ตอนที่เปิดตัวออกมา ผมจับเจ้านี่อยู่ใน Wish List ของตัวเอง (แต่จะซื้อเมื่อไรอีกเรื่องนึงนะ) เพราะชอบในหน้าตา แต่หลังจากได้เห็นราคาก็เลยเกิดอาการลังเลขึ้นมา สุดท้ายก็เลยต้องหาเหตุผลมาช่วยในการสนับสนุน
5 เหตุผลที่ควรเสียเงินให้ G-Shock GPW2000
หลังจากเปิดตัวครั้งแรกใน Basel World 2017 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นาฬิกานักบินในกลุ่ม Gravitymaster รุ่นใหม่ของ Casio อย่าง G-Shock GPW2000 ก็ถูกจับตามองจากคนรักนาฬิกาทั่วโลก เพราะถือเป็นครั้งแรกของ G-Shock ที่มีการนำนาฬิกาแบบ GPS มาเชื่อมต่อกับ Smart Phone ผ่านทาง Bluetooth เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน และเราคิดว่ามี 5 เหตุผลที่ควรเสียเงินให้ G-Shock GPW2000
100,000 เยน กับการเปิดตัวในญี่ปุ่น ส่วนเมืองไทยขยับขึ้นมาถึง 39,000 บาท (หรือหาซื้อข้างนอกได้ในระดับ 27,000-29,000 บาท) อาจจะทำให้ใครหลายคนชะงัก และลังเลว่าจะลุยต่อหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะโอเคหรือไม่
เอาละ…ถ้าคุณยังหาเหตุผลไม่เจอในการควักเงินเพื่อแลกกับนาฬิการุ่นนี้ เอาเป็นว่าเราหาเหตุผลมาให้ 5 ข้อ นอกเหนือจากเรื่องของหน้าตาและรูปลักษณ์ที่สวยโดนใจ ซึ่งเราคิดว่ามีผลทำให้ GWP2000 มีความน่าสนใจและเหมาะที่จะเสียเงิน
1.การพาคุณเข้าสู่ยุคใหม่ของนาฬิกา : ถ้าคุณมีโอกาสตามติดความเคลื่อนไหวของนาฬิกา โดยเฉพาะแบรนด์จากฝั่งญี่ปุ่น เช่น Seiko Citizen และ Casio คุณจะเห็นความเคลื่อนไหวในการนำนาฬิกาที่มีอยู่มาผนึกกับโลกใหม่ทางด้านเทคโนโลยีโดยที่ไม่ให้ตัวเองต้องสูญเสียตัวตน และที่สำคัญเพื่อแข่งขันกับคู่ปรับอย่างพวก Smart Watch ทั้งหลาย แน่นอนว่าการใช้ Bluetooth เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างนาฬิกากับ Smart Phone กลายเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง เพราะนั่นเท่ากับเป็นการติดอาวุธให้กับนาฬิกาแบบเดิมๆ ที่เรายังหลงใหลไปกับมัน โดยที่ยังใช้งานง่ายแบบไม่ต้องห่วงว่าแบตฯ จะข้ามวันเหมือนกับพวก Smart Watch หรือไม่ ซึ่งในกรณีของ GPW2000 คือการติดตั้งระบบ Mobile Link ที่ทำงานผ่าน Bluetooth และเชื่อมต่อเข้ากับ Smart Phone โดยที่มีตัว Application เป็นตัวจัดการทำงาน และแสดงผล
2.ความแม่นยำของเวลา : เมื่อก่อนเรามี Multiband6 แต่ตอนนี้เรามี GPS Watch และที่เหนือขึ้นไปอีกคือ การ Link นาฬิกาเข้ากับ Smart Phone และใช้ Server Time เป็นตัวอ้างอิงในเรื่องความถูกต้องของเวลา นั่นเท่ากับว่า GPW2000 จะมีระบบต่างๆ รองรับในเรื่องของการปรับเวลารวมแล้ว 3 แบบด้วยกัน ซึ่ง Casio เรียกว่า 3-Way Time Sync คือ ผ่านระบบมัลติแบนด์ 6 หรือการใช้สัญญาณวิทยุ (ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนเสา) ระบบ GPS (ใช้ง่ายเพราะอาศัยสัญญาณดาวเทียม แต่มีจุดอ่อนในเรื่องการอับสัญญาณโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในอาคาร) และระบบ Server Timer กับการเชื่อมต่อกับ Smart Phone ผ่านทาง Application ที่เรียกว่า G-Shock Connected ซึ่ง App รองรับกับระบบปฏิบัติการทั้ง iOS เวอร์ชัน 10.0 ขึ้นไป และ Android 6.0 ขึ้นไป
3.ขยายขอบเขตในเรื่องของฟังก์ชั่น : จริงอยู่สำหรับคนธรรมดาที่จ่ายค่าตัว GPW2000 ในระดับ 39,000 บาท แต่ได้ใช้ฟังก์ชั่นแค่ 10 บาทอาจจะเสียดาย เพราะจำนวนที่เหลือคือเป็นการจ่ายเพื่อ Passion และการใช้งานเพียงแค่ดูเวลาและจับเวลา แต่สำหรับคนบางกลุ่ม เช่น นักบิน และคนเดินทางรอบโลก นี่คือ นาฬิกาที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะคุณจะได้ฟังก์ชั่นใกล้เคียงกับนาฬิกาเรือนละ 200,000 กว่าบาทอย่าง Breitling B55 Connected ในระดับราคาที่ถูกกว่าเกือบ 5 เท่าตัว โดยคุณสามารถใช้โหมด Flight Log สำหรับใช้ในการบินเพื่อบันทึกการเดินทางของคุณ และสามารถแสดง Map ผ่าน Smart Phone ในแบบ 3 มิติได้อีกด้วย แถมยังอาสัยสัญญาณของ GPS ในการระบุพิกัดการเดินทางของคุณทั้ง Longitude และ Latitude ผ่านทางตัวเรือนนาฬิกาได้ด้วย
4.ไม่ต้องห่วงเรื่องความอึด : ชื่อของ G-Shock การรันตีในเรื่องความทนทานอยู่แล้วสำหรับมาตรฐานการทดสอบ แต่ถ้ามีคำว่า Tough MVT พ่วงเข้ามาด้วยก็จะยิ่งทำให้คุณมั่นใจ เพราะนี่คือ เครื่องหมายที่บอกว่าตัวนาฬิกาผ่านการทดสอบในแบบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ โดยทั้งหมดจะอยู่ภายใต้แนวคิดของการทดสอบที่เรียกว่า Triple G คือ การทดสอบแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ การกระแทก และการสั่นสะเทือน
5.ความเหนือชั้นในด้านการออกแบบและผลิต : ต้องยอมรับว่า GPW2000 มาพร้อมกับอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมายในเรื่องของการเลือกวัสดุในการผลิต เช่น คาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการผลิตสายและเข็มวินาที ซึ่งแม้จะไม่ใช่รายแรก แต่ก็ช่วยยกระดับในเรื่องความใส่ใจในรายละเอียดของการเลือกวัสดุ หน้าปัดแบบ 3D หรือ 3 มิติ ซึ่งช่วยทำให้ตัวนาฬิกาดูมีมิติและสวยขึ้น อ่านค่าต่างๆ ได้ง่าย กระจก Sapphire พร้อมเคลือบสารกันสะท้อนแสง หรือ AR หรือระบบ Tough Solar ที่มีสามารถอยู่ได้แม้จะไม่มีการใช้นาฬิกานานถึง 6-23 เดือนขึ้นอยู่กับการใช้งาน หรือการเก็บ
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/