ยิ่งใหญ่สมการรอคอย Mido จัดงานเปิดตัวเรือนเวลาหรูครั้งใหญ่ของเอเชียอวดโฉม Multifort TV Big Date การกลับมาของนาฬิการูปทรงทีวีระดับตำนาน โดยมีไฮไลท์คือการมาเยือนประเทศไทยของซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง Kim Soo Hyun (คิม ซู ฮยอน) ในฐานะมิโดเอเชียนแบรนด์แอมบาสเดอร์
Mido เปิดตัว Multifort TV Big Date อย่างยิ่งใหญ่ ดึง Kim Soo Hyun มาร่วมงาน
ผสมผสานสไตล์ความคลาสสิกแห่งยุค 70s เข้ากับความโก้หรูและทันสมัย ถ่ายทอดสู่เรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นใหม่ที่พร้อมให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้ยลโฉมพร้อมกัน ที่ล่าสุด Mr.Franz Linder (มร.ฟรานซ์ ลินเดอร์) ประธานบริหารแบรนด์ Mido แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์ ในเครือ เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ได้ประกาศจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ในเอเชีย
เปิดตัวเรือนเวลาหรู คอลเลกชั่นระดับตำนาน Multifort TV Big Date ในรูปลักษณ์ใหม่ประจำปี 2023 ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนรูปทรงทีวีสุดคลาสสิก ซึ่งสะท้อนสไตล์ไอคอนิกสุดฮิตประจำยุค 70s
โดยมีไฮไลท์ครั้งสำคัญคือการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวเกาหลีใต้ “Kim Soo Hyun (คิม ซู ฮยอน) ในฐานะมิโดเอเชียนแบรนด์แอมบาสเดอร์เป็นครั้งแรก ท่ามกลางบรรยากาศภายในงานถูกตกแต่งขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Inspired by New Visions’ ที่จะพาทุกคนเพลิดเพลินไปกับแสง สี และกรอบทีวีสุดคลาสสิกที่ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ ในค่ำคืนที่ผ่านม
โดยในงานได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เช่น อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช, สิริน ศรีอรทัยกุล, ปาวา นาคาศัย, เอกชัย สุขุมวิทยา, ณัฐสิมา ศิริสุนทร พร้อมเหล่านักแสดงชื่อดัง อาทิ แมท-ภีรนีย์ คงไทย, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน, มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล และมาร์ค- ศิวัช จำลองกุล
Mido แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ Georges Schaeren (จอร์จ แชแรน) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน
Mr.Franz Linderกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า “เราได้จัดงานครั้งนี้ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในระดับเอเชีย เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวนาฬิกาคอลเลกชั่นล่าสุดอย่าง Multifort TV Big Date ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรือนเวลาที่สะท้อนสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์จากรูปทรงทีวีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นไอคอนิกแห่งยุคในขณะนั้นเลยก็ว่าได้
จนถึงวันนี้ผ่านมาแล้วกว่า 50 ปี ในครั้งนี้เราได้หยิบยกเอาความคลาสสิกมาผสมผสานกับความร่วมสมัย ด้วยการนำหน้าปัดตัวเรือนรูปทรงทีวีมาออกแบบใหม่อีกครั้งในปี 2023
โดยเพิ่มความโดดเด่นด้วยช่องตัวเลขบอกวันที่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือที่เรียกว่า Big Date มาบรรจงดีไซน์ด้วยการไล่เฉดสีบนหน้าปัดนาฬิกาเพื่อเพิ่มมิติให้ดูสวยงาม นอกจากนี้เรายังได้รับเกียรติจาก Kim Soo Hyun ในฐานะมิโดเอเชียนแบรนด์แอมบาสเดอร์ มาร่วมนำเสนอสไตล์อันโดดเด่นด้วยการเลือกนาฬิกาจากคอลเลกชั่นนี้มามิกซ์แอนด์แมทช์ในลุคของตนเองอีกด้วย”
Kim Soo Hyun กล่าวถึงคอลเลกชั่นนี้ว่า “ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์มากมายทั้งในสายงานโทรทัศน์และแวดวงภาพยนตร์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่นำเสนอสไตล์ของเรือนเวลาคอลเลกชั่นพิเศษ อย่าง Multifort TV Big Date ที่มีความโดดเด่นของการออกแบบและเปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันที่มีความทันสมัย
อีกทั้งยังสะท้อนถึงสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Mido ได้เป็นอย่างดี โดยเสน่ห์เหนือกาลเวลานี้จะต้องเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่หลงใหลในเรือนเวลาที่มีความประณีตและความใส่ใจในทุกรายละเอียด ผมเชื่อ Multifort TV Big Date จะสามารถสร้างความประทับใจกับให้กับทุกท่านได้อย่างแน่นอน”
สำหรับคอลเลกชั่น Multifort TV Big Date รูปโฉมประจำปี 2023 นั้นได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่างรูปทรงทีวีที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ถูกนำมาดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยตัวเรือนรุ่นไฮไลท์มาในดีไซน์สแตนเลสสตีลหน้าปัดรูปทรงทีวี พร้อมกับการตกแต่งหน้าปัดโดยการขัดซาตินแนวนอน เพิ่มความโดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีจากสีน้ำเงินไปจนเป็นสีดำเพิ่มมิติความสวยงามยามสะท้อนแสง
