ช่วงหนึ่งของการไล่ล่านาฬิกา เชื่อเถอะว่าคุณอาจจะพบกับทางตันหรือไม่ก็ทางแยกที่ชวนให้สับสน พร้อมกับอารมณ์ที่เริ่มเบื่อหรือเอียนกับบรรดานาฬิกามีแบรนด์ทั้งหลาย ถ้าไม่ถอดใจเลิกไปเสียก่อน ลำดับต่อไปของการไล่ล่า คือ การก้าวข้ามความเบื่อเพื่อมองหาวิธีเล่นใหม่ๆ ด้วยการมองหานาฬิกาแปลกๆ ที่ไม่เหมือนใคร
ช่วยระดมทุนเพื่อสานฝัน
ตามแนวทางนี้ เรายังมีความสุขและ Happy Hunting เหมือนกับที่ผ่านมา แต่ได้อีกอารมณ์ของการเสาะแสวงหา บางคนอาจจะเลือกไปคุยกับกลุ่ม Homage หรือไม่ก็อาจจะเริ่มโมดิฟาย หรือ MOD นาฬิกาของตัวเองด้วยพาร์ทแต่งที่มีขายกันเกลื่อนในอินเตอร์เนต หรือไม่ก็มองหาผู้ผลิตหน้าใหม่ๆ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการก่อตั้งแบรนด์ของเขา
ตัวผมเองมีช่วงอารมณ์หนึ่งในลักษณะนี้ และเลือกชอยส์สุดท้ายในการเดินทางของช่วงเวลาแห่งความสับสน ซึ่งการได้พบกับเว็บอย่าง Kickstarter เท่ากับเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เห็นว่า ในแวดวงของนาฬิกา ยังมีนักออกแบบ หรือผู้ผลิตหน้าใหม่ที่มีไอเดียแต่ยังขาดเงินทุนในการพัฒนาอยู่มากมาย
ตัวผมเองมีช่วงอารมณ์หนึ่งในลักษณะนี้ และเลือกชอยส์สุดท้ายในการเดินทางของช่วงเวลาแห่งความสับสน ซึ่งการได้พบกับเว็บอย่าง Kickstarter เท่ากับเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เห็นว่า ในแวดวงของนาฬิกา ยังมีนักออกแบบ หรือผู้ผลิตหน้าใหม่ที่มีไอเดียแต่ยังขาดเงินทุนในการพัฒนาอยู่มากมาย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2014 เมื่อผมได้พบกับเว็บนี้และได้เจอกับการระดมทุนของนักออกแบบชาวฮ่องกงอย่าง Joe Kwan และ Chris Chan ที่กำลังปั้นแบรนด์นาฬิกาตัวเองที่ชื่อว่า Anicorn ถ้าพูดแบบเท่ๆ อาจจะเหมือนกับผมพยายามช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการก่อร่างสร้างแบรนด์ของ 2 คนนี้
แต่เชื่อเถอะ ผมไม่ได้มีจิตใจดีถึงขนาดนั้น และถ้าไม่ใช่เพราะไอเดียของพวกเขาในการนำเสนอสิ่งที่เรียกว่า Disc Watch ออกมา ผมคงไม่หยุดดู และรูดปริ๊ด เพื่อเป็น Early Bird ของพวกเขาหรอก
นาฬิการุ่นนี้มีชื่อเรียกเท่ๆ ว่า Series 000 มากับตัวเรือนวงกลมแบบไร้ขามีขนาด 42 มิลลิเมตร ที่ใส่ยังไงแล้วก็ยังดูเล็กไปหน่อย (ตามความรู้สึกของตัวเอง) เมื่ออยู่บนข้อมือขนาด 7 นิ้วของผม แต่ผมก็ยังชอบเพราะไอเดียกับงานดีไซน์ที่ทำให้ตัวนาฬิกามันดูสะดุดตา
จริงๆ แล้วอาจจะไม่ใช่ของใหม่เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นนาฬิกาที่ใช้จานดิสก์ในการแสดงเวลาหลักชั่วโมง นาที และวินาทีมาก่อนแล้ว แต่ก็อดไม่ได้เหมือนกลับมาได้เห็นไอเดียที่แปลก แหวกแนว โดยโปรเจ็กต์ถูก Launch ในช่วงเดือนตุลาคม 2014 และผมต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนกว่าที่จะได้รับสินค้า แต่ตลอดช่วง 3 เดือนมันเต็มไปด้วยความสนุก และลุ้น เพราะทางทีมงานจะอัพเดทความเคลื่อนไหวตลอด เรียกว่าคุณได้ตามติดการพัฒนาและการผลิตนาฬิกาเรือนนั้น
เช่นเดียวกับการเอาใจช่วยให้พวกเขาได้ Backer หรือคนอุดหนุนเยอะๆ เนื่องจากหวังว่านาฬิกาที่คุณสั่ง มันจะได้อัพเกรดสเป็กขึ้นไป เช่น การเปลี่ยนจาก Mineral Glass เป็น Sapphire ในกรณีที่เงินระดมทุนได้รับเพิ่มขึ้นในระดับที่พวกเขาตั้งเป้าเอาไว้ (บอกแล้วไง ผมไม่ใช่คนที่จิตใจดีขนาดนั้น) จะว่าไปแล้วมันเป็นการซื้อนาฬิกาที่แปลก แต่สนุกอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณได้ลุ้นและเอาใจช่วยเพื่อให้สมหวังสักที
ในช่วงแรกที่พวกเขาระดมทุน Series 000 มีผลิตออกมา 4 สีของจานวินาที แต่สีพิเศษที่เรียกว่า Moss (หมายถึงจานวินาทีเป็นสีเขียวสลับดำ) จะเป็น Limited Edition ซึ่งก็หมดไปในเวลาไม่นาน ขณะที่อีก 3 สีคือ แดง เหลือง และฟ้าจะมีจำกัดยอดเอาไว้สำหรับ Early Bird หรือพวกนักเสี่ยง แต่ไม่ได้รันเลขเป็น Limited ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาแล้ว และ Anicorn เปิดตัว Store ทั้งออนไลน์ และหน้าร้านปกติ พวกเขาก็เพิ่มสีใหม่ๆ เข้ามา เช่น ขาว หรือส้ม
ตอนที่ทาง Anicorn เปิดจองพวกเขามีให้เลือกทั้งควอตซ์ และอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าผมเลือกเอารุ่นหลังที่ใช้เครื่องของ Miyota รุ่น 8215 และเมื่อนาฬิกามาถึง ต้องยอมรับว่ามันเป็นนาฬิกาที่สวยสะดุดตาจริงๆ เพราะทุกรายละเอียดหรือแม้แต่ฟอนต์
ตัวเลขบนจานหมุนทาง Kwan จัดการออกแบบด้วยตัวเอง หรือแม้แต่แพ็คเกจที่มาในแบบกล่องยาวเหมือนกับปากกา และมีแมนนวลเป็นแผ่นพับเล็กๆ สอดเอาไว้ ที่สำคัญสำหรับพวก Early Bird ที่จองในตอนนั้น ทุกคนจะได้รับจดหมายขอบคุณพร้อมกับการระบุหมายเลขของเรือนที่ได้จากจำนวน 200 เรือนที่พวกเขาวางขายในฐานะ Early Bird เอาเป็นว่าคุณจะรู้สึกเหมือนเป็นลูกค้าคนพิเศษโดยที่ไม่จำเป็นต้องควักเงิน 7 หลักเพื่อแลกกับบริการนี้
ในแง่ของตัวนาฬิกา อาจจะดูยากสำหรับคนที่ไม่คุ้น แต่ก็ไม่ยากเกินไป เพราะตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกาบนตัวเรือนจะมีการเซาะร่องเอาไว้เพื่อให้เป็นหลักเวลา และตัวคุณเองก็ใช้จุดนี้สร้างแนวเส้นดิ่งในจินตนาการเพื่อเป็นตัวบอกเวลาถ้าเส้นนี้ถูกลากผ่านตัวเลข 11 ในจานใหญ่สุด (จานชั่วโมง) และ 25 ในจานที่ 2 (จานนาที) และ 50 ในจานที่ 3 (จานวินาที) ก็จะหมายความว่านั่นคือ 11:25.50 น.
ประเด็นที่อาจจะไม่ถูกใจแต่ไม่ถึงเป็นเรื่องใหญ่ คือ ความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนสายใหม่ เพราะหลายคน โดยเฉพาะผมมักจะไม่ค่อยชอบสายเดิมที่ติดมาจากโรงงาน และมักจะเลือกหาสายหนังสวยๆ มาจับคู่กับนาฬิกาของตัวเอง เพื่อสร้างความแตกต่าง ซี่งในกรณีของ Series 000 แทบจะลืมได้เลย เนื่องจากร่องยึดสปริงบาร์อยู่ล้ำเข้าไปข้างในตัวเรือน และสายที่จะใช้แทนที่จะต้องมีขนาดที่ต้องบางเอามากๆ เลย เรียกว่าสุดท้ายต้องสั่งตัดเอาเป็นพิเศษ กับขนาด 20/20 บางเฉียบ
ส่วนอีกประเด็นคือ ฝาหลังซึ่งเป็นแบบไขน็อต ประเด็นนี้เราไม่ได้กลัวในเรื่องประสิทธิภาพการกันน้ำ แต่ห่วงในเรื่องของน็อตที่เมื่อใช้ไปนานๆ และโดนคราบเหงื่อนไคล อาจจะทำให้ขันลำบาก หรือถ้าใครไขไม่เป็นอาจจะทำให้หัวน็อตยับเยินได้ ในกรณีที่ต้องเปิดฝาหลังออกมาเซอร์วิส
นอกจากนั้น การออกแบบเม็ดมะยมยังค่อนข้างแน่น แถมขนาดยังเล็กและยาวออกจากตัวเรือนเพียงนิดเดียว ก็เลยกลายเป็นปัญหาที่ทำให้ดึงออกค่อนข้างยาก และต้องใช้แรงดึงเล็กน้อยในครั้งแรกๆ แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็โอเค ส่วนประเด็นในเรื่องการปรับเวลาก็ใช้หลักการเดียวกับการดูเวลา โดยยึดเส้นตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกาเป็นตัวระบุเวลา ที่คุณต้องการ จากนั้นก็หมุนเม็ดมะยมตั้งเวลาที่ต้องการ เช่น ถ้าต้องการตั้งเวลา 7:30 ก็หมุนจนกระทั่งจากชั่วโมงผ่านเลข 7 และดูจานนาทีให้เลข 30 ตรงกับหลักนี้ เป็นอันเสร็จพิธี
เอาเป็นว่าทั้งคู่ปิดโปรเจ็กต์นี้ไปนานละ และสามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาได้ จนมีดีลเลอร์กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ รวมถึงเปิดตัวโมเดลที่ 2 ออกมาในชื่อ K452 ซึ่งรับพรีออร์เดอร์อยู่ในตอนนี้ ส่วนถ้าคุณอยากจะได้ Series 000 ก็ยังมีโอกาสอยู่ แต่ราคาคงไม่ใช่เท่ากับที่เคยมีมาก่อน เพราะราคาหน้าเว็บของ Anicorn ณ ตอนนี้อยู่ที่ 385 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 13,000 กว่าๆ ถามว่าแพงไหม ก็แพงกว่าตอนที่ผมร่วมสนับสนุนโครงการในยุคเริ่มต้นเหมือนกัน
แต่ถ้าอยากจะได้ ก็ต้องทำใจครับสำหรับผู้มาที่หลัง
คุณสมบัติ
- กลไก : Miyota 8215 automatic movement
- ความถี่ : 21600 ครั้งต่อชั่วโมง ทับทิม 21 เม็ด
- ความแม่นยำ : -20~+40 วินาทีต่อวัน
- สำรองพลังงาน : มากกว่า 40 ชั่วโมง
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร PVD Black Plating
- ความหนา : 10 มิลลิเมตร
- กระจก : แซฟไฟร์ เคลือบสารกันสะท้อน
- กันน้ำ : 50 เมตร
- จุดเด่น : ความแปลกของตัวนาฬิกา และขนาดที่กำลังพอดีในกรณีที่คุณสลับนาฬิกาใส่กับแฟน หรือหวานใจ
- จุดด้อย : เม็ดมะยมดึงยาก รูยึดสปริงบาร์อยู่ลึก และขนาดช่องเสียบสายแคบ ทำให้ใช้สายที่มีความหนาไม่ได้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/
