโยงศาสตร์การบอกเวลาเข้ากับการแสวงหาการค้นพบในเวทีระดับโลก
สิ่งที่น่าสนใจของนาฬิกาเรือนนี้คือ กลไก Calibre 7 ที่มีกำลังสำรอง 56 ชั่วโมงของ TAG Heuer มาพร้อมฟังก์ชั่น Moonphase หรือการแสดงข้างขึ้นข้างแรม ที่ได้รับการาพัฒนาในรูปแบบใหม่ของการนำเสนอแนววิถีในการเคลื่อนตัวของดวงจันทร์ใหม่ทั้งหมด โดยหน้าปัดย่อยที่แสดงการทำงานจะอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา มาพร้อมกับจานหมุนที่แสดง 7 ช่วงเวลาของดวงจันทร์อย่างชัดเจนและเที่ยงตรง ขนาบข้างด้วยสองลูกศรที่ปรับเทียบตามการเคลื่อนที่รายวันของดวงจันทร์ ดังนั้น หน้าปัดนี้จึงสามารถบอกได้ทั้งข้างขึ้น–ข้างแรมปัจจุบันของดวงจันทร์ และตำแหน่งในรอบ 29.5 วันได้อย่างชัดเจน
![]() |
![]() |
TAG Heuer เลือกใช้ความเที่ยงตรงทางวิทยาศาสตร์เป็นหลักการออกแบบ ผลลัพธ์ที่ได้จึงทั้งใช้งานได้จริงและคงความสวยงาม เพื่อส่งมอบความชัดเจนและความเที่ยงตรงสูงสุดต่อความเป็นจริงทางดาราศาสตร์ โดยในเวลา 01:00 น. ของทุกวัน จานแสดงข้างขึ้น–ข้างแรมจะหมุนไปตามจังหวะที่สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ในความเป็นจริง การประสานเวลานี้ยกระดับความเที่ยงตรงและเสริมสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างผู้สวมใส่กับวัฏจักรของดวงจันทร์ได้อย่างดีเยี่ยม
![]() |
![]() |
รุ่นที่จำหน่ายจะมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อยคือ
-
Ref.WBX2110.BA0044 รุ่นธรรมดา ตัวเรือนและสายผลิตจากสตีล หน้าปัดซันเรย์สีเงิน ขอบหน้าปัดด้านนอกมีสีดำเทาแสดงสเกลเวลา 60 นาทีและวินาที ราคา 174,000 บาท (โดยประมาณ)
-
Ref.WBX2112.FC6615 รุ่น Limited Edition ผลิตจำนวน 500 เรือน ตัวเรือนสตีล สายหนัง หน้าปัดสีเงินแบบซันเรย์ พร้อมเคลือบสารเรืองแสง Super Luminova สีเขียวอ่อนทั้งบนหลักชั่วโมงและเข็มชั่วโมง-นาที ขอบหน้าปัดด้านนอกมีสีดำเทาแสดงสเกลเวลา 60 นาทีและวินาที ราคา 183,000 บาท (โดยประมาณ)
-
Ref.WBX2111.BD0002 รุ่น Limited Edition ผลิตจำนวน 500 เรือน ตัวเรือสตีล หน้าปัดซันเรย์สีเงิน โดยหลักชั่วโมงและขอบหน้าปัดด้านนอกผลิตจาก Rose Gold 18K มาพร้อมสายแบบ 7-Link ซึ่งข้อกลางผลิตจากทอง Rose Gold 18K ส่วนที่เหลือผลิตจากสเตนเลสสตีล ราคา ราคา 277,000 บาท (โดยประมาณ)

![]() |
![]() |
![]() |
ฝาหลังเป็นแบบทึบที่มีการสลักลวดลายของกล้องโทรทรรศน์ที่ลอยอยู่บนอวกาศเพื่อสะท้อนแรงบันดาลใจจากจักรวาลของเรือนเวลา และเฉพาะ 2 รุ่น คือ Ref. WBX2112.FC6615 และ WBX2111.BD0002 ที่เป็น Limited Edition จะมีการสลักคำว่า Limited Edition พร้อมเรือนที่ผลิตจากจำนวนการผลิต 500 เรือนลงบนฝาหลังด้วย
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับสายแบบ 7-Link นั้น ทาง TAG Heuer บอกว่าเป็นการนำแนวคิดของลวดลายแบบ Beads of Rice ซึ่งเป็นสายสไตล์วินเทจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1960 กลับมาตีความใหม่จนได้สานในสไตล์ 7-Link ที่มีความสวยสปอร์ตและร่วมสมัย
กาจำหน่ายของ TAG Heuer Carrera Astronomer จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้
รายละเอียดทางเทคนิค : TAG Heuer Carrera Astronomer
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 39 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 45.2 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.16 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire ทรงโดม
- กลไก : อัตโนมัติ Calibre 7 พร้อมฟังก์ชั่นแสดงข้างขึ้น-ข้างแรม
- ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 56 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline

