เพิ่มความพิเศษด้วยช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ตามแบบฉบับรุ่น Big Date ตรงบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา อีกทั้งเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทียังได้รับการเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® สีขาว ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านค่าในที่แสงน้อย ที่มาพร้อมสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิกเพื่อความแข็งแรงทนทาน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Caliber 80 ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริง Nivachron™
ซึ่งทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสนามแม่เหล็กได้อย่างดีเยี่ยม ครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดที่ผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อความทนทาน อีกทั้งยังเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านอีกด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นกลไกการทำงานผ่านกระจกด้านหลังตัวเรือนซึ่งเผยให้เห็นชิ้นงานโรเตอร์ขึ้นลานที่ตกแต่งด้วยลวดลายโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (‘Côtes de Genève’) พร้อมสลักโลโก้ Mido เอาไว้อย่างงดงาม โดยตัวเรือนมีความสามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 100 เมตร
นอกจากนี้ยังเปิดตัวมาพร้อมกับอีก 4 ดีไซน์ที่ผู้สวมใส่สามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีล ที่มาพร้อมหน้าปัดโทนสีเขียวไล่เฉดสี (Green Gradient)
สำหรับคนที่ต้องการความคลาสสิกและโดดเด่นได้ในขณะเดียวกัน ถัดมาที่ตัวเรือนและสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีดำไล่เฉดสี (Black Gradient) เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความเรียบโก้ รวมถึงตัวเรือนสแตนเลสสตีลที่มาพร้อมกับหน้าปัดโทนสีน้ำเงินไล่เฉดสี (Blue Gradient) จับคู่มากับสายนาฬิกายางสีกรมสุดโดดเด่น
ปิดท้ายที่ตัวเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดโทนสีดำไล่เฉดสี (Black Gradient) ที่มาพร้อมสายนาฬิกายางสีส้มซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ของ Mido ซึ่งสามารถเติมเต็มลุคสไตล์สปอร์ตได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้ภายในงานต่างก็ร่วมเผยถึงเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาเรือนแรก และสไตล์ของนาฬิกาเรือนโปรด เริ่มจาก หนุ่มมาดเท่ อิทธิฤทธิ์ รัตนทารส อัมพุช เผยว่า “
ก่อนตัดสินใจซื้อนาฬิกาเรือนแรก เราควรเริ่มศึกษาก่อนว่านาฬิกาแต่ละแบรนด์มีเรื่องราวความน่าสนใจอย่างไร และมีนาฬิการุ่นไหนเป็นไอคอนิก อาจจะเลือกซื้อจากแบรนด์หรือรุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เพราะจะสามารถสร้างมูลค่าในอนาคตได้
สำหรับนาฬิกาเรือนโปรดที่ใส่บ่อยจะเป็นเรือนที่เข้ากับสไตล์เรา สามารถใส่ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะใส่ไปทำกิจกรรมหรือไปทำงาน ก็จะเป็นเรือนที่ดีไซน์มีความคลาสสิก สามารถปรับเปลี่ยนสายได้ไม่ว่าจะเป็นสายยางหรือสแตนเลสสตีล เพื่อให้เข้าได้กับทุกลุค”
ถัดมาที่ สาวสังคม สิริน ศรีอรทัยกุล เล่าว่า “นาฬิกาเรือนแรกอาจจะเลือกจากดีไซน์ที่คลาสสิก เหนือกาลเวลา จะได้ใส่ได้นาน ส่วนเรือนที่เราใส่ติดข้อมือบ่อยๆ จะเลือกจากขนาดที่พอดีกับข้อมือ เพื่อความคล่องตัว รวมถึงดีไซน์หน้าปัดที่มีความโมเดิร์น มีเทคนิคการไล่เฉดสีที่โดดเด่น ใส่แล้วช่วยเติมเต็มลุคได้เป็นอย่างดี
และสาวนักกิจกรรม ปาวา นาคาศัย เผยว่า “เคล็ดลับซื้อนาฬิกาเรือนแรกแนะนำเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยและการใช้งาน ถ้าเป็นวัยรุ่นอาจจะเลือกดีไซน์ที่มีความทันสมัย สีสันสดใส แต่ถ้าวัยทำงานควรเลือกนาฬิกาที่มีดีไซน์เรียบหรูอย่างการใช้สายสแตนเลสสตีลที่ใส่แล้วดูภูมิฐาน ส่วนเราจะเลือกนาฬิกาจากฟังก็ชั่นเป็นหลัก เพราะเป็นคนชอบทำกิจกรรม นาฬิกาที่ใส่ประจำต้องสามารถใส่ดำน้ำลึกได้ อ่านค่าในที่แสงน้อยได้ และในขณะเดียวกันดีไซน์ต้องมีความสปอร์ตคลาสสิก เหมาะกับสไตล์ของเรา”
ร่วมสร้างสรรค์สไตล์อันโดดเด่นผ่านเรือนเวลาหรูคอลเลกชั่นคลาสสิก Multifort TV Big Date นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้
ที่เคาน์เตอร์ Mido เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada
และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline